พีดี เฮ้าส์ฯ เผยครึ่งปีหลังต้นทุนบ้านสร้างใหม่พุ่งไม่น้อยกว่า 5% เหตุวัสดุ-ค่าแรงปรับขึ้นต่อเนื่อง
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า จากแนวโน้มด้านราคาวัสดุที่มีการปรับขึ้นต่อเนื่องและปัจจัยเรื่องของแรงงาน ได้ส่งผลให้บ้านสร้างใหม่มีต้นทุนใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% ของราคาบ้าน
ทั้งนี้ ราคาวัสดุปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้เรื่อยมาถึงปัจจุบัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ วัสดุหลัก เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ปรับขึ้นมา 5% อีกกลุ่มคือวัสดุตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ไฟเบอร์ ปรับขึ้น 10-20% ทำให้ผู้ประกอบการมีการปรับขึ้นราคาบ้านเฉลี่ยราว 2-3% ของราคาบ้าน ซึ่งบริษัท พีดี เฮ้าส์ ก็เช่นกัน
อย่างไรก็ดี ขณะนี้วัสดุที่จ่อขึ้นราคา คือ วัสดุผนังอิฐมวลเบา ซึ่งมีการปรับราคาขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาราว 8% และกำลังจะขอปรับขึ้นอีก 5% เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่มีการปรับราคา แต่เมื่อราคาน้ำมันผันผวนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้
ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสินค้าตาม แม้ที่ผ่านมาจะมีการร่วมกับซัพพลายเออร์ ช่วยแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแทน ผู้บริโภคเพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลทำให้ตลาดหดตัวก็ตาม
ด้านการแข่งขันในตลาดครึ่งปีหลัง มองว่ายังมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะรายใหม่ในต่างจังหวัดที่เล่นเรื่องของราคาเพื่อแข่งขันกับผู้ประกอบการรายเดิม ดังนั้นรายเดิมต้องสู้ในเรื่องของแบรนด์และคุณภาพสินค้า นอกจากนี้การเกิดขึ้นของโครงการภาครัฐและภาคเอกชนที่จะทำให้เกิดการแย่งแรงงาน อีกทั้งวัสดุที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจะผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาใช้เทคโนโลยีสำเร็จเร็จรูปมากขึ้นเพื่อคุมต้นทุนให้สมดุล
นายสิทธิพร กล่าวว่า จากการเข้าร่วมงานบ้าน ธอส.เอ็กซ์โป @ กรุงเทพฯ 2018 เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นเทรนด์ของกลุ่มลูกค้ารายย่อยซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สนใจกับอัตราดอกเบี้ยของ ธอส. กลุ่มนี้กำลังซื้อไม่สูง อายุราว 30 ปีต้นๆ ซึ่งมี 80-90% สร้างบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มสนใจแพ็กเกจของบริษัท รวมทั้งได้สิทธิพิเศษจาก ธอส. กลุ่มนี้ 80% มีความต้องการสร้างบ้านราคา 3-4 ล้านบาท ส่วน 20% ต้องการสร้างบ้าน 5 ล้านบาทขึ้นไป ภายในงานมีผู้สนใจลงทะเบียนกับบริษัทมูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะติดตามและปิดการขายที่ราว 80-100 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมงานมหกรรมสินค้า Mid Year Sale 2018 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้าปิดการขายราว 20-30 ล้านบาท รวมทั้งการทำตลาดเชิงรุกเร่งขายผ่านออนไลน์ คาดว่าจะผลักดันรายได้ปีนี้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้ 400 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์, reic .