“THE ESSE SUKHUMVIT 36” คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี สไตล์ไทยโมเดิร์นร่วมสมัย ดีไซน์ภายใต้แนวคิด “สมดุลแห่งความต่าง” หรือ A Harmony of Contrast ผ่านการหลอมรวมความแตกต่างในด้านต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุลและลงตัว ไม่ว่าจะเป็น City and Serenity ความต่างระหว่างแสงสีของย่านทองหล่อกับความสงบส่วนตัวของโครงการ, Authentic and Contemporary การผสานความต่างระหว่างสถาปัตยกรรมแบบภูมิปัญญาไทย กับการออกแบบที่เป็นสากล ไปสู่ความเป็น Iconic ของตัวโครงการ, Society and Exclusivity ความต้องการใช้ชีวิตแบบสังคม กับความเป็นส่วนตัว ไปสู่รูปแบบของ Facility ที่มีทั้งส่วนที่ใช้งานร่วมกันและแยกเป็นพื้นที่ส่วนตัว และ Passion and Function ความต้องการที่ต่างกัน กับการออกแบบยูนิตในแต่ละ type ที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล
โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ไทยผสมผสานกับความเป็นสากล
THE ESSE SUKHUMVIT 36 ได้หลอมรวมอัตลักษณ์ของความเป็นไทยกับเทรนด์การอยู่อาศัยในยุคปัจจุบันเข้าด้วยกัน สถาปัตยกรรมที่สร้างในเขตร้อนหรือ ทรอปิคัล เฮ้าส์ เช่น บ้านเรือนไทย ถูกนำมาใช้เป็นโจทย์หลักในการออกแบบตัวอาคารให้มีความโดดเด่นและแตกต่าง ผ่านทีม Design ชั้นนำที่มาร่วมรังสรรค์ผลงานชิ้นเอก ไม่ว่าจะเป็น SOM : Skidmore, Owinghs and Merrill (Thailand) Co.Ltd ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกจากนิวยอร์ก ที่ฝากผลงานระดับ Masterpiece อย่าง One World Trade Center เป็นที่ปรึกษาหลักในการออกแบบ โดยทำงานร่วมกับทีมสถาปนิกจาก แทนเดม อาร์คิเทค (2001) สถาปนิกชาวไทย
จากทุ่งเขียวขจี สู่แปลงผักสวนครัวสำหรับผู้พักอาศัย
ส่วนงานด้าน Landscape มี Shma เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงาน ที่ได้แนวคิดจากท้องทุ่งนาข้าวในชนบทที่เขียวขจี โดยภายนอกอาคารถูกสอดแทรกด้วยพื้นที่สีเขียว (Green Space) ที่เล่นระดับชั้น สร้างความเป็นธรรมชาติและความร่มรื่นในส่วนต่างๆ และยังมีแปลงผักสวนครัวกินบริเวณชั้น 43 และดาดฟ้าที่ออกแบบมาอย่างลงตัว พร้อมรังสรรค์พื้นที่ด้านหน้าอาคารที่เว้นระยะห่างของตัวอาคารล็อบบี้โครงการกับถนนด้านหน้า 35 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศความสงบร่มเย็น และความเป็นส่วนตัวแก่ผู้พักอาศัย
ดีไซน์โถงโปร่งโล่งรับลมเย็น สำหรับพักผ่อนตามอัธยาศัย
นอกจากนี้ ยังดีไซน์ห้องโถงโปร่งชั้นล่างแบบเปิดโล่งเสมือนบ้านทรงไทยที่ยกพื้นใต้ถุน เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของอากาศ รวมถึงช่องเปิดกลางอาคารด้านเหนือใต้บริเวณชั้นพักอาศัย ที่ช่วยให้มีการไหลเวียนของลมจากทิศเหนือไปทิศใต้ในช่วงฤดูร้อน และทิศใต้ไปทิศเหนือในช่วงฤดูหนาว ทำให้บริเวณชั้นพักอาศัยมีอากาศถ่ายเทโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ
ตกแต่งภายในด้วยแนวคิดหัตถกรรมพื้นบ้าน สู่การตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย
ด้าน Interior Design ได้รับการตกแต่งจาก dwp ที่หยิบยกความโดดเด่นของงานหัตถกรรมพื้นบ้านแบบไทย ประยุกต์ใช้ในงานตกแต่งภายในอาคาร เริ่มตั้งแต่ chandelier บริเวณล็อบบี้ที่นำแรงบันดาลใจจากผ้าไหมสร้างสรรค์ร่วมกับศิลปิน ออกแบบเป็นงานดีไซน์ลุคโมเดิร์นเส้นลายพริ้วไหวผสมผสานกับความแข็งแกร่งอย่างลงตัว รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดแทรกอยู่ในทุกมิติของโครงการ อาทิ เสาไม้แกะสลัก หรือตัวผนังที่นำไอเดียจากฝาปะกนของบ้านเรือนไทยมาดีไซน์ให้ดูร่วมสมัย นอกจากนี้ในโครงการยังได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ Jim Thompson ในการออกแบบวอลเปเปอร์และผ้าม่านสีพิเศษมาใช้ในส่วนของห้องชุดพักอาศัยอีกด้วย
“THE ESSE SUKHUMVIT 36” เป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ เป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี ความสูง 43 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 338 ยูนิต บนพื้นที่ 2.2 ไร่ โด่ดเด่นด้วยทำเลทองใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อเพียง 20 เมตร ระดับราคา 3.3 แสนบาท/ตร.ม เริ่มต้นที่ 12 ล้านบาท
THE ESSE SUKHUMVIT 36 พร้อมให้เข้าสัมผัสความสมดุลแห่งความต่างได้แล้ว ณ เซลล์ แกลอรี่ ติดกับสถานีบีทีเอส ทองหล่อ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 1221 หรือ http://www.singhaestate.co.th/condominium/the-esse-sukhumvit-36/
THE ESSE SUKHUMVIT 36 โดดเด่นด้วยรูปทรงตึกแบบ Three Bars โดยดีไซน์ Façade ภายนอกอาคารได้นำแรงบันดาลใจจากหน้าจั่วของบ้านเรือนไทยมาผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างสมดุล
.
สวนด้านหน้าโครงการได้นำแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์และภูมิประเทศของไทย สร้างสรรค์เป็นสวนสวยไล่ระดับกลิ่นอายนาขั้นบันได สระน้ำ และชานบ้านไทย
บริเวณชั้นล่างของอาคารดีไซน์แบบเปิดโล่งยกพื้นสูงสไตล์บ้านเรือนไทยในอดีต เพิ่มความไหลเวียนของลมเพื่อความเย็นสบายในทุกฤดูกาล
ห้องโถงบริเวณล็อบบี้ตกแต่งด้วย chandelier ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าไหมไทย สร้างความโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น
ภายในโครงการได้จัดสรรพื้นที่ที่โอบล้อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ไว้หลายจุด ทั้งบริเวณชั้น 7 และชั้น 41 เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ของลูกบ้าน
.
.
บนชั้น 43 และดาดฟ้า จัดเป็นพื้นที่ Roof Orchard หรือแปลงผักสวนครัวเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมาร่วมปลูกผักสวนครัวไว้รับประทานเอง รวมทั้งมีพื้นที่จัดเวิร์คช็อปเล็กๆ เพื่อส่งเสริมการทำแปลงเกษตรร่วมกัน
การออกแบบภายในเน้นการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานความทันสมัยอย่างลงตัว อาทิ พื้นห้องนอน-นั่งเล่น เลือกใช้วัสดุไม้ engineering wood ปูลายก้างปลา ส่วนผนังสำหรับติดตั้งโทรทัศน์บริเวณห้องนั่งเล่นและโต๊ะไอส์แลนด์กลางห้องครัวได้เลือกใช้หินอ่อนนำเข้าทั้ง White Mamara, Black Marquina, และ Atlantic Gray เพื่อสอดแทรกความโมเดิร์นอย่างสมดุล
.
พื้นห้องน้ำและผนังปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ผสานกับวัสดุหินนำเข้าให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ รวมทั้งการเลือกดีไซน์ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk Through เพื่อเพิ่มความโปร่งของห้องและความสะดวกในการใช้งาน
.
.
สุดท้ายสร้างความประทับใจให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยการตกแต่งภายในห้องด้วยวอลล์เปเปอร์และผ้าม่านจาก Jim Thompson ที่มีการออกแบบสีพิเศษขึ้นใหม่โดยเฉพาะ
.
.