บ้านที่มีอายุการใช้งานหลายสิบปี สภาพดูเก่าแก่ อาจจะถึงคราวที่เราต้องทำการรีโนเวทแล้วก็เป็นได้ ซึ่งจะต้องมีการวางแผนที่ดี เพื่อให้การปรับปรุงเป็นไปในทางที่เราต้องการ อีกทั้งยังต้องคำนวณเรื่องงบประมาณที่ต้องไม่ให้เกินตัวอีกด้วย
จากคราวที่แล้ว คุณ d3paul สมาชิกเว็บไซต์ Pantip.com ได้ทำการบูรณะห้องแถวเก่าเก็บให้กลายเป็นบ้านสวย กลับมาคราวนี้ก็ได้ทำการ บูรณะบ้านเก่าที่จังหวัดเชียงใหม่ เปลี่ยนจากบ้านเดิมๆ รกๆ ให้กลายเป็นบ้านสวยบรรยากาศรีสอร์ทแสนสบาย จะสวยงามน่าชมแค่ไหน ลองไปดูกันได้เลยครับ
Renovate : บูรณะบ้านเก่าที่เชียงใหม่ ให้มีกลิ่นอายของรีสอร์ทนิดๆ
(โดย d3paul)
ครั้งก่อนนั้นผมรีโนเวทห้องแถว โดยลองดำเนินการด้วยตนเองในหลายส่วน เพื่อเซฟงบประมาณครับ และบ้านหลังนี้ก็คือสาเหตุ ที่ผมต้องประหยัดเงิน เพื่อที่จะมาปรับปรุงบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ คอนเซ็ปจะรีโนเวทให้เป็นอารมณ์พักผ่อน แนวๆรีสอร์ทบ้านๆ ก็ถือโอกาสไปพักผ่อนแล้วก็รีโนเวทไปด้วย เริ่มจาก Before After เลยนะครับ
ภาพ before นี้ความจริงก็ไม่ได้เป็นภาพแรกก่อนการรีโนเวท ซึ่งในตอนนั้นสภาพจะมีต้นไม้ใหญ่ สามสี่ต้น อยู่แนวรั้ว กิ่งก้านปกคลุมหลังคา รูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อตอนที่ตัดต้นไม้ออกแล้ว ขณะนั้นใบไม้ร่วงเยอะมาก กวาดยากด้วยครับเพราะเป็นอิฐตัวหนอน นี่เป็นภาพที่เก่าที่สุดที่สามารถเปรียบเทียบ side by side ได้ ผมชอบบ้านนี้มาก เพราะมีคาแรคเตอร์บางอย่าง ทั้งที่หลายคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ เช่นพื้นที่อาจไม่เป็นสี่เหลี่ยม ทำให้มีซอกเล็กซอกน้อย อันนี้ผมพยายามคิดให้เป็นข้อได้เปรียบ เพราะถ้าพืนที่เป็นสี่เหลี่ยม มันจะดูธรรมดามาก กรณีที่อยากมีมุมเล็กมุมน้อย เราต้องกั้นส่วนพื้นที่เช่นใช้ต้นไม้หรือระแนง ตรงนี่แหละที่ผมคิดว่า เราได้พื้นที่เล่นฟรีๆ แถมยังทำให้บ้านดูเหมือนกว้าง เพราะมีหลายมุมให้ค้นหา จึงพยายามปรับแต่งมุมต่างๆ ตามความเหมาะสม และที่ชอบเป็นพิเศษคืออากาศของจังหวัดนี้ ผู้คนก็ยิ้มเก่ง รถไม่ติด ไม่นับช่วงเช้าเย็นนะครับ และมีหลายอย่างผสมผสาน คล้ายกรุงเทพ+ธรรมชาติ+วัฒนธรรม ครับ
วันที่ได้บ้านหลังนี้ ผมไปถึงบ้านตอนเก้าโมงเช้า ผมขอพาเดินดูบ้านหลังนี้พร้อมกันครับ
พื้นที่เล็กๆนี้ 39 ตรว มีทางเดินเข้าบ้านทอดยาว ซึ่งข้างในมีบ้านอยู่สองหลัง คือหลังเล็ก(พื้นที่ระบายสีฟ้า) และหลังใหญ่(พื้นที่ระบายสีเขียว) วันแรกมาก็สำรวจและวัดพื้นที่เหมือนกับกระทู้แรก บริเวณทางเข้า จะมีพื้นอิฐตัวหนอน และใบไม้เยอะเลย ต้องเก็บกวาดอยู่ตลอดเวลา เดินเข้ามาจะพบกับบ้านหลังเล็ก (สีฟ้า) อยู่ขวามือ มี 1 ห้องนอนและห้องน้ำในตัว เดินตรงเข้ามาอีกจะเป็นบ้านอีกหลัง ซึ่งใหญ่กว่า มีห้องจำนวน 3 ห้อง และ 1ห้องน้ำ ในบ้านหลังใหญ่นี้ มีโถงโล่งๆ สภาพแสง ดูมืดแม้เป็นเวลากลางวัน เมื่อเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ ด้านซ้ายมือ พบเศษหินถมเอาไว้ และมีท่อประปาหลงเหลืออยู่ ตรงนี้ดูไม่ค่อยสะอาดนัก ในใจมีช้อยส์คือ สระน้ำ ลานซักล้าง หรือปลูกต้นไม้เพราะมีดินอยู่แล้ว (ในรูปพื้นที่สีเทา) ส่วนรอบๆตัวบ้านหลังใหญ่ที่เป็นสีเทา ก็เป็นพวกเศษวัสดุทับถมอยู่ ยังไม่ได้เทปูนให้ดูสะอาดตา
