จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งจังหวัดในภาคเหนือที่ขึ้นชื่อว่ามีสภาพอากาศเย็นสบายกว่าจังหวัดอื่นๆ ในต่างภูมิภาค ถึงแม้ว่าวิกฤติโลกร้อนจะทำให้สภาพอากาศในภาคเหนือร้อนขึ้นค่อนข้างมาก แต่ก็มีคนอีกมากมายที่ฝันอยากจะปลูกบ้านในฝันน่ารักๆ ไว้อยู่อาศัยที่เขตเมืองเหนือแห่งนี้
หนึ่งในนั้นก็คือคุณ pulsedownfoot เจ้าของบ้านสวนสไตล์วินเทจ ตั้งอยู่กลางที่ดินเขตชนบทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการสร้างบ้านของคุณเจ้าของบ้านนั้น ก็ได้ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเรียกว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือพระเจ้าลิขิตให้ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นแรงผลักดันให้เกิดบ้านสวนที่ทั้งสวยและสมบูรณ์แบบ เปี่ยมไปด้วยความภูมิใจ ตอบโจทย์บ้านในฝันทุกประการ
เรื่องราวจะน่าติดตามขนาดไหนนั้น ต้องลองมาชมกันดูแล้วล่ะครับ
บ้านในฝัน ที่ได้มาอย่างไม่คาดฝัน
(โดย pulsedownfoot)
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปเที่ยวเชียงใหม่เลย
คิดแต่ว่าสักวันหนึ่งอยากจะไปๆ ใครจะไปรู้ว่า การเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งแรกในชีวิตเมื่อสามปีที่แล้ว มันไม่ใช่แค่การเดินทางไปเที่ยว แต่มันคือการเดินทางไป “สร้างบ้านในฝัน” แบบไม่คาดฝัน
หลายคนบอกว่าทุกสิ่งอย่างล้วนมี “เจ้าของ” และมักจะถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าควรจะเป็นของใคร รอแค่เวลา เราก็ไม่เคยเข้าใจคำพูดนี้นะ
จนเมื่อ 3 ปีก่อน…
หลังจากที่ผ่านวิกฤตอะไรต่างๆมา ทั้งบ้านไฟไหม้ ทั้งแฟนทิ้ง ยุ่งแต่กับงาน จนสร้างบ้านให้พ่อกับแม่สำเร็จแล้ว ก็นึกอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง คิดๆๆๆ แต่ไม่รู้จะหาซื้อที่ๆไหน หรือจะเริ่มต้นยังไงดี
จนบังเอิญ…..ได้ไปเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ก็คุยกันเล่นๆ เรื่องที่ เรื่องบ้าน แต่กลายเป็นที่มาของบทเริ่มต้นทั้งหมดจากนี้
ความบังเอิญแรก
พี่เขาซื้อที่ๆเชียงใหม่ไว้ผืนหนึ่ง และกำลังสร้างบ้านอยู่ เขาก็ให้เราดู”รูปถ่าย” ที่ดินโครงการจัดสรรผืนหนึ่งตรงข้ามที่ๆ พี่เขากำลังสร้างบ้านเขาอยู่ ซึ่งพอเราเห็นปุ๊บ เราบอกพี่เขาว่า หนูอยากได้! ตัดสินใจซื้อทันที ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่มีเงินเลย และประเด็นสำคัญคือ…เห็นแค่รูป!! 555
แต่ใจมันบอกว่า นี่ล่ะ ที่ในฝันของเรา
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก
เพื่อนๆ อ่านต่อไปเรื่อยๆ แล้วอาจจะต้องตกใจไปกับความบังเอิญทั้งหมดในการทำบ้านหลังนี้ มันดูเหลือเชื่อนะสำหรับเรา
ความบังเอิญที่ 2
หลังจากเห็นรูป ใจมันก็กระวนกระวาย อยากได้ๆๆ กลัวจะมีคนมาแย่งใช่ไหม เราเลยบอกรุ่นพี่ว่า ให้โทรบอกเจ้าของที่เลย ว่าน้องจะซื้อ ขอนัดเจอได้มั้ย จะบินขึ้นไปทำสัญญา ก็บังเอิญ เจ้าของที่จะเดินทางมากรุงเทพพอดี เราเลยไม่ต้องขึ้นไปเชียงใหม่ แถมตรงกับช่วงเราหยุดงานพอดีอีก ณ จุดนี้ จริงก็แอบกลัวนะ ว่าไว้ใจได้มั้ย จะเจอหลอกมั้ย ที่ดินของจริงก็ไม่เคยเห็น อาศัยดูจากรูปไม่กี่รูป แต่คนเรามันจะมีเซนส์บางอย่าง วันที่เราเจอเจ้าของ นัดเจอกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เค้ามีเอกสาร โฉนด ทุกอย่างมาพร้อม
เราก็แอบพิจารณาหลายๆอย่างระหว่างคุยกัน และใจบอกว่าผู้ใหญ่ท่านนี้ไม่ใช่คนที่จะมาหลอกเอาเงินเพียงแค่ไม่กี่บาทกับเราแน่นอน
ณ จุดนี้ เป็นเจ้าของที่มากกว่า ที่ต้องเริ่มคิดหนัก เพราะ….ทั้งเนื้อทั้งตัวเราตอนนั้นมีเงินแค่ “300,000”บาท
บอกแล้วว่าไม่มีเงิน แต่ใจมันร่ำร้อง จะเอาาาาา 5555
เราบอกขอมัดจำ 600,000 ก่อนได้หรือไม่ ขอเวลา 1เดือนจะหามาให้ ส่วนที่เหลือจากนั้น จะทำเรื่องกู้ แต่คงใช้เวลาสักหน่อย ขอเจ้าของที่ช่วยให้โอกาส รอนิดนึง
เจ้าของที่แอบเหมือนจะเซ็ง 555 แต่เขาบอกว่า เห็นแก่ความตั้งใจจริง และเพราะต้องการจะเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่ ต่อรองไปมาเจ้าของเลยบอกว่าโอเค ให้เวลาถ้าจำไม่ผิด 2เดือน!
