บ้านไม้ทรงใต้ถุน นับว่าเป็นบ้านแบบดั้งเดิมที่นิยมสร้างกันในประเทศไทย ในคราวนี้เราจะมาดูไอเดียรีโนเวทบ้านเก่าๆ ให้กลายเป็นบ้านไทยดั้งเดิมกันครับ ไอเดียที่น่าสนใจจาก คุณใต้ร่ม สมากชิกเว็บไซต์ Pantip.com
Review : รื้อบ้านเก่า “สร้างบ้านใหม่” ในสไตล์บ้านๆ!!
ครับผม วันนี้จะมารีวิวบ้านให้ดูครับ ที่จริงสร้างเสร็จได้ปีกว่าแล้ว แต่เพิ่งจะเสร็จ100เปอร์เซนเองครับ จะว่าไปแล้วคำว่าบ้านนั้นไม่เคยหยุดนิ่งจริงๆครับ เดี๋ยวก็มีต่อโน้นเติมนี่ไปเรื่อย
ขอเข้าเรื่องแล้วกันครับ คือเหตุผลที่รื้อบ้านนั้นเพราะว่าสร้างมานานแล้วครับ โครงสร้างหลายส่วนก็ผุพังไปตามกาลเวลา ตามพื้นบ้านก็มีปวกด้วยครับ จนในที่สุดบางส่วนของบ้านก็เริ่มมีอาการเหมือนจะพังลงมา ซึ่งตอนนั้นทางครอบครัวก็ไม่มีโครงการว่าจะปลูกบ้านกันเลยครับ เพราะคิดว่าเรียนจบแล้วผมกับพี่สาว2พี่น้องค่อยเก็บเงินปลูกบ้านใหม่ละกัน แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อมันจะพังก็เลยจำเป็นต้องรื้อครับ โดยช่วยกันออกแบบกันเอง มีโจทย์สำคัญคือ เอาไม้เก่าจากการรื้อมาสร้างใหม่อีกครั้ง แล้วทำเป็นบ้านไม้ทรงไทยปั้นหยาครับ
**อันนี้คือบ้านหลังที่จะรื้อครับ เป็นบ้านที่สร้างมานานตั้งแต่รุ่นยายทวดยังสาวๆ ผ่านการต่อเติมออกมาด้านหน้าแล้วปรับปรุงอยู่เรื่อยๆครับ สภาพของบ้านด้านหน้าจึงดูดีอยู่ แต่ด้านหลังที่เป็นส่วนของหลังเก่านั้นเข้าขั้นอาการหนักสุดๆเลยครับ
**อันนี้หลังจากทำการรื้อแล้ว จะเห็นว่าด้านหลังของบ้านโครงสร้างจะเป็นไม้ ส่วนด้านหน้าที่สร้างใหม่ตอนผมเด็กๆจะเป็นเสาปูน ไม้ที่รื้อมาได้นั้นสามารถนำกลับมาใช้ได้กว่า80% ส่วนมากจะเป็นไม้ฝากับไม้พื้นและโครงหลังคาครับ
**ต่อไปก็เริ่มถมดินครับ บ้านหลังเก่าเจอปัญหาน้ำนองใต้ถุนบ้านช่วงหน้าฝนจนเป็นที่อยู่ของกบ ตอนผมเด็กๆนี่ยังได้นั่งดักปลาซิวกับปราช่อนป๊อกอยู่ใต้ถุนบ้านเลยครับ
**ขั้นตอนของการเตรียมไม้ครับ ในส่วนของเสาไม้นั้นไม่สามารถนำเสาไม้เก่ามาสร้างใหม่ได้ เพราะคนแก่ถือ แต่ในส่วนอื่นของบ้านเก่าสามารถเอากลับมาสร้างได้อีกครับ ดังนั้นจึงต้องหาเสาใหม่แต่แม่บอกว่าไม่อยากได้เสาปูน เพราะบ้านหลังเก่าเป็นเสาไม้ครับ แต่ไม้หายากมากๆครับ กว่าจะหามาได้ก็ใช้เวลาพอสมควร บุกป่าฝ่าดงอยู่หลายเดือนทีเดียว ช่างที่มาทำบ้านก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้นครับ ค่าแรงก็ไม่แพงเลยครับ
