พบกับพวกเรา ในบ้าน กันเป็นประจำทุกวัน สำหรับครั้งนี้ เราก็มาพร้อมกับไอเดีย รีโนเวทบ้าน กันอีกเช่นเคย โดยมีคุณ Platookem1986 มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การรีโนเวทบ้านของตัว พร้อมรายละเอียดข้อมูลและรูปภาพสวยๆ ให้เราได้รับชมกัน
บ้านที่เราจะพาไปชมกันวันนี้ เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีสภาพค่อนข้างโทรม และพื้นที่บางส่วนก็เริ่มพุพังลงไปบ้างแล้ว จนในที่สุด คุณ Platookem1986 ก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงบ้านไม้ของตัวเอง ให้กลายเป็น ‘บ้านไม้สไตล์ร่วมสมัย’ ที่แสนจะน่าอยู่ อบอวลไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น แต่จะสวยงามมากแค่ไหนต้องไปติดตามกันค่ะ…
“เปลี่ยนคนรุ่นเก่าให้เป็นคนรุ่นใหม่” รีโนเวท บ้านผสมผสาน
(โดย Platookem1986)
“เปลี่ยนคนรุ่นเก่าให้เป็นคนรุ่นใหม่” รีโนเวทบ้านผสมผสาน
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรก หลังจากที่ได้สมัครเป็นสมาชิกมาราวๆ เกือบ 2 ปี เลยว่าตั้งใจจะเขียนกระทู้นี้ เป็นการตอบกลับคืน เพื่อเป็นประโยชน์แด่คนที่อยากจะสร้างความฝันเล็กๆ หรืออยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างให้กับชีวิต หลังจากที่เราเสพย์ข้อมูล ศึกษาแรงบันดาลใจและแนวทางของคนอื่นๆมาหลายคน ถึงเวลาแล้วที่เราควรแชร์ข้อมูลของเราบ้าง เพื่อให้ประโยชน์และแนวทางนั้นคืนกลับไป
เราเป็นคนชอบอยู่กับธรรมชาติ ชอบท่องเที่ยว ชอบเดินป่า ชอบดำน้ำ ชอบถ่ายรูป หรืออะไรก็ได้ จากขุนเขาจรดแนวท้องทะเล ชอบไปหมด ตั้งใจว่าจะอยากเขียนรีวิวการท่องเที่ยว เป็นกระทู้แรก แต่ภาพไม่สวยซักกะที 5555 เลยเลือกการรีโนเวทบ้านนี่แหละ ภาพไม่สวย แต่ทำจริง เจ็บจริง เหนื่อยจริง มาเป็นกระทู้แรก
แรงบันดาลใจครั้งนี้ มันเกิดจาก เราอยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสิ่งที่พ่อเราทิ้งไว้ให้ เราเป็นเด็กบ้านนอกเติบโตมาจากที่นี่ ตั้งแต่เด็กๆ แล้วมาเรียนจบที่ กทม. และทำงานอยู่ที่นี่ ทำงานด้านวิศวกรรม เราเป็นคนชอบหนีกรุง ไปท่องเที่ยวอยู่กับธรรมชาติ ติดป่ามากและก็ติดบ้านมากๆ เช่นกัน คือไม่อยู่ป่าก็อยู่บ้านมีอยู่ 2 อย่าง เราชอบตกแต่งบ้าน ทั้งที่ไม่ได้จบสถาปัตยกรรม แต่รู้สึกว่าการได้อยู่บ้านดีดี และน่าอยู่มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง และก็ชอบกลับบ้านที่ต่างจังหวัดมากเมื่อมีโอกาส เพราะสงบ
แต่บ้านที่ต่างจังหวัดของเราไม่มีใครอยู่ เราพาแม่มาอยู่บ้านที่ กทม. มีแต่น้ากับอาที่คอยเฝ้าบ้านไว้ให้ เราเลยรู้สึกว่าเราเหนื่อยทุกครั้งที่กลับไป ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่อยู่ตลอด จนเหนื่อยและแทบหมดเวลาแล้ว และบ้านก็เก่ามาก จนไม่น่าที่จะอยู่แล้ว