เอาละสิ…แล้วจะไปทำเรื่องกู้กับใครที่ไหน และนี่คือที่มาของ……
ความบังเอิญที่ 3
เจ้าของที่บอกเค้าเป็นนายธนาคารเก่าจ้า!! ถามเราว่า ไปทำสัญญาวางเงินมัดจำกันเลยวันนี้สะดวกมั้ย เพราะจะได้มีพยายานรับรู้พร้อม อีกอย่างเค้าจะได้ไปเยี่ยมเยียนลูกน้องเก่าๆ ไอ่เราตอนแรกที่กลัวๆ กลายเป็นว๊าววว บังเอิญไปอ่ะป่าว!
การไปทำสัญญา ก็ประหนึ่งวีไอพี ขึ้นไปชั้นบนสุดของธนาคาร ซึ่งทำให้เราได้พบกับผู้ที่ต่อมากลายมาเป็นผู้ดำเนินการจัดการเรื่องเอกสารการกู้ยืมทั้งหมดให้กับเรา ซึ่งพี่ท่านนี้ เขานับถือเจ้าของที่อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเจ้านายเก่า เลยเต็มใจช่วยดูแลเราอย่างดี เป็นพี่ที่เรานับถือจนปัจจุบัน เขาช่วยเหลือเราด้วยน้ำใจไมตรีในหลายๆเรื่อง ซึ่งบางเรื่อง ถ้าไม่ได้เขา เราคงไม่สามารถทำบ้านในฝันหลังนี้ให้เป็นจริงได้
เป็นไงคะ บังเอิญไปโม้ดดดดดด ยังไม่หมดนะ เดี๋ยวจะมาต่อ เอารูปบ้านกับสวนเมื่อล่าสุด ถ่ายไว้ตอนต้นเดือน มาแปะให้ดูเรียกน้ำย่อยก่อนนะคะ
ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด
เรื่องกู้ ที่กะว่าจะทำเรื่องกู้ซื้อที่อย่างเดียวจบ แล้วค่อยมาคิดสร้างบ้านเมื่อเงินพร้อม
ปรากฎว่า ธนาคารไม่มีนโยบายให้กู้ซื้อที่ดินเปล่าๆ เราต้องสร้างบ้านเท่านั้น ถึงจะพิจารณา!!!
ทำยังไงล่ะคะที่นี้ ก็เลยต้องตัดสินใจ…สร้างก็สร้างวะ! 555
ขั้นตอนต่อไปคือ…แบบบ้าน และผู้รับเหมา..จะไปหาที่ไหน และจะเริ่มต้นตรงไหน เอกสารประกอบการกู้ยืมอีก หลายสิ่ง!
ตอนแรกกะจะใช้ช่างของรุ่นพี่ที่ทำงานที่เขาใช้บริการอยู่ แต่ช่างรับเหมาประเมินไว้อยู่ที่ 3.5ล้าน โดยประเมินคร่าวๆไว้ว่าถ้าบ้านลักษณะคล้ายๆแบบนี้ พื้นที่ใช้สอยเท่านี้ จะราคาสักเท่าไหร่
เราก็เลยคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกัน เป็นคนเชียงใหม่ แต่อยู่ญี่ปุ่น เค้าบอกว่าจะลองให้พี่เขยช่วยแนะนำคนรู้จักให้ แต่ก็ 3.5ล้าน+ เช่นกัน ไหนจะความกังวลเกี่ยวกับผู้รับเหมา และเวลาอีก ไปๆมาๆ พี่เขยเพื่อน ตัดสินใจรับเหมาทำให้เองเลย ซึ่งนี้ก็เป็น…
ความบังเอิญที่ 4
เขาเป็นวิศวกรมือดีในเชียงใหม่จ้าาา คงทนรำคาญเพื่อนเราไม่ไหว โดนขอร้องกึ่งบังคับให้ช่วยมั้ง 555 เลยยอมยื่นมือเข้ามา ปกติจะคุมก่อสร้างงานใหญ่ๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่อพาร์ทเม้นต์ ยันโรงพยาบาล มีลูกน้องครบทุกด้าน เพราะฉะนั้น แบบบ้านในฝันของเรา จึงสำเร็จไวมากกกก เราขึ้นไปรับแบบที่เชียงใหม่ เอามายื่นให้ธนาคาร มีแบบบ้าน งานไฟ งานปะปา ฯลฯ พร้อมลายเซ็นต์วิศวกร และใบประเมินราคาพร้อม
มันเป็นแบบบ้านในฝัน ที่สวยถูกใจ พร้อมใช้งานจริง ไม่ได้สักแต่วาดๆ คือพร้อมเอาไปสร้างเลย มีไอเดีย ความต้องการของเราอยู่ครบในแบบบ้านนั้น
เราได้ยินมาว่าค่าทำแบบนี่อย่างน้อยๆ ก็3-7% ของราคาของราคาบ้านแล้ว แต่นี่….พี่เขยเพื่อนทำให้แทบจะฟรี…ซึ้งมากๆ เราจ่ายค่าน้ำใจให้ลูกน้องเค้าไปทั้งหมด 25000บาทเองมั้ง
บอกตรงๆ ตอนนั้นเครียดมาก เพราะทำทุกอย่างเองหมดเลย ไม่ได้บอกใคร ปิดทุกคน เป็นคนตัดสินใจทำอะไรไวมาก ไม่ได้ปรึกษาใครเลย คือต้องการจะเซอไพรส์พ่อแม่ ว่าอยู่ดีๆ ลูกสาวก็มีบ้านเป็นของตัวเองละนะ 555 หาเรื่องใสตัวจริงๆ เป็นไงล่ะ
แต่โชคดีที่เรื่องเอกสารราบรื่นทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ธนาคารลูกน้องเก่าเจ้าของที่ ช่วยจัดการเป็นธุระให้หมด เรามีหน้าที่แค่เข้าไปเซ็นต์เอกสาร และหาเอกสารมาให้ตามที่จำเป็นเท่านั้น
