บ้านหลังเก่าที่มีอายุมานานหลายสิบปีและรกร้างไม่มีคนอยู่ หากนำมาแปลงโฉมปรับปรุงใหม่ดีๆ อาจจะได้บ้านหลังใหม่ที่น่าอยู่กว่าที่คิดก็เป็นได้นะ
เช่นเดียวกับคุณ watermelonJP ที่ได้ทำการปรับปรุงบ้านหลังเก่าในญี่ปุ่นที่ร้างมาถึง 10 ปี เป็นบ้านญี่ปุ่นสมัยเก่าที่เต็มไปด้วยข้าวของรกรุงรังและส่วนที่ต้องปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนเข้าทำการอยู่อาศัย จนในที่สุดก็กลายมาเป็นบ้านหลังใหม่ที่น่าอยู่สุดๆ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ได้เปิดให้เป็นบ้านพักให้คนได้เช่าอีกด้วย จะมีรายละเอียดและเรื่องราวยังไงบ้างนั้น ตามมาชมกันเลยครับ
แปลงโฉม “บ้านเก่าในญี่ปุ่น” จากบ้านร้าง 10 ปี กลายมาเป็นบ้านใหม่ที่น่าอยู่ยิ่งกว่าเดิม
(รีวิวโดยคุณ watermelonJP)
เพื่อนๆ เป็นยังไงกันบ้างกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งปล้นทอง ทั้งเหตุการณ์ที่โคราช และล่าสุด โควิด-19 กับวิกฤตเศรฐกิจที่เกิดขึ้น พวกเราทุกคนต้องผ่านมันไปให้ได้นะคะ
เคยเขียนรีฟอร์มบ้านหลังแรกไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2014 หลังจากทำบ้านหลังแรกเป็นบ้านพักได้ 1 ปี เห็นว่าบ้านพักไปได้ดี พอมีเวลาเลยลองเซิสหาบ้านที่ประกาศขาย หาไปเรื่อยๆ จนเจอบ้านหลังหนึ่ง จริงๆ เป็นบ้านที่เดินผ่านทุกวันตอนส่งลูกไปโรงเรียน เป็นบ้านที่เงียบสงบ เคยแอบสงสัยว่ามีคนอยู่หรือเปล่า จนมารู้ทีหลังว่าไม่มีใครอยู่มา 10 ปีแล้ว
การรีฟอร์มบ้านอีกหลังในญี่ปุ่น ก่อนจะมาเป็นหลังนี้
บ้านหลังนี้มีอายุ 60 ปี ซึ่งถือว่าเก่ามาก
ตัวบ้านไม่มีราคาแล้ว ราคาที่ขายคือราคาที่ดิน ประกาศขายอยู่ที่ 4.5 ล้านเยน แต่เราขอซื้อที่ 3 ล้านเยน ตอนนั้นเงินไม่มี เลยไปชวนเพื่อนที่ไทยมาซื้อด้วยกัน เค้าเป็นคนซื้อส่วนเราเป็นคนออกค่าทำ
ไปดูบ้านมาตอนเดือน 6 ปี 2017 เดือน 10 ปี 2017 ทำสัญญาซื้อบ้าน
ตอนบ้านประกาศขาย ที่ดินมีขนาด 180 ตรม. พอซื้อจริงคนที่เป็นนายหน้า เห็นเราเป็นต่างชาติไม่อยากให้มีปัญหา เลยให้ทนายวัดที่ดินให้ใหม่ ถ่ายรูปและมีการเซ็นต์ยอมรับพื้นทีกับทุกคนรอบบ้านหลังนั้น สุดท้ายวัดพื้นที่ได้จริง 250 ตร.ม.
