สำหรับบางคน การได้มีบ้านกระท่อมหลังเล็กๆ กลางพื้นที่ธรรมชาติแห่งขุนเขา อาจจะเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของเขาแล้วก็ได้ ลองจินตนาการถึงกระท่อมไม้น่ารักๆ ที่อยู่อาศัยได้สบายๆ กับวิวป่าไม้และภูเขาสุดลูกหูลูกตา คงจะรู้สึกดีไม่ใช่น้อยเลย
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาไปชม รีวิว สร้างบ้านกระท่อมหลังน้อยด้วยตัวเอง จากคุณ canx เป็นกระท่อมหลังน้อยที่พอเพียงและเรียบง่าย รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาแสนสดชื่น ตั้งอยู่ ณ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อีกหนึ่งแนวทางบ้านราคาประหยัด ลองมาชมกันดูครับ
Review : สร้างกระท่อมหลังน้อยด้วยตัวเอง พอเพียงและเรียบง่าย สไตล์ธรรมชาติ พร้อมวิวป่าเขาแสนสดชื่น
(โดย canx)
สวัสดีครับ…
แวะเวียนเข้ามาห้องชายคา อยู่เป็นประจำ (เวลาที่ต้องการข้อมูล แฮะๆๆ) ได้เห็นรูปบ้านและไอเดียของแต่ละท่านแล้ว วันนี้เลยเอารูปกระท่อมน้อยของผมมาให้ชมกันบ้างนะครับ
ขอย้ำว่า กระท่อมจริงๆ นะ
อันที่จริงแล้วก็ปีกว่าแล้วนะครับ ที่ได้ที่ผืนนี้มา แต่ได้มีเข้าไปซุกนอนจิงๆ ก็วันนี้แหละครับ เมื่อปีที่แล้ว 5 พฤษภาคม 2551
อยู่บนดอยนะครับ…… ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่ามากๆ
ถือว่าเริ่มจากศูนย์เลยแล้วกัน นะเรา ตอนแรกนึกว่าต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในบ้านน่าจะเป็นต้นกล้วย… แต่ลืมไปว่าเค้าแถม กอไผ่มาให้สามกอ กะต้นนุ่นสวยๆ อีกสามต้นด้วยนะเออ
เป็นบ้านหลังแรกนะครับ
ที่เป็นของตัวเองถึงจะเป็นกระท่อมก็เหอะ
แล้วก็ภูมิใจมากๆ เพราะสร้างเองกะมือ
อันนี้โม้ได้หน่อย แฮะๆๆๆ
มีคนเค้าบอก ทำไมไม่จ้างเขาหล่ะ สร้างเองแล้วมันจะอยู่กันได้มั้ยนั้น
ได้สิเพ่….. ไม่มีอะไรเกินพยายามนิคับ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยตอกตะปูก็เหอะ สู้ซะอย่าง ขอบอกว่าแข็งแรงทนทานมากๆ เพราะเป็น กระท่อมไม้ไผ่เสริมเหล็ก นะทั่น …. เหล็กจากไหนหว่า??? ก็จากตะปูนะสิครับเพ่ ค่าตะปูนี้ พอๆ กะค่าไม้เลยมั้ง 5555 แต่ก็ถือว่าทำบุญมาดีนะครับ เพราะได้เพื่อนบ้านที่ดี อย่างอ้ายไก่ มาเป็นครูคอยให้คำแนะนำ และช่วยเหลือในทุกโอกาส …..
