วันนี้จะพาไปชมการรีโนเวทบ้านของคุณ แม่ดอกจำปา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ทำการเปลี่ยนบ้านทาวน์เฮาส์ธรรมดาๆ ดูคับแคบ ให้กลายเป็นบ้านแฝดที่น่าอยู่แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
ซึ่งการรึโนเวทครั้งนี้ จะเป็นการขยายตัวบ้านเพื่อให้คนในครอบครัวได้อยู่กันสบายๆ มีพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกยิ่งขึ้น เอาล่ะ เราลองไปดูกันเลยดีกว่าครับ ว่าบ้านใหม่ที่ทำการปรับปรุงแล้ว จะสวยเช้งน่าอยู่แค่ไหน
Review : ทุบแล้วเปลี่ยน!! รีโนเวททาวน์เฮาส์ ให้กลายเป็นบ้านแฝดแสนสบาย
(โดย แม่ดอกจำปา)
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันการรีโนเวทบ้านของตัวเองบ้าง แอบหมกมุ่นดูบ้านคนนู้นคนนี้มานาน
ถึงตาตัวเองบ้างละ ^^ (รูปอาจจะเล็กบ้างใหญ่บ้าง ขอโทษทีนะคะ)
เล่าก่อนว่าบ้านของเรา เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นปกติค่ะ พ่อแม่เก็บหอมรอมริบเงินไปซื้อมาเพื่ออยากให้ลูกๆได้อยู่อย่างสบายมากขึ้น
จากเดิมที่ต้องอยู่แฟลตห้องเดียว แต่หลังจากนั้นหลายปีต่อมาก็โดนวิกฤตน้ำท่วม อ่วมเลยค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ที่บ้านชอบจะเป็นไม้เกือบทั้งหมด แต่ใช้แบบทั่วๆไปไม่ใช่ไม้แท้
ของพวกนั้นไปกับน้ำหมดค่ะ ป่นละลาย ยุ่ย เละ เสียใจมาก บานตู้ครัวที่บิวท์อินมา เสียหายทั้งหมดเลย T T
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรกับบ้านเพิ่มเติมเลยนอกจากทำความสะอาด อยู่กับร่องรอยประวัติศาสตร์ของบ้านต่อไป และแล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้สึกว่าควรรีโนเวทบ้านมันก็อยู่ที่ “บ้านรกไม่ไหวแล้วโว้ยย” นี่แหละค่ะ เพราะบ้านโทรมจากน้ำท่วมไม่พอ กิจการของที่บ้านก็เริ่มดีขึ้นอีก (ที่บ้านผลิตหมอนแต่งบ้านค่ะ ของเลยค่อนข้างเยอะ) สต็อกของก็เลยล้นจากหน้าบ้านลามเข้าไปถึงในตัวบ้าน ปีนขึ้นไปถึงชั้น 2 ทะลักเข้าห้องนอน จากบ้านกลายสภาพเป็นโรงงาน ยิ่งช่วงหน้าเทศกาลของจะเต็มบ้านมาก ๆ เรียกได้ว่าแม้แต่ที่จะนั่งยังไม่มี จังหวะดีที่บ้านข้าง ๆ ประกาศขายเลยติดต่อขอซื้อไว้ทันที ถือเป็นของขวัญให้กับครอบครัวของเราเลยค่ะ
ประตูเดิมถูกเปลี่ยนเป็นหน้าต่างแทน ประตูฝั่งขวาถูกขยายให้กว้างขึ้นเพื่อรับทรัพย์ ฉากที่เคยกั้น 2 บ้านไว้ด้วยกันจัดการทุบออกซะ
มาในตัวบ้านกันมั่ง จำได้ว่ากลับมาบ้านตอนกลางคืน ช่วงที่บ้านทุบไปแล้ว ตกใจมาก นึกว่าเข้าบ้านผิดหลัง 555
สภาพมีแต่ฝุ่นค่ะ ก็อดทนกันไปเพื่อบ้านเก่าที่ใหญ่กว่าเดิม
เดิมเป็นผนัง และมีเสากั้นไว้ เลยทุบออกแต่ยังเหลือฐานไว้สักนิด ตั้งใจจะทำเป็นที่นั่งก่อนเข้าบ้าน
