สำหรับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 การออกนอกบ้านเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยซื้อหาอาหารก็ดูจะสร้างความกังวลได้ไม่น้อย ทำให้การมีอาหารอย่างพวกผักสวนครัวต่าง ๆ ไว้ทานที่บ้านเองก็ดูจะปลอดภัย แถมยังเป็นการฆ่าเวลาและความเบื่อหน่ายในการอยู่บ้านนาน ๆ อีกด้วย
วันนี้ ในบ้าน จะพาไปชมเรื่องราวของคุณ Jeep Patchamon ที่ได้ทำการสร้างสวนผักเอาไว้เองภายในพื้นที่บ้าน ซึ่งผ่านการลองผิดลองถูกมาสักระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งตอนนี้ก็มีผักสด ๆ สะอาดและปลอดภัยไว้ให้รับประทานได้ตลอดทั้งปี ไปเก็บไอเดียนี้กันเลยค่ะ
เนื้อหาอาจจะเยอะหน่อย แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะไปทำจริง ๆ เพราะได้ลองผิดมาให้หมดแล้ว เพื่อน ๆ สามารถนำไปลองถูกได้เลย เราปลูกแบบอินทรีย์หรือออร์แกนิก เป็นวิธีปลูกที่ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ เลย ย้ำนะ ไม่ใช้เลย
อันดับแรกเลยเราต้องเริ่มจากหาความรู้เรื่องการปลูกผักก่อน ซึ่งในยูทูปมีให้ดูเยอะมาก พิมพ์คำว่า ปลูกผัก ก็ขึ้นมาแล้ว ดูวนไป เพลิน ๆ ป้ายยา สะกดจิตตัวเองไปก่อน
เรื่องที่แนะนำให้ดูลำดับแรกคือ การบำรุงดิน เรื่องนี้สำคัญที่สุด ผักจะงามได้เพราะดินดี ปลูกข้าวในแปลงผักก็ปลูกมาแล้ว หากดินดี จะขอไม่ลงรายละเอียดว่าทำยังไง เดี๋ยวจะยาวไป
เรื่องที่สองคือเรื่องการทำปุ๋ยหมัก เรื่องนี้จะได้ความรู้เรื่องวิธีกำจัดเศษอาหารในครัวเรือนไปด้วยเลย ซึ่งดีงามมาก
สำหรับมือใหม่อย่าเพิ่งใจร้อนลงแปลงใหญ่ ลองปลูกในกระถางก่อน เวลาผักตายจะได้ไม่ร้องไห้เยอะ
.
ผักเกือบทุกชนิดต้องการแสงตลอดวัน ดังนั้นสถานที่ปลูกต้องไม่มีร่มเงาบัง บางคนอยากปลูกบนระเบียงถ้าแสงส่องถึงก็ปลูกได้เลย
การปลูกพืชทุกชนิด สำคัญที่สุดคือดิน หากยังปรุงดินไม่พร้อมอย่าเพิ่งลงมือปลูก เสียเวลา เราเองจะหมดกำลังใจด้วยเมื่อผักที่ปลูกไม่โต ไม่สวย
สวนผักสวย ๆ ที่เห็นนี้เราเริ่มจากดินถมต้องปรับพื้นทำระดับใหม่หมด โดยได้จ้างช่างมาทำแบบเหมาจ่าย ดังนั้นราคาวัสดุเราจะไม่ทราบเลย แต่เพื่อน ๆ สามารถนำราคาวัสดุต่อชิ้นไปคำนวณกับพื้นที่ที่จะทำได้ เช่น หากใช้อิฐประสานราคาก้อนละ 10 บาท ก็นำเอาขนาดแปลงไปคำนวณดู