ไปๆมาๆ ใช้เวลาดำเนินการกู้ทั้งหมด 4 เดือน ตกลงทำสัญญากู้เพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัยพร้อมกันไปเลย โดยธนาคารแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ซึ่งระหว่างรอกู้ เจ้าของที่ก็กรุณามากๆ รอเราถึง 4 เดือน โดยระหว่างที่รอ เราก็แบ่งผ่อนจ่ายให้เขาเดือนละ 25,000บาท ไปเรื่อยๆ จนถึงวันไปทำเรื่องโอนที่ดินที่อำเภอ ก็ยังจัดการรับผิดชอบค่าทำเนียมทุกอย่างจำนวนหลายหมื่นบาทแทนเราหมดอีกตะหาก!!
เราโชคดีมั้ยคะ
โอเค…! ขั้นตอนการกู้ สำเร็จแล้วค่าาาา
จากนี้ต่อไป บ้านพร้อมสร้างละจ้าาา มาดูกันว่าการสร้างบ้านของเรามีขึ้นตอนยังไงบ้าง
จากที่ร้อยวันพันปีไม่เคยไปเชียงใหม่ แต่จากนี้ไป จะต้องขึ้นไปทุกเดือนเลยค่ะ ตอนแรกก็กังกลว่าเราไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วใครจะดูแลการก้อสร้างให้ แต่พอได้พี่เขยเพื่อนมาดูแลให้ เราเลยหมดห่วงเรื่องนี้ไปเลยค่ะ เพราะถึงต่อให้เราไม่อยู่ เค้าก็ไม่ทิ้งงานเรา ดูแลจัดการคุมงานให้ประหนึ่งทำบ้านของตัวเอง นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่เราโชคดีสำหรับการทำบ้านหลังนี้
และบ้านหลังนี้ เรามีส่วนร่วมดูแลก่อสร้างตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะ เหมือนได้เรียนรู้ขั้นตอนการสร้างบ้านไปในตัว จากที่ไม่รู้อะไรเลย และไม่คิดว่าจะมีวันที่จะได้รู้ สนุกมากๆ นี่ถ้าออกมาทำรับเหมาบ้างน่าจะพอได้นะ 555
มีความสุขมากๆที่ได้เป้นส่วนหนึ่งในทุกขั้นตอน
มาดูกันเลยค่าา
ที่ดินบ้านเราหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นิดๆ ซึ่งตามฮวงจุ้ย ถือว่าเป็นทิศที่ดีใน20ปีข้างหน้านี้เลย อิอิ
ทำการทดสอบลักษณะดินก่อนทำการปลูกสร้าง
เพื่อประเมินว่าควรจะวางรากฐานแน่นหนาขนาดไหนดี
ได้เวลาวางผังบ้านกันแล้วววว
มีส่วนร่วมด้วยนะเจ้าของบ้านอ่ะ ไม่ใช่มายืนเฉยๆ
เราคอยช่วยฉีดสีตามเสา และผูกเชือกเพื่อทำสัญลักษณ์
ก่อปูนเอาไปเทบนเสา
เพื่อเป็นสัญลักษณ์สำหรับคนที่จะมาลงเสาเข็มอาทิตย์หน้า
ต่อมาก้อลงเสาเข็มค่ะ
ไวมากๆ
หลังจากงานเสาเข็มเสร็จ ช่างเซ็ทต่อไปก้อทำการขุดหลุมเสา
เพื่อรอการลงเสาและเทปูน
ช่างเตรียมดัดเหล็กเพื่อทำเสา
ช่างใหญ่ตรวจคุณภาพงานดัดเหล็ก
ว่าผ่านหรือไม่
กำลังสอนคนงานวิธีการมัดเหล็กทำเสา
โดยพี่เขยเพื่อน ช่างใหญ่ฝีมือดี
ช่างได้ทำการงอเหล็กและผูกเหล็ก
วิธีการมัดเหล็กแบบนี้ ช่วยกันแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้
เมื่อมาถึงตอนนี้ เราจะไม่บอกพ่อกับแม่ก็ไม่ได้
เพราะต้องลงเสาเอก เอาเฤกษ์เอาชัย เราอยากได้สิริมงคล และความร่มเย็นให้กับบ้านของเรา เลยตัดสินใจว่าต้องบอกพ่อกับแม่ เพื่อให้ท่านขึ้นมาร่วมกันทำพิธีลงเสาเอกให้
สิ่งของต่างๆที่ใช้ในพิธีลงเสาเอก
ทำพิธีไหว้ท้าวเวสสุวรรณ 4 ทิศ
เพื่อขอให้ท่านช่วยเบิกทางให้ ช่วยให้การก่อสร้างราบรื่น
นิมนต์พระจากวัดเจ็ดยอด
ได้ความกรุณาจากท่านช่วยมาทำพิธีให้
ส่วนนี่ พ่อกับแม่ของเรา…
ผู้ที่สำคัญกับเรา พรจากพ่อกับแม่ที่ให้กับการสร้างบ้านหลังนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องการที่สุด ดีใจที่พ่อกับแม่แฮ้ปปี้ และขึ้นมาเชียงใหม่ เพื่อมาอวยพรให้
ไม้ 9 มงคล
ความมงคลพร้อมมมมม
เทคอนกรีตเสาเอกกับเสาโทก่อน
มีเครื่องจี้ด้วย
รับรองคอนกรีตอัดแน่น!
ขึ้นเสาที่เหลือเรียบร้อยแล้ววว
รอเทปูนจ้าา
ไม้แบบตอม่อมาละ
เริ่มก่อแบบทำตอม่อ
ต้องคำนวนระดับความสูงของตอม่อแต่ละต้น
เนื่องจากตัวบ้านมีการเล่นระดับ และพื้นดินมี slope สูงต่ำ จึงต้องคำนวนเยอะหน่อย และมีการ “วัดดิ่ง” เพื่อดูว่าเสาตั้งตรงได้ระดับตั้งฉากกับพื้นหรือไม่
จากนั้นก็เริ่มเทปูนทั้งหมด 34 ต้น
เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง! ช่างเราเก่ง และขยันที่ซู้ดดด
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีพลาดแน่นอน
เนื่องจากผู้คุมก่อสร้างบ้านเราเป็นวิศวกรที่มีความละเอียด (พี่เขยเพื่อน) รายละเอียดเล็กๆน้อยๆไม่มีพลาด แม้แต่หล่อเสาบ้าน ยังเอาเครื่องจี้ปูนมาใช้ด้วย เพราะเขาบอกว่าจะช่วยให้ปูนแน่น สม่ำเสมอ เสาออกมาสวยงามแน่นหนา
เอาจริงๆนะ…ทำบ้านหลังนี้ เราได้ความรู้เพียบ!!
ผ่านไป 2 วัน แกะแบบตอม่อแล้ว สวยงาม ไม่มีรอยร้าวหรือเหล็กโผล่
ต่อมาก็เริ่มดัดเหล็กสำหรับทำคานกันแล้ว
ความพิเศษของเหล็กคานนี้คือ เป็นการดัดแบบหูกระต่าย สามารถรับแรงสั่นสะเทือนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวได้
วางเหล็กพร้อมสำหรับคานแล้ว
แบบก็พร้อมแล้ว
คานและพื้นห้องน้ำพร้อม!
ภายในเวลาแค่อาทิตย์เดียว ช่างเราเลิศสุดๆค่ะ เมพขิงเจงๆ ตอนนี้ก้อแค่รอคอนกรีตสำเร็จรูปมาส่งเพื่อหล่อตามแบบ แค่นี้งานคานก้อเรียบร้อยล่ะ
หลังจากเทคอนกรีตแบบคานไปแล้ว
วันต่อมาก็ทำการแกะแบบได้คานสวยงาม
ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า ช่างเริ่มทำงานรวดเร็ว!
ระหว่างรอแผ่นพื้นมาส่ง ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดไป 3 วัน ช่างก้อไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ โดยเริ่มทำงานเสากันก่อนเลย
พร้อมเทปูนแล้วค่ะ
จ้างบริษัทกำจัดปลวกมาวางท่อน้ำยา
ระหว่างที่รอแผ่นพื้น อีกอย่างที่เราทำคือ จ้างบริษัทกำจัดปลวกมาวางท่อน้ำยาค่ะ วางมันที่เสาคานรอบๆ บ้านเลย
แผ่นพื้นมาถึงสักที!!
เริ่มวางโครงเหล็ก
พอวางแผ่นพื้นเสร็จ ช่างก็เริ่มวางโครงเหล็ก และก่อแบบเพื่อเทคอนกรีตทับแผ่นพื้นต่อไป
แผ่นเหล็กที่ใช้วางบนแผ่นพื้นที่เราใช้ เป็นแบบมี “ข้ออ้อย”
ช่างบอกว่าเทพเว่อร์ๆ อ่ะ บ้านหลังนี้ (ว่าไงว่างั้นค่ะ) 555
เริ่มเทปูนได้
ข้อดีของการใช้คอนกรีตสำเร็จรูปคือไว ประหยัดเวลา และได้มาตรฐานทั่วถึงกัน
หลังจากงานพื้นชั้นล่างเสร็จ ขั้นต่อไปคือทำพื้นห้องใต้หลังคา
แต่ระหว่างนั้น เราก็ทำการสั่งอิฐมวลเบามาไว้ เพื่อเริ่มงานก่อฉาบไปด้วยพลางๆ เงินมีปุ๊บ พอทำอะไรได้ก่อนก็ทำอันนั้นล่ะ 555
พี่เขยเพื่อนเราเทพสุดๆ ไม่มีปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ และช่วยบริหารการใช้งบแบบสุดๆ
ผ่านไปประมาณ 3 เดือน
นี่คือผลงาน ถือว่าเร็วมากๆ
บอกเลยว่าตอนนั้นที่ทำบ้านหลังนี้เราไม่มีเงินสักกะบาท
555 คืออึ้งกับความบ้าของตัวเองนะ
ต้องทำงานหาเงินมาโปะเดือนต่อเดือน เพราะเงินที่กู้มาสร้างบ้าน ธนาคารไม่ได้ให้ทีเดียวทั้งก้อนนะค๊าาา
แต่จะให้ก็ต่อเมื่องานแต่ละส่วนเสร็จสมบูรณ์ตามข้อตกลง ถึงจะโอนเงินให้เราเป็นงวดๆ !! คือ…ก่อนจะได้งวดแรกนี่ หืดขึ้นคอมาก ต้องขอบคุณพี่ท่านหนึ่ง(ลูกน้องเก่าเจ้าของที่)ที่เสนอให้ยืมเงินมาหมุน 1แสนบาทก่อน โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ!!