อันนี้เอาให้เห็นภาพชัด ๆ ระหว่าง 2 บ้าน หลังจากที่ทุบผนังออกงานก็เข้าเลยจ้า เพราะว่าพื้นกระเบื้อง 2 ฝั่งไม่เสมอกัน งานงอกขั้นที่ 1 เลยบังเกิดต้องเลาะกระเบื้องใหม่ทั้ง 2 หลัง ค่อย ๆ ทำกันไปทีละหลังก่อน
เริ่มเป็นรูปเป็นร่างเดินเหินได้สะดวกขึ้นมาหน่อยละ
ภาพนี้ประตูที่ได้กลายร่างเป็นหน้าต่างไปแล้วเรียบร้อย ประตูที่สั่งไว้ก็มาประกอบเรียบร้อย
จากภาพก่อนที่ทุบผนังออกเหลือฐานไว้กลายมาเป็นแบบนี้ค่ะ ผลงานมาสเตอร์พีซของพ่อเรา ดีไซน์เอง ประกอบเอง จนเป็นเคาน์เตอร์นั่งเล็ก ๆ น่ารัก ๆ
ด้วยความที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ พอทุบออกก็เหมือนจะกว้าง แต่ถ้ายังอยากจะให้กว้างอีก แก้ง่าย ๆ เลยค่ะ “เอาบันไดออกสิแก รออะไร แล้วก็เอาห้องน้ำออกด้วย” ใครนึกภาพไม่ออก บันไดจะเป็นแบบนี้ค่ะ ใหญ่พอควรเลย มีที่เก็บของข้างใต้ เพดานโปร่งสูงถึงชั้น 2 และติดห้องน้ำ
หลังจากโละแล้ว นี่คือพื้นที่ที่คืนความสุขให้ประชากรบ้านเรา
ชะแว้บ ! มาต่อกันที่ชั้น 2 เมื่อบ้านเชื่อมกันแล้วผนังข้างบนก็ทุบจ้ะ ตีทะลุทั้งหมด โถงบันไดเดิมหลังจากเอาออกไปแล้วก็ก่อพื้นแล้วทำเป็นหิ้งพระและลานนั่งสวดมนต์ แต่แล้วงานก็งอกรอบที่ 2 จากการทุบเช่นเดิม เพราะพื้นชั้น 2 จะเป็นไม้ปาเก้ เลยเละจนต้องรื้อและปูกระเบื้องใหม่หมดเลยค่ะ
งานปาร์เก้งอกไปถึงห้องนอนของบ้านหลังใหม่ทั้ง 2 ห้อง ด้านหน้าและด้านหลังปาร์เก้หลุดออกมาเป็นจิ๊กซอว์เลย แต่ถึงตอนนี้ไม่รื้อแล้วค่ะ ต้องปรบมือให้พ่อของเรา เปิดยูทูบแล้วซ่อมปาร์เก้ด้วยตัวเองเลยจ้าผลคือ ได้ปาร์เก้ใหม่แบบไม่บานปลายและสบายกระเป๋า
โถงหิ้งพระและลานสวดมนต์
มาที่ห้องน้ำกันบ้าง เดิมห้องน้ำของทางหมู่บ้านจะเป็นอ่างที่ต้องเดินก้าวขาเข้าไป ซึ่งไม่สะดวกสำหรับคนแก่อย่างยายเราค่ะ เลยปรับเปลี่ยนใหม่เอาอ่างออก ปูกระเบื้องใหม่แบบหยาบเดินแล้วไม่ลื่นและก็ทำฉากกั้นแบบโปร่งเพื่อความเซ็กซี่ของคุณยาย คิคิ
มาดูความคืบหน้างานฝ้า ประเทศไทยเมืองร้อนค่ะจงใช้ประโยชน์กับแสงอาทิตย์ เจาะฝ้าเพื่อเปิดรับแสงสวย ๆ กันดีกว่า และหลังจากนี้จะขอลงภาพแบบเทียบให้ดูแบบเร็ว ๆ เริ่มจากนอกบ้านกันก่อนเลย
มุมซ้ายบนสุดเป็นภาพตอนเริ่มก่อรีโนเวท หลังจากจบงานก็เป็นเช่นนี้ อย่างที่คุยไว้คือเราจะคงโครงเดิมของบ้านเอาไว้ ภายนอกจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก นอกจากได้พื้นที่จอดรถในตัวบ้านเพิ่มและทาสีบ้านใหม่ เสาไฟนอกบ้านพ่อเอาแผ่นไม้มาติดเพิ่มเองค่ะ ถ่ายมาตอนยังไม่เสร็จดี ใครอยากจะ DIY ลองเอาไปใช้ดูนะคะ