**หลังจากแปรรูปไม้ได้ตามที่เราต้องการทั้งจำนวนเสาและขนาด ก็เริ่มขุดหลุมเทปูนสำหรับลงเสาครับ เสาไม้จะมีทั้งเสาไม้เก่าที่เป็นไม้ตัดนอนทิ้งไว้หลายปีแล้วไปขอซื้อมา และเสาไม้ตัดใหม่ที่ไปหาซื้อตามนาตามสวนของคนในหมู่บ้าน จึงทำให้บ้านหลังนี้มีประเภทของไม้หลากหลายมากครับ มีทั้งไม้สัก ราชพฤกษ์ ตะเคียน มะหาด เกด แดง ประดู่ เป็นต้น
**อันนี้เป็นช่วงที่หนักสุดๆครับ คือแบกเสามาลงหลุมนี่แหละครับ กว่าจะครบเล่นเอาเหนื่อยกันไปหมดทั้งเจ้าบ้านและนายช่างเลยทีเดียว ผังของบ้านใหม่ที่วางไว้มีขนาดความยาวและความกว้างเท่ากับบ้านหลังเก่าพอดีครับ แต่จำนวนเสาน้อยกว่า บ้านหลังเก่ามีเสารวมแล้วเกือบ30เสา แต่บ้านหลังใหม่มีเพียง18เสาเองครับ เพราะบ้านหลังใหม่มีช่วงยาวxกว้างอยู่ที่7สอก แต่หลังเก่าอยู่ที่5สอกครับ และบ้านหลังนี้จะต่างจากหลังเก่าอยู่อีกอย่างคือ เสาไม้บ้านหลังใหม่นี้เป็นแบบเสาต่อ แต่บ้านหลังเก่าเป็นแบบเสาเดียว เสาเดียวหมายถึงไม้ท่อนเดียวยาวตั้งแต่ส่วนที่ฝังดินไปจนถึงโครงหลังคาเลยครับ แต่สมัยนี้หายากจริงๆ แล้วมีราคาแพงมากๆ สู้ราคาไม่ไหวเลยครับ
**เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานิดนึงแล้วครับ ค่อยหายเหนื่อยหน่อย 555+ ด้านขวาของบ้านก่อปูนสูง2ชั้นเพื่อด้านล่างทำเป็นห้องน้ำและในครัว ด้านบนทำเป็นห้องน้ำเล็กๆ พ่อบอกว่าจะทำเป็นไม้หลบปูน ผมก็งงว่าไม้หลบปูนยังไง พ่อบอกว่าบ้านไม้ที่ปิดบังส่วนที่เป็นปูนแบบเนียนๆครับ ถึงตอนนั้นผมก็รอดูนะว่าพ่อจะทำเนียนรึป่าว555+
**ต่อไปเริ่มโครงสร้างตรงกลางของตัวบ้าน ซึ่งช่วงนี้จะเป็นพิธียกเสาเอกพอดีครับ เลยเอาภาพสวยๆจากพิธีมาให้ดู อิอิ ด้านบนจะเป็นครื่องไม้เช่นกันส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดู่แล้วทำเป็นแปดเหลี่ยมครับ
**ตะละแร้นนน เห็นเป็นปั้นหยากันรึยังครับ ผมมองตอนแรกยังไงๆก็ไม่เหมือน พ่อบอกว่าอีกสักพักลูกมุงหลังคาก่อนเดี๋ยวก็เห็น ช่วงทำโครงหลังคานี่ทำนานมากๆครับหลายวันเลย จำได้ว่าขนไม้ขึ้นทั้งวันก็ไม่เสร็จเพราะทรงปั้นหยาใช้ไม้เปลืองมากๆครับ บางส่วนก็ต้องตัดต่อกันเลยทีเดียว ช่วงนี้พ่อบอกว่าเหนื่อยสุดๆ เพราะแก้แล้วแก้อีกบางวันเป็นงานแก้ทั้งวันครับ
**มาแล้วๆ หลังคามาส่งแล้วครับ ตรงนี้ตกลงเลือกสีกันอยู่นาน แม่บอกว่าเอาสีเขียวดีกว่า ส่วนพ่อตามใจแม่ ส่วนผมอยากได้สีแดงประกาย ส่วนแม่ตามใจลูก555+ หวยเลยออกที่สีแดงประกาย เห็นหลังคาแล้วก็ค่อยหายเหนื่อยหน่อย ตอนนี้ตื่นเต้นมากๆครับเพราะบ้านที่เราเห็นมาตั้งแต่ลงเสา ตอนนี้มีหลังคากับเค้าแล้วครับ จำได้ว่าวันนั้นยืนมองบ้านตัวเองนานมากๆ ในที่สุดก็เห็นภาพของหลังปั้นหยาบ้านตัวเองเสียทีครับ ปล.