แว้บเดียวเอง เห็นม่ะ เสร็จแล้วครับ
ใช้แรงงานหนุ่มๆ สามคนพี่น้องนี่แหละครับ กะอ้ายไก่อีกคนที่แว้บๆ ภรรยามาช่วยบางวัน
กระท่อมน้อยหลังนี้ ตอนแรกกะว่าจะสร้างไว้ชั่วคราวนะครับ
เอาไว้นอนกันสามคนนี่แหละ แล้วก็ใช้เก็บของด้วย เพราะกว่าจะสร้างบ้านถาวรจริงๆ เสร็จ คงอีกหลายเดือน…. แต่ทำไปทำมา หลังนี้แหละ ชั่วคราวมาปีนึงแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะ อยู่เย็นเป็นสุขดีด้วย ฮ่าๆๆ
และนั้นแหละครับ ฝนคือปัญหาหลักของเรา
เพราะบ้านหลังเล็กๆ อยู่สามคน หน้าฝน ออกไปไหนไม่ได้ ก็ได้แต่มองตากันสิคับทั่น ก็เลยเป็นเหตุให้ต้อง สร้างศาลาอันนี้มาอีกอัน ไว้นั่งเล่น ไว้ทำกิจกรรมเวลา ฝนเอยเทลงมา เทลงมา ฮ่าๆๆ
แต่ศาลานี้ต้องพึ่งช่างเค้าแล้วหละครับ
เพราะอยากทำให้มันแข็งแรงถาวร แล้วก็ค่อนข้างสูงโปร่งหน่อยนะครับ ตอนแรกก็เปนศาลาธรรมดาคับ พื้นดิน แต่ฝนอีกนั้นแหละ แฉะไปหมด เลยจัดการ โมดิฟายด์ใหม่ เทพื้น ทำบ่อปลา กั้นด้านหลังไว้เก็บของแล้วก็ทำงาน ข้างล่างต่อห้องน้ำออกมาอีกหน่อยดีกว่า
ได้ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานไปแล้ว
คราวนี้ก็มาถึง ตัวบ้านจริงๆ กันดีกว่า อย่างที่บอกนะครับว่ามีกันสามหนุ่ม ก็เลยขอสร้างกันคนละหลังซะเลย อย่างที่ตั้งใจไว้แต่ว่าอยากได้บ้านเรือนหมู่เหมือนเรือนไทยสมัยก่อน… ก็เลยสร้างเป็นหลังเล็กๆ หลังใครหลังมันนะครับ โดยแยกห้องนั่งเล่น ห้องครัวไปใช้รวมกัน ก็เลยได้มาแบบนี้นะครับ
แบบบ้านก็ออกแบบกันเองนี่แหละครับ ไม่เปลืองตังค์ดี ฮ่าๆๆ
ไม่ได้พิเศษอะไรมากมาย ลองนึกถึงตอนประถมดูนะครับ เรียนวาดเขียนแล้วเคยวาดบ้านทรงนี้มั้ยครับ มีหลังคา มีประตู แล้วก็หน้าต่าง แค่นี้มันก็คงเป็นบ้าน ส่งครูได้แล้วเนอะ
ทีแรกตั้งใจว่าจะให้มันออกมาแนวๆ tropical modern cottage
แต่ก็นะ..ไม่อยากจะคุยนะครับว่าที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ (ยากจน) ก็เลยได้แค่นี้แหละครับ กระท่อมไม้ไผ่มุงใบตองตึง แต่ข้างในนะ.. ขอไฮๆนิสนึงแล้วกัน ว่างเปล่า ไม่เห็นมีรัยเลย
วิวจากในบ้าน (จิงๆ แล้วมันเปนห้องนอนห้องเดียวง่า)
อะ…พักไปล้างหน้าล้างตาแว้บนึงได้นะครับ เผื่อใครเริ่มรู้สึกร้อนๆ ที่ตา …5555
ติดม่านไป … เริ่มดูดียัง…
ใส่เตียงเข้าไป …… นอนได้แล้วจ้า…
ข้อเสียอย่างนึงของหลังคาตองตึงก็คือ มันจะมีฝุ่นตกลงมาเปนประจำนะคับตอนที่มีลมพัดแรงๆ ก็เลยต้องปัดกวาดกันบ่อยหน่อย หรือไม่ก็ต้องหาผ้ามาคุมที่นอนไว้อย่างนี้แหละครับ
แต่ว่าข้อดีของหลังคาตองตึงนั้นก็มีอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ .. อันดับแรกเลยคือ ไม่ร้อน ถึงแม้ว่าหน้าร้อนจะนอนโดยไม่มีพัดลมก็ตาม เปนการช่วยลดพลังงาน และลดโลกร้อนไปในตัวด้วยนะครับ (เหตุผลนี้ดูดีจัง 555) ข้อต่อมาคือ ชาวบ้านมีรายได้จากการไปเก็บใบตึงมาทำตองนี้แหละครับ ข้อดีที่สุดก็คือ ไม่แพงครับ… ราคาใบตองตึงแผงนึงก็ประมาณ 4 – 5 บาท บ้านผมหลังนึงนี่กว้าง 4×6 เมตร ก็ไม่เล็กไม่ใหญ่นะครับ ใช้ตองประมาณ 500 แผง คิดออกมาเปนเงินแล้วก็แค่สองพันบาทเองครับ แต่จะไปหนักค่าโครงหลังคานะครับ.. รู้งี้เอาเปนโครงเหล็กถูกกว่าโครงไม้สักเยอะเลยหละ
ส่วนห้องน้ำ ก็ใหญ่โตอลังการไปหน่อย
เพราะมีคนบอกอยู่เสมอว่า ห้องที่มีความเปนส่วนตัวมากที่สุดก็คือห้องน้ำนี่แหละครับ แล้วผมก็ชอบอยู่ส่วนตั๊ว ส่วนตัวซะด้วย ก็เลยขอหน่อยแล้วกัน ห้องน้ำใหญ่ๆ พร้อมสวนส่วนตัว ในห้องน้ำ อิอิอิ
กลับไปนั่งเล่นกันที่ศาลากันดีกว่า
วันๆ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แหละครับ เพราะพื้นที่ส่วนอื่นไม่มีร่มไม้ให้ไป นอนงีบเลยนะครับ
เชื่อม่ะ ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ได้ทั้งวัน….