แต่เราอยากอยู่ที่นี่มาก เผื่ออนาคตตั้งใจไว้ว่าเราอยากไปอยู่บ้านเกิดของเรา และสภาพแวดล้อมรอบๆบ้าน รอบๆตำบลนั้นดี และเงียบสงบมาก บ้านเราส่วนมากเกษตรกรรม นี่คือเหตุผลหลักๆ ที่เรากลับไปเปลี่ยนแปลงบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ต้นร้อนถึงปลายฝนของปี 2560 (มีนาคม – ตุลาคม) ตลอด 8 เดือน เสาร์- อาทิตย์ ขับรถไปกลับรวม 1,000 กิโลเมตร ดูงาน ดูช่าง กลับคืนวันอาทิตย์ ถึงเช้าวันจันทร์ทำงานต่อ ถึงวันศุกร์กลับไปใหม่ วนเวียนอยู่แบบนี้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่เราทำจริง เจ็บจริง และเหนื่อยจริง
จะขอเล่าและรีวิวขั้นตอนในทีละส่วนไปเรื่อยๆนะครับ ตั้งแต่การเก็บของมูลตัวบ้าน ขนาด พื้นที่ การออกแบบ จนเริ่มการแก้ไขรีโนเวทในทีละส่วนไปเรื่อยๆ ส่วนช่างและคนงาน เราใช้ช่างในหมู่บ้าน ราคาคิดเป็นพื้นที่/ตารางเมตร ในแต่ละส่วนงาน ราคาจะแตกต่างกันไปตามประเภทของงาน วัสดุของเราซื้อเองทั้งหมด ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือเป็นของช่าง
1. งานเก็บข้อมูล
งานแรกที่เราทำ คือ ก็บข้อมูลของตัวบ้าน ทั้งระยะ พื้นที่ ส่วนต่างๆ เพื่อนำมาออกแบบ พื้นที่บ้านตามแปลนที่ดิน 192 ตร.ม พื้นที่ใช้สอยเดิม 108 ตร.ม.
.
.
.
.
.
.
.
.
2. งานออกแบบ
หลังจากการเก็บข้อมูลตัวบ้านมาทั้งหมด เราเริ่มทำการออกแบบ โดยตั้งใจว่า อยากให้เป็นแบบบ้านผสมผสาน ยังให้คงความเป็นของเดิมอยู่บ้าง โดยเฉพาะงานไม้ จะได้ทำให้รู้สึกว่า บ้านนี้ยังมีกลิ่นเป็นบ้านที่เราเติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ งานโครงสร้าง ฐานราก เสา หรือคานหลักๆ ของตัวบ้านยังคงอยู่ แต่เราจะเน้นไปทางต่อเติมและขยายพื้นที่ เพื่อให้ได้ใช้พื้นที่ได้เต็มที่ เราชอบบ้านกว้างๆ โล่ง และโปร่ง มีทางลมเข้าและปริมาณแสงที่พอเหมาะ เราขยายพื้นที่ของการออกแบบให้เต็ม จากระยะเดิม มีพื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. ออกแบบใหม่ ให้ใช้พื้นที่ได้ทั้งหมด 192 ตร.ม. ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมา 84 ตร.ม.
การออกแบบเราใช้ โปรแกรมออกแบบ 3D ที่ทำงานออกแบบด้านวิศวกรรม เลยลองมาประยุกต์เขียนเป็นแบบโครงสร้างบ้านเป็น Concept ในการออกแบบ ผลปรากฎว่า พอไปวัดไปวาได้ตามที่เห็น
แปลนพื้นชั้นล่างข้างล่างประกอบด้วย 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ 2 ห้องนอนชั้นล่าง
ส่วนอื่นๆก็ออกแบบตามที่เราต้องการ ประยุกต์ให้เป็นแบบผสมผสาน ทั้งงานไม้ งานเหล็ก งานปูน เข้าด้วยกัน
.
.
.
.
.
.
.