วัสดุที่นำมาทำเป็นแปลงผักมีให้เลือกตามความชอบเลย ราคา ความสวยงาม ความคงทนก็แตกต่างกันไป ครั้งนี้ได้ใช้อิฐประสานปัจจุบันผ่านมา 6 ปีแล้ว บางก้อนเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ถ้าต้องรื้อทำใหม่ครั้งหน้าว่าจะใช้อิฐมอญฉาบปูนด้านนอกปูกระเบื้องให้ดูสะอาด สวยงาม บางคนชอบไม้ไผ่ ดูเป็นธรรมชาติสวยไปอีกแบบ แต่จะไม่ทน ไม่ถึงปีก็เสื่อมสภาพต้องเปลี่ยน ราคาไม่แพงสามารถลงมือทำเองได้
ในภาพจะเห็นว่ามีการปูพลาสติกดำสำหรับกันหญ้าขึ้น ขอบอกว่ามันกันไม่ได้เลย ไม่ต้องใช้ สิ้นเปลืองเปล่า ๆ ลองมาหมดแล้ว
เนื่องจากสภาพดินเดิมเป็นดินเหนียว เลยใช้วิธีซื้อดินถุงมาเติมใส่ในแปลง อย่างที่บอกไปว่า “ดิน” สำคัญที่สุดเลยลงทุนกับเรื่องดินมาก ๆ
ดินถุงที่ขายตามร้านไม่สามารถปลูกผักให้โตได้นะ เราต้องนำมาปรุงใหม่ ใส่อินทรีย์วัตถุลงไป
มุ้งตาข่ายที่เห็นเป็นมุ้งสำหรับงานเกษตรโดยเฉพาะ หาซื้อตามร้านขายอุปกรณ์เกษตรได้เลย มีหลายแบบให้เลือกตามชนิดพืชที่เราปลูก ส่วนใหญ่จะดูกันที่ความถี่ของตาข่าย หาดูได้ตามยูทูป อย่าเพิ่งซื้อโดยที่ไม่มีข้อมูลก่อน เพราะราคาค่อนข้างสูงและส่วนใหญ่ขายยกม้วน ถ้าซื้อมาผิดต้องทิ้งยกม้วน
ระบบน้ำ ทำแบบสปริงเกอร์ แต่เวลาใช้งานจริง ใช้สายยางรดเอา มันชุ่มกว่า สะใจคนรด อันนี้แล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคลเลย โครงสำหรับกางมุ้งใช้ท่อ PVC แบบอ่อนสุดเพราะดัดให้โค้งได้
ขนาดของแปลงที่เหมาะสม ดูที่ความกว้างของแปลงเป็นหลัก ความกว้างไม่ควรเกิน 1 เมตร เพราะถ้ากว้างกว่านี้จะเอื้อมมือไปไม่ถึงแล้ว ปวดหลัง ส่วนความยาวจะยาวแค่ไหนก็ได้ ส่วนความสูงของแปลง ถ้าให้แนะนำเราว่าควรสูง 40 cm. กำลังดี
หรือความสูงที่นั่งทำงานแล้วสบาย จะเปลืองดินที่ใส่ลงไปหน่อยแต่เวลานั่งทำงานนาน ๆ มันไม่ล้า ไม่เมื่อย และการที่มีแปลงสูงหน่อยเราจะปลูกผักหัวได้สบาย ๆ อย่างแครอท ไชเท้ามันหวาน
สำหรับเมล็ดพันธุ์ได้มาจากหลายแหล่งมาก ได้แจกมาก็เยอะ ซื้อเป็นซอง ๆ ก็มีบ้าง ตามเพจปลูกผักมีแจกเยอะ
สุดท้ายคือลุยเลย ผิดบ้าง ถูกบ้าง ผักไม่โตบ้าง ทุกอย่างคือประสบการณ์ การปลูกผักให้ปลูกแบบชิล ๆ แบบสบาย ๆ มีความสุข จะโดนหนอนแย่งไปกินบ้างก็แบ่ง ๆ กันไป เริ่มเพาะใหม่
หากถามว่าวันนี้สิ่งที่การปลูกผักสอนเราคือเรื่องอะไร ตอบเลยว่าเรื่องความสุขระหว่างทาง ความสุขที่ได้ตื่นเช้าไปจับดิน ถอนหญ้า พรวนดิน เพาะเมล็ด รดน้ำ จับหนอน ส่วนผักจะโตหรือไม่ งามมากไหม นั่นเป็นผลพลอยได้
.
.
ที่มา: Jeep Patchamon