บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับ พื้นที่รอบตัวบ้าน ซึ่งบางคนก็เลือกที่จะจัดสวน ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ส่วนบางคนก็เลือกต่อเติมเป็นห้องเก็บของ เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น
แต่สำหรับคุณ heysudloor กลับเลือกที่จะเปลี่ยนพื้นที่ว่างบริเวณหลังบ้าน ให้กลายเป็นระเบียงโล่งกว้างสำหรับพักผ่อนหลังบ้าน และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ “ระเบียงไม้จริง” ที่สุดแสนจะน่าพักผ่อน พร้อมความร่มรื่นจากไม้ประดับต้นเล็ก เรียกว่าเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์และน่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เราลองไปชมกันเลยดีกว่า
กว่าจะได้มาเป็นระเบียงไม้จริง ลานกินส้มตำหลังบ้าน ขอบคุณ Pantip ครัชช!
(โดย heysudloor)
เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา ผมพยายามจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำระเบียงไม้จริงเพื่อทำการนั่งเล่นนอกบ้าน ทั้งราคาไม้ ราคาผู้รับเหมา และวิธีการทำ นับว่าจะต้องใช้เวลาและความพยายามในการนั่งอ่านอยู่พอสมควรและมีเยอะแยะมากมายเลยครับ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมทำระเบียงไม้ของผมสำเร็จแล้วจาก idea ต่างๆที่อยู่บน internet และ pantip แห่งนี้ผมจึงอยากที่จะทดแทนสิ่งที่เป็นข้อมูลกลับไปสู่เพื่อนๆเพื่อที่จะนำไปเป็นแนวทางสำหรับใครที่กำลังอยากจะทำอยู่ด้วยนะครับ
ผมอยู่ TownHome และบ้านหลังมุมสุดในโครงการพอดี จึงมีพื้นที่ส่วนตัวเหลืออยู่ข้างบ้านเพื่อที่จะทำเป็นมุมพักผ่อน ผมเปรียบเทียบอยู่หลายอย่างว่าจะเอาไม้จริง หรือไม้เทียมดี เพราะราคาก็ต่างกันมากอยู่แต่ว่าที่พยายามกัดฟันที่จะเลือกเอาไม้จริงเลยคือเหตุผลเดียวก็คือความสวยงามของลวดลายไม้ที่ดูแล้วสบายตา และเวลาสัมผัสจริงๆแล้วรู้สึกดีกว่ามากเลยครับ แต่ข้อเสียก็คือมีอายุการใช้งาน ต้องทาสีย้อมไม้ทุกๆ 2-3ปี และเป็นรอยง่ายกว่า conwood มากๆเพราะฉะนั้นผมทำใจทุกสิ่งที่เป็นข้อเสียได้หมดแล้ว และตัดสินใจที่จะใช้ไม้เต็ง+ไม้แดง จากโรงเลื่อยที่ผมรู้จักนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำครับ
พื้นที่ด้านหน้าของหลังบ้านของผม ลงเสา เทคาน ฉาบปูนปรับระดับเอาไว้รอไม้
ไปเลือกไม้ที่โรงเลื่อยครับ ต้องมีใบขนไม้ถูกต้องด้วย (แถมต้องจ้าง 6 ล้อไปคนอีก T_T)
.
