เมื่อมีบ้านแล้ว เราก็อยากจะมีพื้นที่สวนร่มรื่นเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจ เช่นเดียวกับคุณ ชูชื่น เจตจำรัส ที่เธอเองก็อยากจะมีสวนแบบนั้น ทำให้ไปซื้อต้นหูกระจงมาปลูกด้วยความไม้รู้ เพราะคิดว่าไม้ใหญ่น่าจะให้ร่มเงาได้ดี
แต่สุดท้ายก็ต้องมาเหนื่อยกับปัญหาสารพัดจากต้นหูกระจง เป็นเหตุให้เธอตัดต้นหูกระจงแล้วเปลี่ยนมาปลูกไม้เล็ก ๆ อย่างเคราฤาษีแทน ซึ่งปรากฏว่าไม้เล็ก ๆ นี้ให้ร่มเงาได้ดีเลยล่ะ โดยเธอก็ได้ให้ข้อมูลกับเรา ดังนี้…
“เราเคยปลูกต้นหูกระจงเพื่อบังแดดฝั่งทิศตะวันตกของบ้าน (ด้วยความไม่มีความรู้) ร่มเงาของหูกระจงก็แผ่ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี แต่พอเวลาผ่านไปนาน ๆ ปัญหาก็เริ่มเกิด
เพราะนอกจากใบที่ร่วงอย่างมหาศาล ยังเจอผลพวงจากรากของมันที่ทะลุทะลวงเข้าตามท่อน้ำทิ้งต่าง ๆ จนตันไปหมด ทำให้เราต้องเดินท่อน้ำทิ้งใหม่
เราจึงตัดสินใจโค่นต้นหูกระจงที่มีอยู่ 3 ต้นทิ้ง แล้วทำซุ้มเพื่อบังแดดแทน ลงทุนทำซุ้มไปเกือบ 300,000 บาท
(ที่แพงเพราะเราเลือกใช้สแตนเลสเกรด 304 และกล่องอลูมิเนียมลายไม้เพื่อความสวยงามและทนทาน เพราะคติประจำใจเราคือ ให้มันเจ็บแต่จบ ถ้าเพื่อนสมาชิกใช้วัสดุอื่นน่าจะราคาถูกกว่านี้เยอะนะคะ)”
“โชคดีที่เราได้เลี้ยงเคราฤาษีไว้ เราเริ่มต้นจากเคราหนัก 3 กก. ผ่านไป 1 ปีครึ่งตอนนี้เคราเรางอกเงยเป็นอย่างที่เห็น (น่าจะประมาณ 50 กก.)
ร่มเงาไม่จำเป็นต้องได้จากไม้ใหญ่เท่านั้น ไม้ต้นเล็ก ๆ อย่างเคราฤาษีก็สามารถให้ร่มเงาและร่มรื่นได้เหมือนกัน แถมยังไม่มีรากที่เข้าไปชอนไชทำร้ายระบบท่อน้ำของบ้าน แต่เรามีรากอากาศที่แสนสวยงามและปลอดภัยกับท่อน้ำด้วยนะคะ
บทเรียนนี้ราคาแพงพอสมควร แต่ยังดีที่หาทางออกได้ทันเวลาก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านี้”
.
ซุ้มที่สร้างขึ้นใหม่ บวกกับเคราฤาษีที่ขึ้นปกคลุม ให้ร่มเงาที่ร่มรื่นได้ไม่แพ้ร่มเงาของต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ
ที่สำคัญ พอหันมาปลูกต้นเคราฤาษี ปัญหาพวกใบร่วงอุดตันตามท่อ กับปัญหารากชอนไชก็หมดไป ซึ่งเป็นพืชที่เป็นมิตรกับโครงสร้างบ้านเลยล่ะ
ชมคลิปปลูกเคราฤาษี
คลิก ที่นี่ หากคลิปไม่ขึ้น
เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาต้นไม้ให้ร่มเงาที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย แถมยังเป็นมิตรกับโครงสร้างบ้าน เจ้าเคราฤาษีนี้ก็นับว่าน่าปลูกไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา: ชูชื่น เจตจำรัส