เห็นห้องสังกะสีไม่ต้องตกใจว่าบ้านใครนะครับ ห้องนอนผมเองตอนกลางวันเหมาะแก่การอบสมุนไพรหญ้าฮี๋ยุ่มมากๆครับ555+
**เริ่มทำโครงฝาบ้านและประกอบหน้าต่างครับ รวมไปถึงอัดพื้นบ้านด้วย โดยเป็นไม้เก่าทั้งหมด เห็นฝาบ้านผมเป็นรอยทางม้าลายแล้วอย่าตกใจนะครับ เอามาแปะๆ แปะไปด้วยเศร้าไปด้วย555+ แล้วอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าทาสีภายในเป็นสีเขียวนะครับ มันคือสีไม้เก่าครับ ช่วงนี้เห็นบ้านแล้วก็คิดหนักในใจว่าจะทำไงดีกับรอยพวกนี้ เห็นแล้วก็เหนื่อยเพราะมันเป็นทั้งบ้านเลยครับ แต่จะทำไงได้ในเมื่อไม้มันใช้ได้อยู่ ถ้าไปซื้อใหม่ก็คงหมดอีกหลายหมื่น
**ประตูมาแล้วครับ เครื่องไม้ตกแต่งต่างๆ พ่อบอกว่าฝั่งขวาของบ้านทำพนักพิงด้วย เช้าๆตื่นนอนก็ออกมานั่งพิงรับลมเย็นๆจากทุ่งนา นั่งเล่นชมนกชมไม้ไป ส่วนลายฉลุไม้สักก็สั่งจากญาติทางเหนือครับได้ในราคาถูกกว่าตลาดไม้แถวบ้านเกือบ50เปอร์เซนทีเดียวครับ ส่วนเสาลูกกลึงจะเป็นไม้ใหม่ครับเป็นไม้ประดู่ทั้งหมด ไปตัดจากสวนเป็นท่อนๆแล้วไปจ้างร้านไม้ทำครับ จะเสียแค่ค่าแรงครับ ในส่วนของบานประตู-วงกบก็เช่นกัน ทุกอย่างใช้ไม้ที่เหลือจากการหั่นเสาแล้วเอาไปให้ร้านเฟอนิเจอทำประตูให้ จึงเสียแค่ค่าแรงอย่างเดียว ประหยัดเงินไปได้เยอะเลยครับ
**ต่อไปเป็นส่วนของบันไดบ้านครับ โดยจะต่างจากบ้านหลังเก่าคือ บ้านหลังเก่าเป็นแบบบันไดทางเดี่ยว แต่หลังหลังใหม่เป็นแบบหักสอกลงสองทาง คือ ทางนึงลงใต้ถุนบ้าน อีกทางนึงลงหน้าบ้านตรงทิศเหนือตามความเชื่อ (แต่พอสร้างเสร็จทุกคนขึ้นลงจากใต้ถุนกันหมด555+) ไม้ส่วนนี้จะเป็นไม้มะหาดแก่ครับ เพราะช่างบอกว่าเป็นส่วนที่ต้องแข็งแรงมากพอสมควร จึงต้องใช้ไม้ใหญ่ แล้วพอตกเย็นก็จะมีการผูกข้อมือช่างทำบันไดบ้านด้วยครับ โดยให้เจ้าบ้านเป็นคนผูก ตามความเชื่อของคนในหมู่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคลครับ ช่างคนที่ค้ำๆหน่อยเป็นน้าของแม่ผมเอง ก็คือเป็นน้องชายของยายผม ส่วนอีกคนเป็นลูกชายของพี่สาวยายผม สรุปก็คือมีแต่ญาติๆกันครับ
** เริ่มแล้วๆ บ้านเค้ามีสีแล้วนะ ไม่เป็นทางม้าลายแล้ว555+ ตอนแรกจะเอาสีเขียวเหมือนบ้านหลังเก่า แต่ใครมาเห็นก็บอกว่าเอาสีย้อมไม้ดีกว่าเป็นธรรมชาติ เรื่องสีบ้านนี่เป็นเรื่องใหญ่เชียวครับ ตกลงกันไปมาอยู่หลายรอบที่ร้านสี สุดท้ายได้สีย้อมไม้แบบธรรมชาติมาครับ ดังที่เห็นครับ ส่วนใต้หลังคาใช้สีฟ้าแม่บอกว่าเป็นสีของคนเป็นแม่ เป็นสีของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ครับ
**ต่อไปก็เริ่มประกอบส่วนต่างๆ เช่นประตูหน้าต่างบานเฟี้ยม บานประตูใหญ่ทำแบบเลื่อนซ้ายขวาเพื่อประหยัดเนื้อที่และไม่เกะกะครับ แล้วช่วงนี้เป็นช่วงเดียวกันกับพิธีขึ้นบ้านใหม่ด้วยครับเลยเก็บภาพมาฝาก บานประตูทั้งสองมีที่มาคือ บานเลื่อนใหญ่ติดกระจกสีหมายถึงความมีพลังปกป้องสิ่งชั่วร้าย บานเฟี้ยมหมายถึงบ้านที่พร้อมเปิดรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยไมตรีจิต
**มาถึงตอนนี้ชั้นบนปีกขวาของบ้านได้ปิดบังส่วนที่เป็นปูนเรียบร้อยแล้วครับ คือมองจากด้านนอกจะไม่รู้เลยว่าชั้นบนปีกขวาของบ้านทำเป็นปูน และพอสร้างเสร็จก็เจอปัญหาว่าบันไดบ้านตากแดดตากลมแล้วก็ร้อนมากๆ ก็เลยต่อเติมกันสาดบันไดครับ เอาเสาไม้เก่าที่เป็นเสายาวจากดินถึงหลังคามาทำแปดเหลี่ยม แม่บอกว่าจะได้คิดถึงยายทวด แล้วก็ตีฝ่าหลังคารอบนอกด้วยไม้ละแนง ส่วนข้างในเป็นฝ่าแผ่นยิบซั่มเซาะร่องครับ
**เนื่องจากเป็นบ้าน7สอก ดังนั้นจึงต้องวางไม้ ค.2 คู่ ไม่อย่างนั้นมีหวังบ้านแอ่นเป็นท้องเรือแน่ๆครับ ส่วนนี้เป็นไม้ตะเคียนครับ
***สุดท้ายแล้วนะครับ**** ช่วงนี้หาของเข้าบ้านครับ บ้านยังโล่งอยู่เลย ไม่มีข้าวของอะไรเลย555+ มีแต่ของเก่าของยายทวดที่ยายผมได้มาบ้างจนมาถึงแม่ คงต้องทยอยตกแต่งต่อไปครับ สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมมากๆครับ
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยครับ และที่สำคัญคือขอบคุณพ่อแม่พี่สาวที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และที่ขาดไม่ได้คือขอบคุณยายทวดที่สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา(บ้านหลังเก่า) ไม้ฝาบ้าน พื้นบ้าน เสาบ้าน พวกเราจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดนะครับแล้วมันก็จะตกทอดไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป และผมก็เชื่อว่ายายทวดคงมองลงมาจากสวรรค์คอยอวยพรอำนวยสุขให้ลูกหลานทุกคนอยู่เย็นเป็นสุขครับ
ที่มา : คุณ ใต้ร่ม, (Facebook)