ท่อประปาเก่า ยังใช้งานได้ รีบเช็คก่อนเลยว่ามีน้ำให้ใช้หรือเปล่า พอเปิดน้ำดู และไปที่ห้องน้ำ ซึ่งบางที่ไม่ไหล บางที่ไหลเป็นน้ำเป้นสีขุ่นแดง เลียบเคียงถามบ้านข้างๆ ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเหมือนกัน ตอนอาบน้ำ เอ๊ะ! ทำไมมีกลิ่นแปลกๆ คล้ายๆ สุนัขจากฝักบัว มาทราบทีหลังว่าบ้านนี้เคยเลี้ยงสุนัข สันนิฐานว่าอาจมีการรั่วตรงบริเวณนี้ แล้วน้ำจึงไหลย้อนกลับมาก็เป็นได้ เนื่องจากบางวันน้ำหยุดไหลเอาดื้อๆ ทั้งวันผมรีบจัดการให้น้ำไหล
***สิ่งที่ต้องจัดการอันดับแรกๆ ไล่ตามลำดับความสำคัญคือ แท้งก์น้ำ ปั๊มน้ำ ระบบกรองน้ำใช้ ระบบกรองน้ำดื่ม ต้องลงมือเองครับ เลยไปดูแท้งค์น้ำแถว ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ รอเขาส่งในวันรุ่งขึ้น ซื้อปั๊มและอุปกรณ์ท่อน้ำ ส่วนเครื่องกรองน้ำผมให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยไม่ให้เครื่องครัว และสุขภัณฑ์เป็นคราบ
ห้องน้ำเดิมที่น่าจะมาจากคราบหินปูนและตะกอนดิน ถึงจะทำใหม่ขนาดไหนถ้าน้ำใช้ไม่ใสสะอาด ไม่กี่วันก็จะเป็นคราบ ไม่ว่าจะเป็นซิ้งค์ โถสัวม อ่างล้างหน้า พื้นที่มีน้ำขัง ยิ่งถ้านานยิ่งฝังแน่นครับ
ผมติดตั้งเครื่องกรองหยาบ ก่อนเข้าแท้งค์เก็บ หลังจากเริ่มใช้งาน ประมาณไม่กี่นาที เป็นสภาพอย่างที่เห็น ส่วนน้ำที่ออกมาใสใช้งานได้ทีเดียว เปลี่ยนใส้กรองบ่อยมาก หลังจากสองวันผ่านไป ผมมีปั๊มน้ำ แท้งค์น้ำวางอยู่ตรงกองหินนั้น มีน้ำสะอาดใช้ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวเล่นกับแก้งค์เพื่อน ไปสำรวจเส้นทาง ซึ่งจำยากมากๆครับ ซอยเล็กซอยน้อยเต็มไปหมด เพื่อที่จะได้ทราบว่าตรงไหนของเมืองมีอะไรน่าสนใจบ้าง แล้วเก็บมาเป็นไอเดีย ผมคิดว่าหลายท่านที่มีโอกาสไปเที่ยวแล้วขับขี่เอง ท่านคงจะงงๆ กับถนนที่เชื่อมกันคล้ายตารางหมากรุกของเมืองนี้เป็นแน่
ขณะที่ผมรีโนเวท ผมก็ถือโอกาสพักผ่อนไปด้วย เชียงใหม่มีอะไรเก๋ๆ เยอะอยู่แล้ว ผมอยากได้ซุ้มแบบนี้ตรงทางเข้าบ้าน แต่สุดท้ายได้ซุ้มที่ไม่เหมือนกันนี้ครับ ผมตระเวนไปชิล ตามร้านกาแฟ ซึ่งมีอยู่อย่างดาษดื่น ไปบ้านม้า บ้านถวาย ดูเฟอร์นิเจอร์ไม้ ขี่รถขึ้นดอยบ้าง ได้ขี่ไปแม่กำปอง ม่อนแจ่ม แม้กระทั่งปาย แต่อยู่ที่เชียงใหม่นี้ กว่าจะจำถนนหนทางได้ ก็ใช้เวลาพอสมควรครับ อาศัยเปิด gps ดูบ้าง หลงทางก็ไปตามทางที่หลง จนจำเส้นทางได้ ได้ไอเดียหลากหลาย แต่ผมอยากจะแนะนำแอปหนึ่งที่ผมชื่นชอบ คือ houzz ครับ ดูแบบได้ดีมากทีเดียว จะดูในเว๊ปไซด์ก็ได้ครับ เลือกดูแบบที่มีวัสดุในประเทศ ก็ filter เอาตามที่สบายใจเลย
ผมเริ่มคิดแปลนบ้าน ความจริงไม่ได้วาดแปลนนี้นะครับ เขียนเพื่อประกอบโพสนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่ทางเดินเข้า เดิมเป็นรั้วโปร่งๆ เป็นบานสวิงเดี่ยว กินพื้นที่มาก ทางเข้าใบไม้ร่วงเยอะ ต้องหมั่นเก็บกวาดสม่ำเสมอ ทำแนวต้นไม้ริมรั้ว จัดระเบียบท่อน้ำ ตรวจสอบซ่อมพวกไฟฟ้า เชื่อมต่อบ้านทั้งสองด้วยโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ส่วนพื้นที่สีเหลืองทำเป็นสวนเล็กๆ มีน้ำตก สระน้ำ และลานซักล้าง บ้านทั้งสองหลังต้องซ่อมแซมใหม่ โดยผมจะคงสภาพหลังเล็กเอาก่อนเพื่ออาศัยอยู่ และเริ่มทำจากหลังใหญ่ (สีเขียว) ก่อน เสร็จแล้วทำหลังสีฟ้า ปรับปรุงทางเดินเข้า ทำประตูใหม่ และหลังคาคลุมตลอดทางเดินเข้าบ้านผมออกไปหาแรงงาน