3. งานหลังคาและต่อพื้นขยายหน้าบ้าน
หลังจากการออกแบบและคุยกับช่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรานัดช่างวันแรกเลย คือวันที่ 3 มีนาคม 2560 เริ่มงานวันแรก เรากลับจาก กทม. เพื่อไปดูงานตั้งแต่วันแรก คุยกับช่าง งานแรกที่เราจะทำ คือในส่วนของหลังคาเป็นอันดับแรก และส่วนต่อหน้าบ้านตามแบบ เหตุผลที่เลือกทำหลังคาก่อน คือ ช่วงมีนาคม เป็นช่วงฤดูร้อน โอกาสที่จะเกิดฝนตกนั้นน้อยมาก นั่นเลยเป็นเหตุผลหลักๆ ที่เราเริ่มทำงานหลังคาก่อน
งานรื้อหลังคาวันแรก แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว บางทีบ่นในใจ ทำไมบ้านมันรกอะไรขนาดนี้ แต่ก็คิดบวกในใจ ก็ไม่มีใครอยู่ จะไม่ให้รกได้ไง ทำงานของเราต่อไป อย่าไปบ่นตัวเอง
หลังจากที่รื้อหลังคาแล้ว ต่อไปเป็นงานวางโครงสร้างหลังคาใหม่ โดยเราใช้เป็นเหล็กรูปพรรณชุบกาวาไนท์ทั้งหมด เป็นโครงสร้างรับหลังคา เพื่อที่จะไม่ต้องทำสีงานโครงสร้าง แต่จะทาเฉพาะแนวเชื่อมรอยต่อของโครงสร้าง เพื่อป้องกันสนิมเท่านั้น
หลังจากวางโครงสร้างแล้ว เราใช้กระเบื้องลอนสามสีเทาในการมุงหลังคา
หลังจากงานหลังคาเสร็จ ก็จะเป็นงานส่วนต่อเติมด้านหน้าบ้าน เป็นงานรื้อและวางโครงสร้างใหม่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เราทำงานอยู่กับช่าง พยายามเก็บข้อมูลและคิดล่วงหน้าไปเรื่อยๆ ถือว่าการได้กลับมาบ้านแต่ละครั้งสนุกดี จนบางทีไม่รู้สึกถึงความเหนื่อย ในสิ่งที่เรากำลังทำเลย
ต่อไปจากเป็นงานรื้อหลังบ้านเพื่อขยายพื้นที่ให้ได้ใช้งานทั้งหมด ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง รวมไปถึงการวางเสา วางคานรับต่อเติม ของพื้นที่ เพื่อให้ได้ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำล่าง 1 ห้องน้ำบน และห้องครัวที่กว้างขึ้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
5. งานก่อกำแพงห้องชั้นบนและชั้นล่าง
หลังจากที่วางคาน เพิ่มเสารับน้ำหนักเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเป็นการวางแผ่นพื้นของชั้นบนและเทพื้นทับอีกครั้ง หลังจากนั้น จะเป็นการเนรมิตรห้องที่เราต้องการตามที่ออกแบบไว้ ชั้นบนจะมี 1 ห้องน้ำ 1 ห้องเก็บของ , ชั้นล่างจะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องโถงรับแขก ซึ่งเป็นห้องหลักภายในบ้าน
.
.
งานทุกส่วนที่ทำ เราพยายามตาม ถึงแม้เรามีเวลาน้อยมาก ภายใน 2 วันที่มีเวลา แต่ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง พร้อมคุยกับช่างในงานที่จะต้องทำในส่วนต่อๆไป ในช่วงที่เราไม่อยู่
งานก่อผนังห้องชั้นล่าง กลับไปดูบ้านทีก็สนุกที ผู้คนเยอะแยะมากมาย เหมือนเราเป็นเด็กหลาย 10 ปีก่อน แต่เรามาครั้งนี้ ทุกคนมองว่าเราเป็นอีกคน ที่ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆในวันนั้นแล้ว
.
.
.
ผนังห้องทุกห้องเราใช้เป็นอิฐมวลเบาทั้งหมด
.
.
6. งานปูกระเบื้อง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
7. งานฝ้าฉาบเรียบ
งานฝ้า เราตัดสินใจทำฝ้าฉาบเรียบ เฉพาะชั้นล่าง ที่เป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ และห้องครัวเท่านั้น ชั้นบนในตัวบนบ้านยังไม่ตัดสินใจทำ เพราะเราต้องจำกัดงบประมาณเผื่อไว้ ในส่วนงานสำคัญที่เหลือ
.
.
8. งานฝ้าไม้สักห้องรับแขก
งานฝ้าในห้องรับแขก ซึ่งเป็นห้องหลักของบ้าน เราตัดสินใจทำเป็นฝ้าไม้จริงด้วยไม้สัก เลยจำเป็นต้องซื้อไม้เพิ่ม เป็นไม้สัก เพิ่มอีกประมาณ 2×1/2 ยก ( ไม้ 1 ยก 15 ตร.ม. ) ราคายกละ 8,500 เป็นค่าไม้อย่างเดียว ไม่รวมค่าที่ต้องช่างไม้อีกต่างหาก ส่วนไม้ที่เรารื้อมาได้จากหลังบ้านและหลังคาก็มาประยุต์ใช้ในส่วนที่ต้องการ เพื่อเป็นการประหยัดงบไปในตัวด้วย
ช่างไม้ เราได้ช่างเชียร ช่างไม้ฝีมือดีจาก อ.ลับแล เข้ามาทำให้ คนนี้เก่งจริงๆ ทำงานคนเดียว นิ่ง และสุขุมมาก งานออกมาดีมาก เราประทับใจในฝีมือและเทคนิคของช่างเชียรมาก ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกัน
.