แต่ต้องคืนกันทันทีเมื่อได้เงินงวดแรกจากธนาคาร
เพราะพี่ท่านนี้ ไม่งั้นเราไม่รู้จะเริ่มต้นสร้างบ้านได้อย่างไร เป็นผู้อุปถัมภ์ของเราจริงๆ คือ…ใครจะไปคิด คนที่ไม่ได้มีความสนิทสนมใดๆกันมาก่อน จะเสนอหยิบยื่นน้ำใจให้แบบนี้ เราถือว่าตัวเราโชคดีมากๆ บ้านหลังนี้ทำให้เราได้แต่กัลยานมิตรดีๆทั้งนั้น
ซึ่งเงิน 100,000 บาทนั้น ช่วยได้เยอะมากๆ ทำให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ เพราะพอเริ่มได้เงินงวดแรกจากธนาคารมาแล้ว ทุกอย่างก็หมุนไปได้เรื่อยๆ ชีวิตเริ่มง่าย และเข้าที่
แถมพี่เขยเพื่อนเรา ก็ไม่เอาเงินสักกะบาทระหว่างที่ทำบ้าน คือ…ที่จ่ายๆ แต่ละงวดนี่เป็นค่าคนงานตามจริง และค่าวัสดุล้วนๆ!!!
เขาไม่เอาเงิน บอกว่าไม่รู้จะคิดยังไง เราเลยสัญญากับภรรยาเขาว่าจะให้ 150,000บาท หลังบ้านเสร็จ แถมเรายังมีหน้าขอผ่อนจ่ายให้ด้วยนะ
ซึ่งถามว่ามันเยอะมั้ย??
ตอบเลยว่า….มันเทียบอะไรไม่ได้เลยยยยยยยย กับน้ำใจของครอบครัวนี้ ซึ่งเราระลึก และขอบคุณเสมอจนถึงทุกวันนี้นะ อย่างที่เราเกริ่นว่าทุกอย่างเหมือนบังเอิญไปซะหมด แต่ถ้ามองย้อนๆไป มันเหมือนจริงๆ ทุกอย่างถูกวางเอาไว้หมดแล้ว ทุกครั้งที่เราเครียดๆ คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงต่อไป จะหมุนเงินอย่างไร จะทันเวลาไหม… เราจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้ง ทั้งเรื่องเงิน เรื่องเวลา และการก่อสร้าง
อ่ะต่อออออ
ขั้นต่อไป ก่อแบบคานและพื้นห้องใต้หลังคา
เทคอนกรีตคานและพื้นห้องใต้หลังคา
คนงานทำงานกันแบบ…สุดยอดแล้วอ่ะ
รู้สึกโชคดีมากที่ได้พวกเค้ามาทำบ้านให้ ขยันมากๆ
งานต่อมาคือ งานบันไดค่ะ
ทั้งบันไดทางขึ้นบ้าน และบันไดขึ้นชั้นลอย
เมื่องานฐานเสร็จแล้ว ต่อไปก้เริ่มงานโครงสร้างภายในนะคะ
นี่งานวางวงกบประตู หน้าต่าง
และงานโครงสร้างหลังคาก็มาละ
ทำควบคู่กันไปกับงานติดวงกบ
และระหว่างนั้น งานวางท่อสายไฟก้อเริ่มแล้วเช่นกัน
เพราะงานฉาบกำลังจะเริ่มเร็วๆ นี้ ช่วงนี้อะไรๆก็ไวมากๆ
งานหลังคาก็ปุ๊บปั๊บๆ
งานฉาบปูนก็เริ่มไปด้วย
เพราะช่างคนละชุดกัน
เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ
ต่อไปก็เป็นงานยิบย่อยละค่ะ ทั้งงานทำฝ้า งานติดตั้งหน้าต่างประตู ทาสี งานกระเบื้อง
เลือกสุขภัณฑ์ เดินสายไฟ เดินท่อปะปา ท่อระบายน้ำ ฯลฯ
งานติดฝ้า…
งานเดินท่อปะปา
เดินยาวใต้ถุนบ้านทั้งหมด
เทพื้นใต้ถุนให้เรียบร้อยส่วนหนึ่ง
จะได้เอาไว้เก็บของได้
ติดหม้อทำน้ำร้อนตัวใหญ่เป็นส่วนกลางสำหรับห้องน้ำทั้งสองห้องเลย
ตัดปัญหาน้ำร้อนไม่สะใจ ทำเหมือนห้องน้ำโรงแรม
บานหน้าต่างบ้านเราเป็นไม้ทั้งหมด
ช่างได้ทำการพ่นสี และเก็บรายละเอียดงาน ก่อนทำการติดตั้ง
งานกระเบื้อง สำหรับห้องนอน ห้องโถง และระเบียงบ้าน
เราเลือกกระเบื้องลายไม้สีอ่อนทั้งหมด ยกเว้นห้องครัวและห้องน้ำ
งานทำห้องครัว
เราเลือกแบบก่อปูน
เราอยากมีโต๊ะกลางห้องครัวแบบฝรั่ง
เลยให้ช่างก่อให้เลยด้วย 1 ตัว
งานพื้นบันได และงานติดตั้งราวบันได
ห้องใต้หลังคา
เลือกสีทาบ้าน แต่ละห้องเราเลือกสีไม่เหมือนกันเลย