จ้างเป็นรายวัน ให้รื้อฝ้าออก ของเดิมเป็นทีบาร์ ก็ไล่เช็คหลังคาและ ระบบสายไฟฟ้า ผมออกไปหาแถวตลาดคำเที่ยง ที่ขายต้นไม้เยอะๆ ได้ช่างมาช่วยงาน ชื่อช่างอ่ำ เขามาช่วยซ่อมบ้านอยู่หลายอาทิตย์ และสอนผมอู้กำเมืองให้ผมหลายประโยค มีเรื่องตลกคือวันหนึ่งรถเครื่องของเขาน้ำมันหมด ให้ผมถีบรถไปเติมน้ำมัน ไอ้ผมก็ไม่เคยถีบรถ เอาลองก็ลอง ก็ถีบไปเติมน้ำมัน ถีบไปถึงแยกผมถามไปทางไหน เขาบอกไปซื่อ ๆ ผมก็เงิบสิ ทางไหนอ่ำ ทางไหน ผมถามอีก เขาก็ชี้ไปข้างหน้า ไปซื่อ อ่อ มันคือตรงไปนั่นเอง คำว่าซื่อ คล้ายๆ ซื่อตรง หมายถึงตรงไปนั่นเอง เมืองนี้มีอะไรให้ค้นหาดีจัง
เจอรูก็ปีนขึ้นไป รูนี้ช่างเป็นคนปีนขึ้นไปทำให้ ผมใช้กระเบื้องอีกแผ่นตัดเป็นสีเหลี่ยมแล้วทาซิลิโคนแปะไว้จากด้านใน ลูบด้านนอกให้น้ำไหลสะดวก
ผมเลือกทีบาร์เก็บเอาไว้ เพราะในอนาคตอาจจะทำฝ้าใหม่ ลาดไปตามแนวหลังคา อาจจะเล่นระดับได้อีกด้วย แต่ว่าเก็บทีบาร์ไว้มันจะดูไม่เนียนเท่าไหร่ ผมจะหาโคมไฟมาติดทุกห้องแทนเพื่อดึงความสนใจ การรื้อนี่ง่ายครับ แค่ยกลงมา แต่ตอนใส่ ช่างรายวันไม่สามารถทำได้ ผมเลยต้องตัดฝ้าให้เขาแล้วนำขึ้นไปใส่ โดยวัดขนาด แล้วตัดให้ได้ทรงตามช่องว่างด้วยจิ๊กซอว์
ตอนนี้บ้านหลังนี้ ตลบอบอวนไปด้วยฝุ่นครับ เพราะผนังเดิมไม่ค่อยเรียบเนียนอย่างที่ผมชอบ ก็เลยให้ช่างฉาบบาง แล้วขัดออก แล้วค่อยทาสีใหม่ ผมใช้สีชื่อ Magnolia และ dessert floor ช่างรายวัน 2 คนขัดทาใช้เวลา 2 วันต่อห้อง ผมใส่ตู้สาขากับฮับแลน เชื่อมบ้านทั้งสองหลังไว้ด้วย เพื่อใช้กับกล้องวงจรปิด โทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ห้องโถงบ้านหลังใหญ่รื้อฝ้าออกแล้ว ตรงนี้จะทำฉาบเรียบ เพราะหลังคาไม่ได้สูงมาก อนาคตคงไม่ได้ทำอะไรอีกแล้ว ผมเดินสายลำโพงไว้ด้วยเลย จะได้มีเพลงเบาๆฟัง
สาเหตุที่เลือกเก็บบ้านหล้งเล็กไว้อาศัยก่อนเพราะมุ้งลวดของบ้านหลังใหญ่นี้ขาด กลัวยุงกัดครับห้องนี้ทีแรกกะทำเป็นล๊อฟ ปูนเปลือย แต่หาช่างทำยาก ต้องช่างที่มีประสบการณ์ครับ ที่เห็นเป็นช่างทำ แต่ไม่เวิร์ค ตู้เย็นนี่ได้จังหวะลดราคาพอดี เลยซื้อเก็บไว้ก่อน
ก็ไล่ทำไปเป็นห้องๆ ครับ ขัดพวกพื้นไม้ ขัดทำสีวงกบ หน้าต่าง เก็บรายละเอียดไปเรื่อยๆ ช่างรายวันเขาก็ทำ ไปเรื่อยๆ ชิลๆ ตรงไหนอยากได้ดีๆ ก็ลงมือเองบ้าง ใช้เครื่องมือดีๆ มันก็ออกมาดั่งใจครับ ทุกห้องผมติดโคมไฟ ลองเอาหาแบบที่ชอบ ไปติดดูสิครับ มันจะช่วยทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ รวมเวลาสองอาทิตย์ ทำสีห้องได้สามห้อง รวมห้องโถง ช่วงนั้นผมก็มาพักที่นี่คราวละ สองถึงสามอาทิตย์ พาคุณแม่มาใช้ชีวิตแบบคนในพื้นที่ แม่เขาเคยเจอแม่ค้าบอกว่า ซาวบาทจ้าว ก็เงิบไปว่าอะไร แต่ตอนนี้เขาพอฟังคำเมืองออกแล้วครับ ดูแม่ชอบที่นี่เพราะมีวัดเยอะ ไปสะดวก ตักบาตรง่าย
ขัดพื้นไม้ ทาโพลียูรีเทน งานละเอียดต่างๆ เก็บดีเทลเอง ตอนนี้ห้องทั้งสามก็เสร็จแล้ว ผมใช้ห้องนึงเก็บเสื้อผ้าไปเลย
ห้องโถงนี่ มันดูเพลนเกินไป จึงติดไฟเบอร์ออฟติกเพื่อใช้เป็นไฟกลางคืน night light ครับ แล้วก็ใส่โคมไฟเข้าไปด้วย เวลากลางคืน จะมองเห็นดาวเหล่านี้จากห้องที่อยู่ติดกันด้วย
ประโยชน์ของมันคือ เดินไปห้องน้ำเวลากลางคือ จะมองเห็นไม่เดินชนอะไรเข้าครับ ใช้แอลอีดี ประหยัดพลังงาน เนื่องจากเปิดทุกคืน