*UPDATE* 10/6/2014 ครับ ผมเพื่มรูปไม้ที่ไปเอามาจากโรงเลื่อยครับ เป็นไม้เต็งและไม้แดงผสมๆกัน อายุที่อาบน้ำยาและเก็บเอาไว้น่าจะประมาณ 13 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นไม้อันนี้จะไม่หดตัวแล้ว และปลวกก็ไม่ชอบเพราะมันแข็ง (อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะครับ โรงเลื่อยบอกผม ไม่รู้จริงเปล่า เค้าล้อเล่น แต่ไม้เก่าจริงสวยงามมาก)
พื้นที่ผมของใช้ประมาณ 2.3เมตร ยาว 7 เมตรกว่าๆ เพื่อไม่ใช้ลงรายละเอียดเยอะจนเกินไป ผมใช้ค่าไม้หมดไปประมาณมูลค่า 9 หมื่นบาท รวมถึงคานไม้เต็ง และไม้กระดานยาว 6 เมตร หน้ากว้าง 6” และไม้ระแนงจุกๆจิ๊กๆที่ผมจะนำมาตกแต่งรอบๆ ถังปั้มน้ำด้วยครับ
การเตรียมพื้นที่ให้ช่างกดเข็มหลุมล่ะต้น ห่างกัน 1 เมตรรอบๆบริเวณเพื่อผูกเหล็กวางคาน และทำการปรับระดับด้วยการฉาบปูนให้น้ำเวลาตกลงมาจากล่องไม้ไหลลงไปออกข้างหน้าระเบียง อีกทั้งเป็นการลดความชื้นและเพื่มอายุของคานไม้ให้คงทนด้วยครับ โดยปูนที่ฉาบเรียบนั้นทาน้ำยาเพื่อให้น้ำไม่เกาะและไหลลงไปและขัดมันด้วย ช่างแนะนำให้ทำอย่างนี้ครับ ส่วนคานที่เป็นไม้ก่อนวางก็ปรับระดับให้ดี และทาน้ำยาก่อนวางด้วยครับ ในการวางคานทั้งหมดนั้นค่าเสียหายประมาณ2 หมื่นกลางๆครับ รวมเสา เหล็ก ปูน การฉาบ ฯลฯ
หลังจากได้คานแล้วก็ถึงขั้นตอนที่ถือว่ายุ่งยากเลยทีเดียวคือการใช้กบใสไม้ปรับระดับไม้กระดานให้เท่ากันทั้งหมด และใช้น้ำยารองพื้นลง และขัดด้วยกบกระดาษทราบอีก กว่าจะทาสีได้ขั้นตอนนี้กินเวลาเกือบๆ 5 วันได้ครับ (ช่างทำคนเดียว) จริงๆหากจะประหยัดเวลาเขาแนะนำให้เข้าโรงรีดไม้เลยครับ ใส่เข้าไปเอาออกมาได้ตาม spec ที่เราต้องการเลย แต่ผมไม่รีบขนาดนั้นและเครื่องมือพร้อมอยู่แล้ว ก็เลยค่อยๆทำกันเองครับ
ผมนำไม้หน้า3 และไม้ระแนงมาทำเป็นระแนงไม้บังสายตาบริเวณด้านบนของหลังคาครัวด้วยครับ ไม้ที่ซื้อๆมาทั้งหมดพยายามจะใช้ให้หมด (เสียดาย)
.
.
.
ก่อนจะวางไม้ได้ก็ต้องอาบน้ำยารักษาเนื้อไม้ก่อน กันปลวก กันชื้น พอวางเสร็จแล้วเราก็จะต้องทำการขัดๆๆๆหน้าไม้ด้วยรถถังอีกทีครับ อันนี้ต้องจ้างเขาครับเพราะเป็นเครื่องมือเฉพาะ ค่าจ้างปั่นๆเหมาะๆก็อยู่ที่ 4000 บาทสำหรับพื้นที่ของผม หลังจากปรับหน้าไม้แล้ว โหหหหหห ทุกแผ่นเนียนเท่ากันหมดเลยครับ ความแตกต่างระหว่างแผ่นไม่รู้สึกเลยทำให้เดินไม่สะดุดเท้า
ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการลงสีย้อมไม้แท้ก่อน อันนี้เลือกสีที่ชอบเลย ผมเลือกสีไม้โอ๊ก (ออกน้ำตาลดำๆ) เพราะว่าดูอบอุ่นดี ทาไปก่อน 1 รอบ หลังจากนั้นช่างก็นำกระดาษทรายมาขัดๆๆ (มือ) ก่นอที่จะทาอีก 2 รอบ และเอากระดาษทรายมาขัดๆและทำอีกทีรอบที่ 3 จนกว่ารอยโป๊วหัวตะปูจะเนียนสนิท และความแตกต่างของสีไม้น้อยที่สุดครับ สีผมใช้ของ RTB ครับ โดน Sale HomePro เชียรมา ดีไม่ดีก็ไม่รู้ครับ แต่ราคาใกล้ๆกันอีกหลายๆยี่ห้อไม่ห่างกันมาก แต่เห็นมี Logo ธงเยรมันอยู่คงจะมีมาตราฐานอยู่บ้าง แต่ผมอาจจะตกเป็นเหยื่อ marketing ของเขาก็ได้ 555 อีก 3 ปีเราค่อยมา update ความคงทนของสีกัน
มีช่วงหนึ่งที่ผมเอาต้นไทรใบแก้วมาลงเอาไว้เพื่อให้ร่มเงา ผมก็เลยให้ช่างนำไม้มาร้อมรอบบบบบ ต้นไม้เลยครับ ทำให้ระเบียงดูกว้างขึ้นและมีลูกเล่นดี และเดินระบบไฟเอาไว้ตามจุดโดยการร้อยท่อให้เรียบร้อยใต้คานไม้
.