ตอนแรกจะเอาสีขาวทั้งหลัง แต่คิดว่ามันจะดูน่าเบื่อเกินไป เพราะเฟอร์นิเจอร์เราก็ตั้งใจว่าจะเน้นสีขาว หรือโทนอ่อนๆอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจทำหลายๆสีดีกว่า ห้องละสีไปเลย
งานเดินรางน้ำรอบบ้าน
กระเบื้องมุงหลังคาเหลือ
พี่เขยเพื่อนเลยเสนอทำหลังคาให้ตรงที่วางแท้งค์น้ำ ออกมาสวยงามมากๆค่ะ
ถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ งานโดยรวมเสร็จแล้ว
ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6 เดือน ในการก่อสร้าง ตั้งแต่มีนาคม ถึง ตุลาคม ปี2556
อย่างที่บอกว่าจริงๆ ตอนแรกเราตั้งใจแค่จะซื้อที่เก็บไว้ก่อน
แต่เพราะเงินไม่พอเลยต้องทำเรื่องกู้ และเนื่องจากการกู้บังคับว่าต้องเป็นการกู้เพื่อปลูกสร้างเราเลย….เลยตามเลยค่ะ
6 เดือนหลังจากที่บ้านสร้างเสร็จ เราก็ไม่ได้ขึ้นไปอยู่นะคะ แต่เราทำบุญขึ้นบ้านใหม่ทันที ซึ่งถือว่าฤกษ์ดีมาก ตรงกับเดือนเกิดเดือนมกราคม รับปีใหม่ บ้านใหม่ สิ่งใหม่ๆ
บ้านของเราแบบมีเล่นไฟบนหลังคาไว้ด้วย เวลาขับรถมาจากไกลๆ จะเห็นหลังคาบ้าน ชอบมากเเลยค่ะ
ระเบียงบ้านในฝันของเรา
ห้องโถง และชั้นลอยค่ะ
บ้านเราจะโปร่งมากๆๆ เพดานสูง และทำฝ้าแบบ… ยึดแนวตามรูปหลังคา ทำให้บ้านยิ่งดูโปร่งค่ะ อากาศในบ้านไม่เคยร้อนเลย เดินเข้ามาในบ้านขอแค่พัดลมตัวเดียวเอาอยู่
ไฟในบ้าน
เราใช้ของ lamptitude เกือบทั้งหมด และก็ดูจากโฮมโปรค่ะ
ส่วนนอกบ้าน เนื่องจากงบหมด เลยไม่ได้ทำอะไรเลย
ปล่อยทิ้งรกร้าง ให้คนมาตัดหญ้าบ้าง และรั้วก็เป็นรั้วไม้ไผ่กั้นไว้แบบลวกๆ
นี่เป็นรูปห้องนอนทั้ง 3 สีของเราค่ะ
สีชมพูม่วง ของเราเอง สีเขียวของพ่อกับแม่ และสีน้ำเงินห้องนอนสำหรับแขก
ห้องน้ำจริงๆ มี 3ห้องค่ะ แต่อีกห้องหารูปไม่เจอ
จะเป็นห้องสุขาอย่างเดียว1 ห้องสำหรับส่วนกลาง และอีก2 ห้องจะเป็นห้องอาบน้ำ และสุขาในตัว ในห้องนอนเรา กับพ่อแม่
ห้องสุขาห้องนี้นี่สีและดีไซน์ถูกใจเรามาก
ก๊อปมาจากในหนังสือเป๊ะๆ 555
นี่ของห้องพ่อกับแม่
เน้นกระเบื้องแบบไม่ลื่นค่ะ
ส่วนนี้งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ค่ะ ตื่นเต้นมากๆ
แต่ชาวบ้านน่ารักมากๆ เพื่อนบ้านก็ดีมากๆ พอบอกจะทำบุญบ้านใหม่ ก็มาช่วยแนะนำ และกระตือรือร้น ช่วยจัดการให้หมดเลย เป็นวันที่มีความสุขมากๆเลยค่ะ
เราจำไม่ได้แล้วว่าต้องเรียกว่าอย่างไร แต่บุคคลในรูปนี้ เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องพืธีการทั้งหมด มาช่วยจัดการเตรียมของ และสถานที่ก่อนวันงานให้ค่ะ
เช้าตรู่ก็เริ่มพิธีกันเลย
แขกผู้ใหญ่ และชาวบ้านมาช่วยงานกันเยอะมากๆ
นี่เป็นความน่ารักของชาวบ้านแถบนั้น พอรู้ว่ามีงานบุญ ใครว่างก็จะชวนกันมา และไม่ใช่แค่เดินๆผ่านๆกันมานะคะ ทุกคนเตรียมตัวแต่งตัวสวยมาจากบ้านกันเลยค่ะ คือ…น่ารักอ่ะ เราไม่คิดว่าเขาจะจริงจัง และตั้งใจมาเพื่องานบุญบ้านกันเต็มที่ขนาดนี้
ตอนนั้นไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักกะชิ้น
ทุกคนมาก็นั่งพื้น เสื่อก็ช่วยกันเตรียมมาให้ วัดก็ให้ของยืม โอ้ยยยย คือแบบ…กทม ไม่มีค่าา