บริเวณครัวและห้องน้ำ ผมเปลี่ยนหลังคาใหม่ และก่อเค้าเตอร์ซิ้งค์ และเอาหินมาจาก กท ซิ้งค์เป็นแบบสามหลุม
ลองวางซิ้งค์ เจอปัญหา คือท๊อปหินที่ตัดจากสเปคของอ่างซิ้งค์ แต่พอวางจริงๆ กลับใส่ไม่ได้ ผมตัดหินออกด้านละเซ็นต์นึง ลุ้นว่าเวลาตัดจะพลาดเสียโฉมมั้ย ผมซื้อเครื่องตัดน้ำมาตัวนึงเพื่อการนี้ จะไว้ใช้ตัดท๊อปของเตาแก๊สด้วย ตรงนี่เป็นอีกเรื่องที่อยากแชร์เป็นไอเดีย การเปลี่ยนมุมเล็กมุมน้อยในบ้านให้เป็นพื่นที่จุ๊กจิก ให้ดูมีลูกเล่นหน่อย นับเป็นไอเดียที่ไม่เลว หลายคนที่เข้ามาดู พวกเขาชอบมุกเล็กมุมน้อยนี้ครับ เพราะมันดูมีคาแลคเตอร์ดี ด้านหน้าซิ้งค์ เป็นหน้าต่าง จะมีแสงแดดส่องถึง ได้แสงธรรมชาติช่วงเช้าสาย ดูอนามัยอีกด้วย
สุดท้ายก็โล่งออก ใส่ได้อย่างพอดี ไม่พลาดเกิดรอยด้วย ชอบซิ้งค์ตัวนี้จริงๆ ใช้งานดี เรื่องซิ้งค์นี่ถ้าเป็นได้เลือกหนาๆ ก็ดีครับ ในกรณีที่ต้องล้างครก จะสะดวกมาก
ส่วนท๊อปหินที่เจาะช่องออกมา ก็เอามาทำโต๊ะวางทีวี แบบบ้านๆ คงต้องทาเคลือบผิวหน่อยจะได้ดูสวยขึ้น
เค้าเตอร์ล้างจาน จะอยู่ที่มุมบ้านด้านหนึ่ง อีกมุมจุกจิกที่เคยเกริ่นไว้ ตัวผนังเค้าเตอร์ใช้แกรนิโต้สีดำปิด
ส่วนที่เป็นบริเวณห้องน้ำ และห้องครัว เดิมจะมีฝ้าอยู่ และมีกลิ่น เนื่องจากมีขี้หนู ก็รื้อฝ้าออก เจอก้อนแฉะๆลักษณะคล้ายดินน่าจะเป็นมูลหนู มีกลิ่นแรง เลยตัดสินใจรื้อหลังคาออกหมด แล้วมุงใหม่จะได้จบเรื่องกลิ่นไป เนื่องจากรื้อมาสักอาทิตย์แล้วกลิ่นยังไม่หายไป ตรงนี้ผมมุงหลังคาโพลีคาร์บอนเนต ซึ่งจะโปร่งแสง แสงแดดผ่านได้ ตากผ้าได้ อีกทั้งเป็นแสงธรรมชาติ ให้แสงทั้งห้องน้ำ ครัว แถมยังได้ความโล่งโปร่ง แสงแดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วยครับ ในรูปคือหลังจากที่มุงหลังคาใหม่แล้ว และก่ออิฐปิดช่องว่างระหว่ากระเบื้องหลังคาป้องกันสัตว์และแขกไม่ได้รับเชิญ กระเบื้องผนังหลังเตาแก๊สเป็นกระเบื้องท้ายล๊อตสวยๆ ราคาถูก มีจำนวนจำกัด เหมาะกับการทำพื้นที่เล็กๆเช่นนี้
พอผมมีเครื่องตัดน้ำ ผมตัดกระเบื้องแกรนิโต้ 80×80 ตัดเข้ามุมเองเลยครับ ใช้เครื่องตัดให้คุ้ม ซื้อมาแล้วนี่ ก็วัดจับฉาก แต่คิดว่าจะเปลี่ยนเป็นหินจริงๆ ดีกว่า เพราะมันเป็นรอยง่ายเกินไป เค้าเตอร์ของเก่าตรงนี้เป็นซิ้งค์ล้างจานหนึ่งหลุมมีที่พักครับ
คราวนี้ก้ถึงเรื่องห้องน้ำ จากเดิม นี่ อยู่รวมกันกับส้วม อ่างล้างหน้า และฝักบัวอาบน้ำ ใช้ซักล้างในห้องเดียวกัน จากการใช้งานจริง ๆ เราต้องเช็ดถูพื้นบ้าน และต้องนำน้ำมาเททิ้งตรงนี้บ่อยๆ คงจะสะอาดยาก จึงแยกส่วนเปียกออก ส่วนอาบน้ำผมเอาออกจากห้องนี้ไปอยู่พื้นที่ว่างข้างๆ แทน ทำให้ใช้งานพร้อมกันได้ ส่วนซักล้างจะไปอยู่ที่อื่น ห้องน้ำเดิมจะมีขอบเป็นสเตประหว่างรอยต่อพื้นและผนัง ผมจะเทพื้นใหม่เสมอเลย จะได้ทำความสะอาดง่าย
ตอนเลาะกระเบื้องออกครับ พลาดนิดตรงสเปคของสุขภัณฑ์ ซึ่งต้องวางท่อที่ตำแหน่ง 30.5 ซม แต่ดั้นเว้นไว้น้อยกว่า สัก 5 ซม ได้ แก้ก็ไม่ได้ ตอนเสร็จนี่มีกลิ่นจากส้วม ซึ่งเกิดจากข้องอมันวางไม่ตรงรูพอดี ต้องมาแก้ไข ถ้าไม่เสียตังเรียกศูนย์มา ก็ต้องแก้ไขเอง ในรูปฝังท่อน้ำ โดยผมขีดตำแหน่งแนวที่จะสกัดด้วยเมจิก แล้วสกัดปูนออกด้วยมือ ตอนนั้นผมยังไม่มีเครื่องสกัดไฟฟ้า สกัดกันจนค้อนพังไปด้ามนึง แนวท่อน้ำนี้วิ่งไปจ่ายให้อ่างล้างหน้า และแยกออกไปใช้ที่ตู้อาบน้ำ