พอเดินเข้ามาในตัวบ้าน สิ่งที่ทำเพิ่มอีกอย่างคือเราขยายประตูเข้าบ้านทางบ้านใหม่ให้ใหญ่ขึ้น โละประตูเก่าเปลี่ยนเป็นหน้าต่างซะ มีก่อพื้นยกระดับเข้าหน้าบ้านเป็นตัว “U” ลายกระเบื้องไม้เช่นเดิม (บ้านเราชอบอะไรไม้ ๆ มาก ๆ ค่ะ อิอิ)
ขยายให้เห็นภาพชัด ๆ จากประตูเป็นหน้าต่าง
หันมาทางขวามือเป็นมุมทำงานของพ่อค่ะ บ้านเราเป็นสายอาร์ตกันหมดภาพติดผนังเราก็วาดกันเองค่ะ
ยัง ยังไม่เท่านั้น เงยหน้าขึ้นมาคุณจะเจอสิ่งนี้ 555 พ่อกับแม่เราเปิดนิตยสารเล่มนึงแล้วชอบไอเดียนี้มาก เลยจัดการทาสีหลุมฝ้าให้ต่างกันซะเลย ภาพ before จะเห็นว่ามีฐานเหล็กวางเป็นคานอยู่ ตรงจุดนี้แหละค่ะที่เคยเป็นบันไดเก่ามาก่อน เราก็จัดการโละออกแล้วทำเป็นฐานสำหรับห้องพระ
อันนี้เอามาให้ดูเป็นไอเดีย บ้านเรามีกันหลายคนแต่ละคนก็เสื้อผ้าเยอะกันทั้งนั้นจะซื้อตู้เสื้อผ้าก็ใส่ไม่พอ ปัญหาแบบนี้เป็นกันหลายบ้านนะเราว่าทางแก้คือ ทำราวแขวนแบบ DIY จากท่อเหล็กเลยค่ะ ใช้ไอเดียจาก pinterest แขวนผ้าได้เยอะมาก ๆ ทิ้งตู้เสื้อผ้าไปได้เลย
เดินขึ้นมาชั้น 2 กันบ้างจากเดิมเป็นโถงบันไดเก่า ตอนนี้เป็นห้องพระไปแล้วเรียบร้อย อนาคตข้างหน้าฉากหลังสีน้ำเงินจะเพ้นท์ต้นโพธิ์สีทองเข้าไปค่ะ
หันซ้ายหันขวาจะเจอประตู 4 บาน ซึ่งสีแตกต่างกันทั้งหมดตามใจผู้อยู่สุด ๆ ฟ้า เทา ชมพู เหลือง เอาให้ฉ่ำ
ประตูเหลืองก่อนละกันค่ะ จ๊ะเอ๋…ห้องคุณยายนั่นเอง สีโทนอบอุ่น ช่วยให้นอนหลับสนิท ยายปลื้มสีนี้มากเลยหลานเอ๊ย
เปิดมาห้องชมพูกันบ้าง ห้องเก่าเราเอง ^^ จริง ๆ อยากได้สีแดงมากค่ะ แต่พ่อแม่ไม่อนุมัติบอกรับไม่ได้นอนแล้วตาค้างเลยทาสีชมพูแทน แต่ม่านก็ไม่วายแอบแดงนะขอสักนิดนึง ปัจจุบันนี้ปรับเป็นห้องที่เอาไว้รับรองแขกที่มาพักที่บ้านค่ะ การทาสีห้องนี้เราเน้นทาผนังสีเข้มที่สุดไว้ตรงหัวนอน นอกนั้นจะเป็นเฉดสีที่อ่อนลงมา ทำไฟหลืบไว้ตรงฝ้าหัวเตียงเวลาเปิดไฟสีวอร์มแล้ว ห้องจะนวลดูอบอุ่น ๆ มากค่ะ
ตัดภาพมาที่ห้องเทาบ้างเป็นห้องนอนเราปัจจุบัน พอโตขึ้นสีที่ชอบก็เปลี่ยนไปการทาสีเป็นเหมือนห้องชมพู สีทาเข้มผนังเดียวนอกนั้นสีอ่อนลงมาในโทนเดียวกัน ตอนนี้ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์มาลง กำลังหาไอเดียอยู่เลย ใครมีไอเดียแต่งห้องยังไงบ้างก็เอามาแชร์กันได้นะคะ
ห้องสุดท้ายห้องฟ้าน้ำทะเลของบุพการีค่ะ
จบแล้วค่ะ การรีโนเวทบ้านทั้งหมด 2 หลังงบอยู่ที่ 3 แสนบาท ทีมผู้รับเหมามาจากคอนเน็คชั่นของแม่ที่มารับทำให้ที่บ้านเป็นกรณีพิเศษค่ะ ทีมช่างก็เลยเยอะมากและทำงานได้ไวกว่าที่คิดไว้ บ้านเก่าหลังเดียวทำอยู่ 3 เดือนตอนรีโนเวท 2 หลังใช้เวลาแค่ 1 เดือนเท่านั้นค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ที่มา : แม่ดอกจำปา