บ้านหลังนี้หลังใหญ่ เทียบกับหลังเก่าที่ทำมา ชั้น 2 มี 2 ห้องนอน ชั้น 1 มี 2 ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำและห้องเก็บของ
สภาพภายในบ้านตอนซื้อ
ห้องนั่งเล่น เป็นบ้านที่มีข้าวของเยอะมาก เพราะเจ้าของทิ้งไว้ทุกอย่างเลย เสื้อผ้า หนังสือ แม้แต่แหวน อัลบัมรูปภาพ และของที่ยังไม่ได้ใช้ ไม่มีใีครขนอะไรออกไปเลย
ตอนเริ่มต้นยากมาก เพราะข้าวของเยอะมาก หลายครั้งที่เราเดินไปด้วยความมุ่งมั่น วันนี้ฉันจะไปเก็บบ้าน พอเดินไปถึง ยืนงงไม่รู้จะเริ่มตรงไหน และเดินกลับมา … แต่พวกเราก็ช่วยกันเริ่มต้นด้วยการเก็บขยะทิ้ง เก็บของมีค่ากลับบ้าน
คนเล็กช่วยเก็บ
คนโตขนของมีค่ากลับบ้าน
เก็บไว้ที่บ้านตัวเองก่อนเพื่อเอากลับไปใช้ใหม่หลังจากบ้านเสร็จ
บางอย่างเป็นของมีค่า เป็นพวกเครื่องปั้นดินเผาที่ศิลปินมีชื่อเสียงปั้น ของพวกนั้นก็เอาไปขายบ้าง ได้เงินมา 1 แสนเยน
พอบ้านโล่ง ทุกอย่างก็เริ่มชัดขึ้น
สภาพห้องนั่งเล่น หลังเก็บของออกหมด
ช่วงนี้ต้องคิดว่า จะเอาหรือไม่เอาอะไรในบ้านบ้าง
ซึ่งสามีไม่อยากเอาอะไรเลย แล้วนางก็เริ่มทุบหมดเลย พวกเราก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้
บ้านถูกรื้อ เพดานก็เอาออกทุกห้อง
ข้อดีของการรื้อออกทุกอย่างคือ ทั้งฝุ่นและกลิ่นต่างๆ ใต้เพดาน ถูกเอาออกไป ข้อเสียคือ ทำกันอยู่นานมาก ภาพนี้คือห้องนอนชั้น 2
ส่วนนี่คือสภาพห้องนอนชั้น 1 ตอนรื้อทุกอย่างออก
ฝาบ้านก็พังไป 1 ข้างต้องทำใหม่
สิ่งที่ไม่ต้องทำอะไรเลยคือ บันได เพราะเป็นสิ่งที่ใหม่ที่สุดในบ้าน
สามีใช้เวลาเฉพาะวันหยุด และวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นในการรีฟอร์มบ้าน
ทุกอย่างจึงเร็วในบางช่วงและช้าในบางช่วง กว่าพวกเราจะหาคนมาช่วยได้ ต้องทำห้องนอนและห้องน้ำให้เสร็จ หาที่พักให้คนที่มาช่วยงานจาก workaway ห้องนอนและห้องน้ำเริ่มเสร็จประมาณเดือน 2 ในปี 2018
ห้องนอนชั้นบน บุด้วย insolation เป็นที่กันร้อนกันหนาวออกจากบ้าน
พอเข้าเดือน 3 พวกเราก็ทำ Spring Camp ด้วย
เพราะตั้งแต่เดือน 10 มีแต่เงินออก ไม่มีเงินเข้า (นอกจากงานที่โรงเรียน และบ้านพักหลังแรก) ปีนี้จัด spring camp ที่บ้านเป็นปีแรก (ปีนี้โชคดีมากๆฝนไม่ตก และซากุระกำลังบาน)
ห้องน้ำ ก็ทุบออกหมด และทำใหม่
สภาพนอกบ้าน
พอห้องน้ำ และห้องนอนชั้นบนเสร็จ พวกเราก็เริ่มมี volunteer มาพัก และมาอยู่ช่วยทำบ้าน ทุกห้องก็ค่อยๆ เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ช่วงเดือน 4 อากาศดี ดอกไม้ป่าบาน
พาลูกชายไปเดินเล่นบนเขา ช่วงนี้อากาศกำลังดี เริ่มปลูกผักด้วย หลังเดือน 4 ก็ทำมาเรื่อยๆ แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก
สภาพหน้าบ้าน ดินถล่มมาจากบนเขา
ปี 2018 เดือน 7 ในจังหวัดโอกายาม่า เกิดฝนตกหนัก ดินถล่ม น้ำท่วม ถือเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดที่เมืองนี้เคยมีมา
สภาพหน้าบ้านหลังเล็ก (หลังที่ทำเป็นบ้านพัก)
น้ำไหลและพาทรายลงมาจากบนเขา
ช่วงนั้นหดหู่กับข่าวร้าย ใช้เงินเกินงบ (อะไรที่ทำเราไม่ตาย จะทำให้เราแข็งแรงขึ้น)
หาเงินเข้าต่อ ทีม Summer Camp ปี 2018