อะ เกือบลืม ว่าจะอวดห้องน้ำอีกสักห้อง ตรงศาลานะครับ
โอเพ่นแอร์ด้วยหล่ะ…. น้องนกชอบมาแอบดูผมประจำเลย…5555 แพงสุดก็ประตูนี่แหละครับ……. หุหุหุ
อันนี้ไอเดียจากหนังสือบ้านและสวนครับ
ประหยัด หรู ดูไฮ… 55555 ลองเอาไปทำดูได้นะครับ ใช้ลวดมัด กระถางกล้วยไม้แล้วนำมาต่อๆ กันแบบนี้ครับ ใช้เวลาแว้บเดียวก็เสร็จ ทำสีให้นิดนึง ดูมีคุณค่าน่าใช้ขึ้นเปนกอง งบประมาณร้อยกว่าบาทเอง
เค้าว่าห้องน้ำบ้านผมไฮโซไปหน่อยป่ะ… มาดูกันดีกว่า ว่าไฮไซเค้า ใช้เงินไปกี่บาท
- อ่างแก้วนี้ จากโฮมโปร 790 บาท
- ก๊อกน้ำ ล้างจาน 250 บาท
- ชักโครกลดราคา 1999 บาท
- สายฉีด 150 บาท
- โถฉี่ (ไม่มีในรูปอะ มันแอบอยู่ข้างประตู) 690 บาท
รวมแล้วเท่าไรไม่รู้…. แต่ว่าต้องบวกค่าท่อน้ำประปา กะท่อน้ำทิ้งไปด้วยน๊า หลายร้อยอยู่เหมือนกัน
ส่วนผนังด้านนอก ก็ยกให้กล้วยไม้เค้าไปนะครับ
หน้าร้อนอย่างช่วงนี้นะ ขยันออกดอกกันจริงๆ เลยคับ ไม่เสียแรงที่เลี้ยงมาเปนปี…
ส่วนใหญ่ก็เก็บๆ มาแถวชายทุ่งนะครับ…
แล้วก็มีอยู่ไม่น้อยเลยที่ ลุงๆ ป้าๆ คุณตา คุณยาย ชาวบ้านแถวนี้ เค้าแบ่งปันมาให้หลานๆ อย่างผมปลูกดูนะครับ ที่ชอบมากที่สุดก็เป็นนี้เลยครับ เอื้องแซะ…… หอมมาก
แถมตอนค่ำๆ ให้รูปนึงจ้า
เสียดาย ไม่มีปัญญาถ่ายหิ่งห้อย…. ใกล้หน้าฝนแล้ว เด่วพี่ทั่นก็ชวนกันบินมาเปนฝูงใหญ่ๆ … ปีที่แล้วคืนๆ นึงนี้น่าจะมีมากกว่า 50 – 60 ตัว… นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า บนดอยจะมีหิ่งห้อยเยอะขนาดนี้… บางคืนนอนไม่หลับ ก็นอนนับหิ่งห้อยที่บินมาเกาะตามมุ้ง ก็เพลินดีครับ
ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาชมนะครับ
ที่มา : canx