.
หากลำดับรูปงงๆ อย่างไรก็ขออภัยด้วยนะครับ ตัวผมเองบางทียังสับสนกับรูปที่ตัวเองถ่ายว่าอันนั้นก่อนอันไหนหลัง (คนละกล้องกันครับ)
รูปนี้ระแนงไม้ด้านบนเสร็จแล้ววว
รูปนี้คือก่อนทำการขัดด้วยเครื่องขัดหน้าไม้และทาสีครับ
รูปนี้คือผมได้ใช้รถถังขนาดใหญ่ขัดไม้เรียบร้อยและทาสี 1 รอบครับ (ยังจืดๆอยู่เลย) เทียบกับรูปที่ยังไม่ได้ขัดจะเห็นชัดเจนเลยครับถึงความแตกต่าง
หัวตะปูพยายามที่จะเก็บให้เนียนที่สุด หวังว่าทาสีไปแล้วจะมองไม่เห็นรอยโป๊วเลย
ช่างผมก็ถูกๆขัดๆเพื่อลงสีบนระเบียงหลายวันอยู่ ค่อยๆไป พอช่างเหนื่อยก็ซื้อส้มตำกับข้าวบาร์เลย์แบบน้ำมาเติมกำลังหน่อย
.
.
.
.
.
พื้นที่ส่วนที่เป็นแทงค์น้ำหลังบ้านผม ผมก็ขึ้นโครงเหล็กและเอาระแรงไม้ 3” มาปะๆๆซ่อนแทงค์น้ำเอาไว้ไม่ให้ดูเลอะเทอะครับ หลังจากเสร็จแล้ว ผมก็ทำการนำไฟ และต้นไม้มาประดับเอาไว้ตามทำเลที่ตัวเองชอบและผลลัพทย์ออกมาเป็นประมาณนี้นั้นเองง
เมื่อเสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
.
ไม้เวลาทาสีย้อมแล้ว เวลาโดนน้ำ น้ำจะไม่เกาะแบบนี้ครับ มันจะขึ้นเม็ดๆ
ด้านข้างๆขอบๆก็โค้งๆเว้าๆตามต้นไม้ และอารมณ์ของช่างผม
ผมกำชับช่างอย่างสุดยอดว่าจะต้องทำให้พื้นไม้ผมเสมอกับกระเบื้องปูพื้นที่อยู่ในบ้าน เพราะเวลาเดินจะได้ไม่สะดุดครับ (สรุปจริงๆแล้วช่างแนะนำว่ากระเบื้องในบ้านต้องสูงกว่าระเบียงไม้สัก 0.5cm-1cm เพราะว่ากันน้ำสาดเข้ามาจากระเบียงและการเก็บกวาดในบ้านจะง่ายกว่าครับ) พื้นไม้กับประตูบานเปิดออกเลยเนียนเป็นผืนเดียวกัน
เพื่มความคิกขุ และความแข็งๆของสวน style โมเดินที่ผมตั้งใจจะจัดต่อครับ
ทีนี้เอาวิวตอนกลางคืนมาให้ชมกันนะครับ
.
.
.
หวังว่าเพื่อนๆจะได้แนวทางในการทำระเบียงไม้เอาไว้ ไม่มากก็น้อยนะครับ หากใครมีข้อเสนอแนะอย่างไรยินดีมากเลยครับ เพียงเท่านี้ระเบียงกินส้มตำของผมก็เสร็จปิดโปรเจคแล้ววว ขอบคุณที่ติดตามครับ!
ที่มา : heysudloor .