ส่วนอ่างล้างหน้าจะอยู่ที่เดิมแต่เปลี่ยนการวางไป 90 องศา เพราะมีท่อระบายน้ำอยู่แล้ว เหนืองอ่างล้างหน้านี้เป็นหลังคาใส ซึ่งจะทำให้พื้นห้องน้ำนี้แห้งอยุ่ตลอดและดูแลรักษาง่าย ผมเจาะผนังด้านที่รับแสงช่วงเช้าใส่บล๊อคใส ตอนเช้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้นแสงจะลอดผ่านช่องนี้ หักเหเป็นแถบสเป็คตร้ม ลอดผ่านเข้ามาฉายที่ผนังใกล้ๆกับกระจกส่อง สวยไปอีกแบบ ไว้จะถ่ายรูปช่วงนั้นมาแชร์กันครับ
วางมุมอ่างล้างหน้าใหม่ เค้าเตอร์ได้มานานแล้ว ลดราคา น่าจะสองพันบาท แมทช์กันไดพอดีกับอ่างล้างหน้า กระจกไปตัดกระจกมาราคา 130 บาท แถวเจริญเมือง ไม้กรอบกระจกเป็นไม้ที่ผมแพ็คหินแกรนิตส่งมาจากกรุงเทพผ่านทางบริษัทขนส่ง (ซึ่งเคยเป็นไม้กระดานบนคานเตียงมาก่อน พอแกะออกแล้วเอาไม้มาขัด โชว์เนื้อไม้เลย หน้ามันกว้าง ผ่าครึ่ง จับมุม)
ส่วนชั้นเป็นไม้สักเก่า ใช้ฉากเหล็กยึดกับผนังครับ ตรงนี้มีแสงลอดมาเลยเลี้ยงกุหลาบหินเอาไว้ ถ้าตอนเช้าล้างหน้าถ้าพอมีเวลาอาทิตย์ละครั้งก็หยอดน้ำลงไป ข้อดีอีกข้อคือ คืนเดือนหงายจะสว่างมองเห็นเลยครับ
ช่องแสงที่เจาะครับ ทำฝ้าด้วยไม้เทียม ดาวน์ไลท์ใช้แบบลอยตัว เพราะถ้าจะเจาะเป็นรูใหญ่ๆ ติดตั้งดาวน์ไลท์แบบฝัง น่าจะวุ่นวาย ส่วนสีระแนงฝ้าใช้สีสักเงา ทาบางๆ สี่ห้าเที่ยวครับ ใส่ฉนวนกันร้อน ถ้าจะทำช่องแสงละก็ ก่อนจะทำให้เล็งไว้ด้วยครับ ว่าไม่มีบ้านไหนมองผ่านเข้ามาได้ ถ้ามีก็คงต้องทำเป็นสองชั้น หรือจะทำให้เป็นขุ่นๆ ที่เรียกว่า frosted ครับ โดยจะเป็นสติ๊กเกอร์ หรือใช้สเปรย์พ่นก็ได้
เรื่องโทนสีห้องน้ำ เลือกคุมโทนให้อยู่ ขาว ส้ม และสีไม้ธรรมชาติ แม้แต่ตัวบังโคมของโคมไฟ ผมเลือกใช้ที่บุด้านในด้วยทองแดง จะได้ดูไปในทางเดียวกัน ในความเห็นของผม การเลือกโทนสี ผิวสัมผัส ของวัสดุเช่นกระเบื้อง ตลอดจนเครื่องใช้และสุขภัณฑ์ ถ้าเลือกได้เหมาะสม มันก็ดูออกมาสะอาดตา น่าใช้ดีเหมือนกันครับ แม้ว่าวัสดุพวกนี้หาได้ทั่วไป และราคาไม่แพงอีกด้วย สำหรับกระเบื้องผมใช้ 12×12 นิ้ว ลายหิน พื้นผิวด้านๆ ไม่ลื่น ตัวนี้จะมีเลื่อมวิ้งๆ เวลาแสงจากดาวน์ไลท์กระทบด้วย สวยดี ส่วนคาดกลางผนัง ได้มากล่องนึงถูกๆ พอเข้ากันได้ครับ
คราวนี้ก็มาถึงห้องอาบน้ำครับ ซึ่งผมแยกออกมาจากห้องส้วม แต่มีหลายคนว่าไม่กล้าอาบ 555 ตอนนี้เป็นรูปตอนใกล้เสร็จครับ ประตูห้องน้ำก็ใสเหมือนกัน ใช้บานกระจกที่มีอยู่ ซึ่งขนาดความสูงได้ แต่ความกว้างไม่ได้ ต้องก่ออิฐเพิ่ม จะดูเปิดเผยไปนิด หน้าตู้อาบน้ำ จะมีราวสีขาว ซื้อจากกรุงเทพ ไม่กี่บาท สำหรับใส่ม่าน และใช้ตากผ้าได้ด้วยครับ
สภาพตอนทำครับ
นี่ภาพตอนติดตั้ง กระเบื้องนี่ก็เคยปูครั้งแรกแร่ะครับ ส่วนผนังที่เป็นสีเทาๆ กะว่าจะทำแนวปูนเปลือย ลองทำเองดู แต่ไม่ค่อยเวิร์ค คงต้องรอช่างมาทำ แต่ถ้าจะขัดก็ได้อยู่เพราะลองขัดที่ผนังด้านติดโคมไฟ ขัดไปนานๆ เรียบเนียนมาก สีเทาอ่อน ชอบเหมือนกัน ตรงนี้ใช้สกิมโค้ทที่ผสมกับปูน ปั่นด้วยสว่านนานๆ เคล็ดลับนี่เองถ้าเนื้อเข้ากันได้ดีจะฉาบได้ลื่นเนียนสวย แต่คราวหน้าให้ช่างที่มีประสบการณ์ทำดีกว่า กระเบื้องนี่ปูเองเพราะอยากลอง และเห็นว่ากำแพงด้านซ้ายได้ดิ่งคงไม่อยาก แต่ด้านที่มีก๊อก จะเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย ตอนที่ปูเอง เปลืองปูนกาวมาก เวลาเจาะช่องก๊อกน้ำ นี่โชคดีเพราะช่องเจาะอยู่ที่ขอบกระเบื้องพอดี แต่ตรงท่อน้ำร้อนน้ำดี ใช้สว่านแบตเตอรี่ ดอกเจาะเหล็ก 2 mm ค่อยๆเจาะทีละรู ตามเส้นรอบวง ของท่อน้ำ เจาะไปเอาน้ำหยอดไปเรื่อยๆ พอปูกระเบื้องเสร็จ ก็ติดบานตู้อาบ ก็คำนวณ วางแนวฉากให้ได้ดิ่ง ทั้งสองบาน พอติดบานทั้งสอง ก่อนเสร็จวัดดูว่าระยะของประตูฉาก เข้ากันได้กับประตูจริงๆ ก็ยึดบานตู้ให้เสร็จ ไม่งั้นเดี๋ยวต้องเจาะหลายรูครับ คราวนี้ถึงก้านฝักบัว ผมมีฝักบัวแบบถืออยู่อันนึง เลยเอามาใช้ โดยทำท่อพีวีซีเพิ่มเติม มีปลายด้านนึงเกลียวนอก เอาไว้สำหรับขันเข้ากับท่อน้ำที่กำแพง ส่วนอีกด้านเป็นเกลียวในที่จะต่อกับฝักบัวถืออาบนี้ ให้มันยื่นออกมาบริเวณกลางตู้ แต่ว่ามันเป็นสีฟ้า ผมจึงตัดท่อพีวีซีสีขาวขนาด 1 นิ้ว มาหุ้มจะได้ดูโอเคขึ้นหน่อย ถ้าหาท่อโครมเมี่ยมได้ก็จะเปลี่ยนทีหลัง ส่วนฝักบัวทำมุมเอียงเข้าหากำแพงเล็กน้อย เผื่อไม่อยากผมเปียก ตรงถาดอาบน้ำจะเห็นผมเจาะช่องใส่ท่อ 1 นิ้วเอาไว้ด้วย เผื่อไว้สำหรับเครื่องซักผ้า น้ำทิ้งจากอาบน้ำส่งผ่านท่อไปรดน้ำต้นไม้ตรงทางเดินเข้าบ้าน
ตอนนิ้ติดเครื่องทำน้ำร้อน 4,500 วัตต์แล้ว หน้าหนาวที่นี่ต้องเปิดสุดถึงจะเอาอยู่ครับ บรึ๋ยย ที่กรุงเทพ 3,500 วัตต์ หน้าหนาวปกติเปิดไปที่ตำแหน่งไม่เกินเที่ยงก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้แหละครับ ต้องเปิดไปที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาเลย หนาวจริงจัง
อันนี้ตอนใช้งาน ตั้งใจจะเอามาให้ดูว่า ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ครับ ไม่งั้นจะเป็นคราบแบบนี้ คราบที่เห็นมีทั้ง สบู่ แชมพู และฝุ่นก่อสร้างรวมกันครับ เผื่อเป็นข้อมูลให้คนที่อยากใช้ ต้องมีเวลาดูแลรักษามันหน่อยครับ
ตอนนี้ก็มาทำห้องโถงครับ ผมไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ตลอดเวลา พอมีเวลาก็จะมาทำต่อ อยู่ที่นี่ชิลกว่าในเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพ บางทีอยากกินผัดไท ก็ขี่รถเครื่อง ไปทาน ต่อด้วยโรตี ตามด้วยน้ำแข็งใส ซึ่งอยู่คนละที่กัน ซึ่งมันก็เป็นไปได้ ถ้าเปรียบเทียบกับ กทม แล้ว ไปที่เดียวยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย ในรูปข้างบนเป็นหน้าบ้านจะเห็นว่า มีช่องใหญ่ๆ เป็นมุ้งลวด ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนจากทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะมองจาก ประตูหน้าบ้าน บ้านหลังเล็ก หรือมองจากห้องโถง ผมทำ Thought experiment ว่าตรงช่องว่างใหญ่ๆนี้จะทำเป็นอะไร ให้ดูเด่นขึ้น เลยวาดแบบด้วยโปรแกรม ให้ร้านไม้ตีราคา มันสวยแน่ๆ แต่ราคาไม่สวยเลย เพราะต้องใช้ไม้สัก เดี๋ยวปลวกมา ตรงนี้ผมเลือกทำขึ้นมาเอง ซื้อเหล็กกล่องบางๆ ตัดเชื่อม ทาสี จากนั้นตัดกระจกมาใส่ ใช้เงินไปประมาณห้าพันบาท ฝ้าเปลี่ยนเปนฉาบเรียบทั้งที่โถงและหน้าบ้าน เพื่อจะใส่ดาวน์ไลท์
เสร็จออกมาก็ประมาณนี้ครับ มองออกจากบ้านไปจะเห็นหมดไปจนถึงทางเข้า สามารถเปิดหน้าต่างบานสวิงออกรับลมได้ทั้งหมด 4 บาน
ผนังด้านขวามืออยากจะทำเป็นปูนเปลือย แต่ติดปัญหาเรื่องฝีมือแรงงาน เลยขัดออกจะทาสีน้ำตาลที่ชื่อ Natural Wheat ห้องจะได้ดูมีมิติ
สุดท้ายไม่ได้ใช้สีน้ำตาลที่ต้องการ เพราะว่าสีไม่พอ เลยต้องใช้สีเดิมที่ใช้อยู่ คือ dessert floor ก็คิดว่าไม่เป็นไร สีจะได้ไม่เหลือทิ้ง หรือไว้ค่อยหามาทาใหม่ก็ได้