วันงานอาหารทุกจานเป็นฝีมือพ่อนะจะบอกให้นอกจากถวายพระแล้ว ชาวบ้านที่มาร่วมงานก็อยู่กินอาหารด้วยกันต่อ มีแต่คนชมว่าลำแต๊เน้อ
หลังจากทำบุญขึ้นบ้านใหม่เสร็จ เราขอสารภาพว่า…..เราแทบจะไม่ได้ขึ้นไปบ้านเลยยย
สวนก็มีแต่ดินโคลน เฟอร์นิเจอรืก็ไม่มี อะไรก็ไม่มี พ่อกับแม่ก้ไม่ค่อยอยากจะขึ้นไป ขึ้นไปก้อยู่ได้แป๊บๆ ปลูกผลไม้ ลงต้นไม้เสร็จ ก็อยากกลับ กทมเพราะมันเหงา ไม่มีอะไรให้ทำ โทรทัศน์ เน็ท ไม่มีอะไรเล๊ยยยยย ……ซึ่งเป็นความผิดเราเอง
เราปล่อยบ้านทิ้งไว้แบบนี้เป็นเวลาตั้งแต่ ปลาย ม.ค.2557 – ก.ย.2558 เกือบๆ สองปี!!
อ้างเรื่องเงิน และเวลามาตลอด จนกระทั่งไม่ไหวแล้ว สงสารบ้านมากๆ ถามตัวเองว่า เราสร้างบ้านมาเพื่ออะไร??????
และแล้ว…เราก็เริ่มขึ้นเชียงใหม่จริงจัง
และสิ่งแรกที่ทำคือสวน!
และนี่คือสภาพสวน ณ ตอนนั้น ปี 2557
ผ่านไปจน ก.ย. 2558 ได้ฤกษ์เตรียมดินปลูกหญ้าสักที
โดยไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกน้องมือดีของพี่เขยเพื่อน ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้รับเหมาเต็มตัวแล้วนะจ๊ะ
ทำบ้านเราเสร็จปุ๊บ สงสัยจะติดใจ
สวนในฝัน
พระราชวังแวซายกับสวนที่บ้านใกล้เคียงกันมากเลยค่ะ #หราาาาา
พอมีสวน บ้านเริ่มสวยมีชีวิตชีวา ก็เริ่มสนุก
เริ่มติดลม ขึ้นไปเชียงใหม่แทบจะทุก 2 อาทิตย์ ขึ้นไปก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะ มีความสุข นี่ก็ขึ้นไปโกยกรวดใส่ถุงกระสอบ เกลี่ยทางเดิน….ทำเองคนเดียว กรรมกรหญิงยังต้องอายอ่ะ ถถถถ
ขับรถออกไปหาซื้อต้นไม้ ดอกไม้
เราอยากได้สวนแบบแนว English Garden
โชคดีเจอร้านโดนใจใกล้บ้านเลย ได้กระถางแต่งสวนแบบถูกใจสุดๆ
ขึ้นไปแต่ละครั้งก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง
ผลไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆที่พ่อกับแม่ลงไว้ให้ ก็ออกดอกออกผลงามมากๆ
ล่าสุดเมื่อวานเพื่อนรุ่นพี่ถ่ายรูปมาให้ดู
ทับทิมต้นหน้าบ้าน ออกลูกมา 40กว่าลูก ตอนนี้เนื้อแน่น หวานเจี๊ยบบบบ อยากขึ้นไปสอยมากๆๆๆๆๆ
อย่างที่บอกตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนปัจจุบัน เราขึ้นบ้านถี่มากๆๆ
ไฟแรงอยากทำบ้านให้สวย พอยิ่งสวยก็ยิ่งมีความสุข ยิ่งอยากขึ้นไปบ่อยๆ และอีกอย่างเราไม่รวยค่ะ 555 เพราะฉะนั้น มากรุงเทพที ก็ต้องรีบทำงานเก็บตังค์ที จะได้มีเงินไปทำบ้าน ทำทีละนิดค่ะ มีเงินเมื่อไหร่ก็ทำ ทุกวันนี้หมุนเงินตัวเป็นเกลียว 555 แต่มีความสุขค่ะ เพราะมันออกมาเป็นบ้านที่เราฝัน
นี่รูปตอนทำม่านทั้งบ้านเรียบร้อยแล้ว
แม่ถูกใจมาก เพราะไม่ต้องกลัวคนแอบมอง 555
จากนั้นเราก็ทำรั้ว ได้เพื่อนของเพื่อนจัดการให้
พอดีเขาเป็นโรงงานทำเหล็ก และรับติดตั้งงานเหล็กดัดให้โรงแรม เราเลยได้งานสวยถูกใจ ตามที่ใจนึกเลยค่ะ
จากนั้นก็เริ่มซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน
โดยเริ่มจากห้องนอนทุกห้องก่อน เพราะเวลาใครมาบ้าน รู้สึกสงสาร และอายเล็กๆที่ต้องให้นอนพื้นอ่ะค่ะ ผู้ใหญ่ทั้งน๊านนน ห้องพ่อกับแม่เสร็จก่อนใครเพื่อน ครบทุกอย่างทั้งตู้เตียงหมอนมุ้ง