แค้มป์ 3 สัปดาห์ ผ่านไปด้วยดี ด้วยทีมนี้ ที่อดทนอยู่บ้านหลังเก่า ๆ
ห้องครัวเป็นห้องที่มีปัญหากับสามีมากที่สุด
เพราะเราอยากให้เค้าซื้อเคาเตอร์แล้วมาติดตั้งเลย มันจะเร็วขึ้น ประหยัดเวลาไปเยอะ นางไม่ยอม นางไปซื้อไม้เนื้อแข็ง แล้วไปหาซื้อ sink ใน amazon แล้วขัดไม้ แล็กเกอร์ไม้ เจาะไม้ ราคาไม่ได้ต่างเลยกับไปซื้อแบบเป็นเซ็ตมา แม่ก็งอนอยู่หลายเดือนจนหายเอง
ให้สามีถ่ายรูปให้ก่อนออกไปเดทกับเพื่อนๆ
กับเพื่อนๆคนไทยในเมือง โอกายาม่า (และอีกหลายคน)
ห้องนอนชั้นล่าง
ช่วงเวลาที่น่าสนุกที่สุดคือช่วง Finishing คือช่วงที่เริ่ม ปิดฝาผนังใหม่ ทาสี ปูพื้น
ห้องนั่งเล่น กับห้องครัวเชื่อมติดกัน
เคาน์เตอร์ไม้ชุดครัวที่เค้าทำเอง
ฝา Hallway ทำง่ายสุดแต่แพงหน่อยคือใช้ไม้ใหม่ติดบนของเก่าไปเลย
พอข้างในบ้านเริ่มเสร็จ นางก็ออกมานอกบ้าน มาทาสีใหม่ด้วย
ทำสลับกันไป นอกบ้านในบ้าน ตอนนั้นคือ เหนื่อยมาก กับการทำบ้านมา 1 ปีครึ่ง และสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
ประมาณเดือน 4 ปี 2019 แขกคนแรกที่เคยมาพักบ้านหลังแรก ทักมาในข้อความ ตอนนี้เค้าเรียนจบ Ph.D. พ่อแม่มาแสดงความยินดีและกำลังหาที่พัก 14 วัน จริงๆ บ้านยังไม่เสร็จ แต่รู้เลยว่าต้องทำให้เสร็จทันเค้ามาอยู่
วันที่เเค้ามาดู เราบอกเค้าว่า เธอรู้ใหมว่าฉันเป็นคริสเตียนนะ ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ฉันจะอธิฐานกับพระเจ้า แต่ทุกครั้งที่ไม่มีปัญหาฉันจะลืมพระเจ้า และสงสัยด้วยว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า ฉันไม่ได้เป็นคริสเตียนที่ดีเลย แต่ก่อนที่เธอจะติดต่อมาฉันอธิฐานกับพระเจ้านะ บอกให้พระเจ้าช่วยนำฉันด้วย ช่วยให้ฉันผ่านวันแย่ๆไปให้ได้ แล้วพระเจ้าก็ส่งเธอมาช่วยฉัน ..
ธอน่ารักมาก เธอจับมือเรา แล้วบอกเราว่า It`s not you its me. พระเจ้าไม่ได้ช่วยเธอหรอก พระเจ้าช่วยฉันต่างหากหละ ฉันหาบ้านพักที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถูกใจ ไม่ได้คิดหรอกว่าเธอจะมีที่พักอีกหลัง ที่ติดต่อมาเผื่อว่าเธอจะแนะนำอะไรได้ แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรหรอก
เธอไม่ต่อราคาเลย แถมถามว่า มีค่าอะไรเพิ่มเติมอีกไหม
มาถึงตอนนี้ มาดูบ้านหลังเสร็จแล้วกันบ้างนะคะ
ห้องนั่งเล่น เชื่อมกับห้องครัว
ห้องครัว Sink wood counter ที่สามีทำ
ห้องครัวแบบง่ายๆ
ห้องนอนชั้น 1
ห้องนอน ชั้น 2
สามารถดูภาพบ้านฉบับเต็มได้ในเว็ป Booking.com นะคะ (booking.com/hotel/jp/harold-s-house-house-for-family-in-okayama.th.html)
ปีนี้ วิกฤกต โควิด-19 ธุรกิจแรกที่กระทบมากที่สุดคือ การท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหาร .. วิกฤตนี้ไม่มีใครรู้ว่ายาวนานแค่ไหน อย่างบ้านพักที่ทำอยู่ ทุกอย่างลดลง 100 เปอร์เซ็น คือ เป็นศูนย์
แต่เราจะไม่ทำให้วิกฤตเป็นปัญหา อะไรที่เป็นปัญหา เราต้องตัดออกไปบ้าง เหมือนเก็บขยะทิ้ง แล้วเลือกสิ่งดีๆ เอาไว้ แล้วทุกอย่างจะชัดขึ้นเอง
เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
Orasa Chuaiwang
ที่มา : watermelonJP