ตรงนี้จะมีโคมสปอต์ไลท์ ตัวนึง เผื่อจะติดภาพหรือ วางอะไรแถวๆ นี้ จะได้ใช้แสงเน้นได้ครับ
ตอนนี้ห้องโถงก็ ออกมาเป็นเช่นนี้ โคมผ้าได้ลดราคาจาก กทม สองร้อยบาท ดาวน์ไลท์ ของที่บ้าน ตรงหน้าต่างบานเกร็ดว่าจะติดตั้งมู่ลี่ จะได้บังบานเกร็ดที่ไม่ค่อยจะได้เช็ดทำความสะอาดบ่อยนัก
ปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็เกือบเสร็จแล้ว เหลือเก็บรายละเอียด หลังจากนั้น ผมย้ายของจากบ้านหลังเล็กมาเก็บไว้ที่นี่ แล้ว เริ่มลงมือ ผมยังไม่ทำทางเดินเข้าเพราะต้องขนวัสดุผ่านเข้าออกอีกเยอะ เอาไว้ทำท้ายสุด หลังเล็กนี่ก็ซ่อมแซมแบบปกติครับ จะไม่ลงลึกในรายละเอียดจะได้กระชับหน่อย
รูปภายในบ้านหลังเล็ก ไม่มีภาพตอนแรกเข้า เนื่องจากไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ครับ แต่ก็สภาพปานกลาง รูปนี้ตอนปูกระเบื้องเรียบร้อยแล้ว ดูสะอาดตาขึ้น ตั่งเตียงได้มาจากบ้านม้า ว่าจะเปลี่ยนสีให้เข้มๆ จะได้เข้าชุดกับโต๊ะเก้าอี้
ก็ฉาบฝ้า ฉาบบาง ทำสี ปูกระเบื้องใหม่ จากเดิม เป็นพื้นปูนปิดทับด้วยเสื่อน้ำมัน ผมใช้สีน้ำตาล ตรงผนังด้านทีวี จะได้ดูสบายตาหน่อย ใส่ดาวน์ไลท์ และโคมไฟ ฉาบบาง ทาสี จ้างช่างรายวันมาทำ ผมช่วยทำไปแล้วกำกับไปด้วยจะได้ดูรายละเอียด แถมไม่ยืดยาดด้วยครับ เฟอร์นิเจอร์ได้จากบ้านถวาย ห้องน้ำก็แนวเดียวกับบ้านหลังใหญ่ คล้ายๆกัน
ลานซักล้าง ที่เดิมตรงนี้เป็นกองหิน ที่เฉอะแฉะ ไม่ชอบตรงที่มีเอเลี่ยนเยอะ ซึ่งก่อนหน้านี้วางแท้งค์น้ำไว้ชั่วคราว ด้านซ้าย ก่ออิฐ ทำบ่อน้ำตกเล็กๆ เพื่อเอาเรื่องเสียง จั๊กๆ เวลาน้ำกระเซ็น ใช้ปั๊มขนาด 20 วัตต์ ส่วนแท้งค์น้ำใช้เอาไปซ่อนด้านข้างบ้านครับ ที่นี้ตอนแรกในใจคิดจะทำสระแช่น้ำ ตื้นๆ ขนาด 3×3 เมตร แต่คิดว่าคงไม่ได้ใช้แน่ และเป็นภาระที่ต้องดูแลรักษา และไม่แน่ใจว่าข้างใต้เป็นบ่อเกรอะหรือไม่ เลยไม่อยากให้มีน้ำหนักมากเกินไป จึงตัดสินใจทำที่อาบน้ำ ซักล้างแทน โดยเทพื้นด้วยคอนกรีต น้ำที่ไหลผ่านระแนงไม้ที่เสริมขึ้นมา ใช้รดน้ำต้นไม้ สีระแนงปัจจุบันเปลี่ยนสีใหม่ จะแชร์ใหม่เมื่อถ่ายรูปใหม่ครับ
มีสปอต์ไลท์ (AR111 LED)ติดอยู่ที่เพดานเพื่อส่องให้เงาสะท้อนกับน้ำที่ตกจากน้ำตก ฉายไปที่ผนัง เป็นริ้วคลื่นครับ
มาถึงแนวต้นไม้ ซึ่งเดิมเป็นต้นไม้ใหญ่ ก็อยากเก็บเอาไว้แต่ จะเป็นปัญหาเรื่องดูแลรักษา และดูไม่เข้ากัน ในรูป ขุดตอต้นไม้ใหญ่ครั้งที่สอง ขุดออกทั้งต้นเลยครับ
จากนั้นก็ปลูกชาฮกเกี้ยนแทนที่ เพราะน่าจะไม่ต้องดูแลมาก ถูกเงิน และจะมีหลังคากึ่งโปร่งแสงคลุมอีกด้วย แสงรำไรนี้ ใบต้นชายังคงเขียวปี๋ แต่ใบจะใหญ่ขึ้นครับ คงต้องรอเป็นปีถึงจะสูงขึ้นพอปกปิดกำแพง
สภาพตอนทำพื้นระแนง ผมเลือกไฟเบอร์ซีเมนต์ แม้ราคาจะใกล้เคียงกับไม้จริง ผมเช็คราคาจากโรงงานแถวลำพูน แต่กลัวปลวกเลยจบที่ไฟเบอร์ซีเมนต์ ช่วงตัดฝุ่นเยอะหน่อย ผมต้องเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดเองตอนตัด บางทีฉีดน้ำแล้วดูด ฝุ่นแทบจะไม่เล็ดลอดออกมา ดูดแล้วต้องรีบล้างเครื่อง เพราะจะติดค้างแข็งในเครื่องเลยหละ ปัญหาฝุ่นเลยไม่ค่อยมี
ปูเสร็จก็รอทำสี แต่ติดตรงที่โป๊วหัวน๊อตให้ผมใช้สีขาว พอผมเห็นเลยรีบให้เปลี่ยนเป็นสีโอ๊คแทน ท่อน้ำทิ้งที่ผ่านใต้ระแนง นำน้ำจากซักล้างไปรดน้ำต้นไม้ด้วย