ตามมาด้วยห้องนอนแขก
ซึ่งต้องขอบคุณเพื่อนรุ่นพี่มากๆ ที่ใจดีให้เตียงไม้สักสวยๆมา 2 หลัง เหมาะเจาะ พอดีเป๊ะ! เพราะตั้งใจอยากให้มี 2เตียง เกร๋ๆ แขกมาหลายคน จะได้ไม่ต้องเกี่ยงกันใครนอนเตียง ใครนอนพื้น
ส่วนนี่ห้องเจ้าของเองจ้าา
เพิ่งจะเสร็จเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง เจ้าของบ้านชอบความหวาน แต่บอกเลย ไม่ใช่สาวหวาน มีความขัดแย้งในตัวสูง 555
รู้สึกภูมิใจกับห้องนอนทั้งสามมากๆ
เราพยายามจะไม่ซื้อของเข้าบ้านเยอะๆที่เดียวค่ะ ค่อยๆ คิด วางคอนเซ็ปต์ แล้วหาของให้เข้าชุดให้ได้ ซื้อของที่ตอบโจทย์ในหัวให้ได้ เพราะไม่อยากให้บ้านเลอะเทอะ ออกนอกคอนเซ็ปต์ เพราะฉะนั้นการจัดบ้านของเรา ทุกวันนี้ก็เลยยังไม่เสร็จ อีกเหตุผลหลักคือ…รอเงิน 55555
ต่อมาสิ่งที่ต้องทำคือ ทำความสะอาดทั้งบ้านค่ะ
เพราะว่าบ้านสกปรกมากๆๆๆๆๆ เนื่องจากเราไม่ได้ไปอยู่เลย บอกตรงๆว่าทั้งขี้จิ้งจก ขี้หอยทากตอนหน้าฝน คราบโคลน เขม่าจากควันไฟช่วงเมษา รอยดำ รอยฝุ่นทั้งหลาย เยอะมากๆๆ แต่เราไม่ท้อค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เสร็จ 555
เหลือห้องที่ต้องทำความสะอาดใหญ่อีก2 ห้อง รวมทั้งหน้าต่างไม้ทุกบาน บานเกล็ดทุกตัว และกระจกทั้งหมด ที่เป็นโปรเจคยักษ์ต่อไปของเราค่ะ การทำความสะอาดบ้านไม่มีวันจบค่ะ
รูปข้างล่างนี่คือ เราจัดเต็มมาก
เพราะตั้งแต่ทำบ้านเสร็จ ได้แต่ถูบ้านด้วยน้ำเปล่า แต่ในความเป็นจริง มันมีคราบปูน คราบดำมากมายที่เอาไม่ออก เจอเราจัดเต็มเข้าไป ปัจจุบันพื้นสะอาด กล้าให้แขกเดินเท้าเปล่าบ้างอะไรบ้าง 555
คิดนานมากว่าจะหาชุดรับแขกแบบไหนดี
ตอนแรกใจคิดถึงแต่งานไม้สีขาว ไปๆมาๆ เช้าวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมานึกถึงหวาย เลยลองเสิร์ชหาบนเน็ท ก็ไปเจอร้านหนึ่งแถวหางดง รับสานตามสั่ง ได้มาชุดหนึ่งตามรูป ถือว่าตรงกับที่ใจคิดไว้เลยค่ะ
ส่วนนี่บังเอิญได้ราคาดี เจ้าของร้านลดให้แบบสุดๆ (เค้าว่างั้นนะคะ)
แต่ก็ถือว่าถูกกว่าที่อื่นละค่ะ เพราะลองเทียบราคากับที่อื่นดูแล้ว เป็นหวายเทียม ชุดขาวเข้ากับบ้านอีกเช่นกัน
นี่ล่าสุด เปลี่ยนต้นไม้ในสวนค่ะ
หน้าฝนแล้วต้นไม้ ดอกไม้งามมากๆ ดินบนเขาเค้าดีจริงๆค่ะ
และสุดท้าย… ขอจบการรีวิวบ้านด้วยภาพนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะคะ หวังว่ามันจะสร้างแรงบันดาลใจดีๆได้ไม่มากก็น้อย
มีฝันก็ต้องไปให้ถึงฝันนะคะ หรือถ้าอยากจะทำอะไร ก็ต้องลองเสี่ยงบ้าง ลองกล้าที่จะก้าวจากความลังเล ลองกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อความฝันกันนะคะ
เราก็ไม่มีเงินค่ะ เห็นแบบนี้ ทุกอย่างก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเช่นกัน สามปีค่ะ กว่าจะมีเตียงนอนเข้าบ้าน 555
ทุกวันนี้ยังต้องค่อยๆเก็บเงินค่ะ
แต่อย่ามัวแต่เก็บเงิน จนลืมความฝันกันนะคะ สู้ๆ ค่าาา เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
ที่มา : pulsedownfoot