ทำสีเสร็จ ตรงนี้ทำสี ทาบางๆ 4 รอบ ไม่รวมรองพื้น ก็แก้ปัญหาเวลาฝนตก เฉอะแฉะ ฝุ่นและใบไม้ ไปได้เยอะ ใส่หลังคาคลุมตลอดแนวระแนง แต่เว้นเหนือศาลพระภูมิไว้ เพราะเคยได้ยินว่าไม่ควรมีอะไรคลุม แต่บางท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร
สภาพก่อนรีโนเวท เท่าที่หาภาพได้ ดูภาพนี้จะใกล้เคียงที่สุด ซึ่งตัดแต่งต้นไม้ ซึ่งเดิมสูงประมาณตึกสองชั้น และแผ่กิ่งก้านคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด พอได้เปรียบเทียบหลังการทำไม้ระแนง ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะทีเดียว
ซุ้มตรงประตูหน้าบ้าน ถักเหล็กเอาไว้ ปลูกไม้เลื้อยที่ให้ดอก ผมเลือกสร้อยอินทนิล กับพวงชมพู ในรูปใช้เวลา 3 เดือน โตไวประมาณนี้ ตรงประตูทางเข้า กระทู้ก่อนหน้านี้ติดใจใช้ระบบไฟฟ้า คราวนี้ลองทำแบบบานสวิงคู่ เวลาตอนกลางคืน ผมอยากได้อารมณ์รีสอร์ทเล็ก ต้องทำไฟส่องพื้น
เลยทำไฟสเตปไลท์ 6 ตัวมาติดตั้ง ใช้จุกยางสำหรับปิดขาโต๊ะ กลึงอลูมิเนียม ใส่แอลอีดีกับเลนส์ เข้าไป ยึดติดกับผนัง ใช้ไฟ AC12V
ผลออกมาก็ถูกใจครับ ดูคล้ายพื้นระแนงในสวนของบางโรงแรมอย่างที่อยากได้
ผนังด้านนอกหลังเล็กผมเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ให้ดูสดใสหน่อย เหลืองไปนิด แต่สักพักคงซีดลงกำลังดี กะว่าจะเพิ่ม texture ทองๆ ให้อีกโดยใช้สีที่คนขายเชียร์ ซึ่งงจะหาเวลามาลองทำแล้วแชร์ครับ ตรงนี้ติดดาวน์ไลท์เพิ่มอีก
รูปนี้เป็นประตูหน้าบ้าน ก็เป็นโครงประตูเหล็ก แปะด้วยไม้สนกระดาน ทำสีไม้ ผมใช้แดงประดู่ พ่นสลับกับทา ใช้ไม้เนื่องจากจะได้น้ำหนักเบา เพราะต้องเปิดปิดด้วยไฟฟ้า เคลือบแข็งกันขึ้นราช่วงหน้าฝน และนี่ก็คือส่วนสุดท้ายของบ้านหลังนี้ ที่ผมใช้เวลาช่วงหนึ่ง งบประมาณ กับความตั้งใจปรับปรุง ซึ่งอยากเล่าสู่กันฟัง และผมจะมาอัพเดทกระทู้ เมื่อผมได้กลับไปที่บ้านหลังนี้ เก็บรายละเอียด และจะถ่ายรูปมาฝากเพิ่มเติมครับ ผมขอส่งท่าน ณ ที่นี้ครับ
ท้ายนี้ มีประเด็นที่อยากจะขยายความเนื่องจากได้อ่านประเด็นที่มีการถกเถียงกันซึ่งก็คือ เรื่องเงิน เงินสำคัญครับ ไม่เถียงเลยว่าต้องใช้เงิน แต่ไม่อยากให้เถียงกันว่าต้องใช้เงินหรือไม่ต้อง เพราะผมก็ไม่ได้บอกเลยตั้งแต่ต้นว่าไม่ต้องใช้เงิน เราทำอะไรมันก็ต้องใช้เงิน ไม่มีเงินแม้กระทั่งหมาแมวยังเมินเลยครับ แต่ก็อยากให้คิดครับว่าจะต้องหามาอย่างไร ไม่อยากให้คิดว่ามีเพียงเงินแล้วจะทำได้ดั่งใจทุกอย่าง ถ้าคุณผมเป็นมหาเศรษฐี ก็เป็นข้อยกเว้น โอกาสดีๆมีแต่วิ่งเข้าหา แต่ผมคิดว่าแม้แต่มหาเศรษฐีเขาก็ไม่ได้ใช้เงินบันดาลทุกสิ่งหรอกครับ เขามีการจัดการทั้งความคิดและทรัพยากรของเขาให้ยิ่งๆเพิ่มขึ้นไป
หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์ และสร้างความบันเทิงให้แก่ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ในงานด้านอสังหาฯ ช่างและสถาปนิก ต้นไม้ ผู้ที่กำลังหาไอเดีย หรือผู้สนใจ แม้กระทั่งท่องเที่ยว ฯลฯ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีความพยายามและขอให้ประสบความสำเร็จครับ ขอบคุณครับ ถ้ามีอะไรจะสอบถามเช่นพวกอุปกรณ์ตัวไหนดี ก็ inbox ได้เลย ส่วนเรื่องงบประมาณขอพิจารณาก่อนว่าจะมีผลกระทบต่อผู้ที่ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แล้วพบกันใหม่ครับ
ที่มา : d3paul
Facebook : d3paul