.
.
ช่วงที่ระหว่างช่างเชียรทำฝ้าไม้ เราก็ให้ช่างแขก ซึ่งเป็นช่างกระจกมาเดินงานต่อเลย กระจกทั้งบ้าน ในส่วนหน้าบ้าน ชั้นบนและชั้นล่างตามที่เราออกแบบไว้ เราชอบบ้านสว่างๆ จึงเน้นใส่กระจก และบ้านจะได้ดูโล่งๆ ด้วย
.
9. งานขัดเนื้อไม้ทั้งหลัง (งานชุบชีวิตบ้าน)
เมื่อทุกอย่าง อุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว งานสุดท้ายที่เราต้องทำคืองานสี เพื่อชุบชีวิตใหม่ให้กับบ้านหลังนี้ ผ่านมาตอนนี้ เรามั่นใจว่าเราผ่านมาครึ่งทางแล้ว งานสีในที่นี้จะประกอบด้วย 3 ส่วนคือ งานสีเนื้อไม้ จะต้องขัดชุบชีวิตใหม่ทั้งหมด งานสีโครงสร้าง และงานสีของคอนกรีต โทนสีที่ผมเลือกใช้ทั้งหมดเลยคือ ขาว เทา ดำ และโดดเด่นด้วยสีของไม้จริง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เดินทางมาเกินครึ่งทางแล้ว เหลืออีกไม่กี่เดือน งานที่เราทำ ใกล้สำเร็จแล้ว
10. งานไฟฟ้า
งานที่เราให้ความใส่ใจเลยคือเรื่องของความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า บ้านหลังนี้หลายสิบปีมาก สายไฟเก่าๆ อุปกรณ์เก่าๆ เรามองว่า มันใช้ไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด และเราก็ไม่ได้อยู่บ้านตลอด ระบบไฟฟ้า เราเลยตัดสินใจรื้อทำใหม่ ใช้ของใหม่ทั้งหมดตั้งแต่สาย Main เข้าบ้านเข้าตู้ คอนโทรลที่ 1 ชั้นบน และดึงลงตู้คอนโทรลที่ 2 ชั้นล่างเพื่อแยกระบบทั้ง 2 ชั้น และเน้นเรื่องความปลอดภัยทางด้านไฟฟ้าเป็นหลักมากๆ
งานไฟฟ้าผมบอกตรงๆว่า ตื่นเต้นกับมันมากเพราะงงกับมันอยู่พักใหญ่ ออกแบบเอง ทั้งงานไฟฟ้า งานระบบ โครงสร้างเหล็ก และคอนกรีต อาจจะไม่ได้แม่นมาก แต่ก็น่าจะพอไปวัดไปวาได้ ระบบไฟฟ้าเข้าบ้าน เราจะได้ทดสอบระบบปั้ม ระบบแสงสว่าง คราวนี้จะได้เห็นว่า บ้านที่เราชุบชีวิตมัน จะออกมาสวย หน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง อาจได้เห็นคร่าวๆ
.
.
.
.
เป็นแบบที่เราคิดบ้างไหม ? ไม่รู้เป็นไม่เป็น แต่ทำไปแล้ว
.
.
.
11. งานสี
งานสีทั้งหลัง ผมหยุดไปสักระยะหนึ่ง ไม่ได้กลับไปดูงานต่อที่บ้าน เพราะว่าต้องเรียนต่อ ป.โท (สอบติดช่วงทำบ้านแรกๆ) จึงไม่ค่อยได้เก็บข้อมูลการทำสีเท่าไหร่ พอจะมีข้อมูลก็จากอา จากน้าที่พอถ่ายภาพส่งมาให้ แต่งานสี ก็ไม่ได้มีอะไรน่าห่วงสักเท่าไหร่แล้ว เพราะเราเลือกสีและซื้อของทิ้งไว้ให้และอธิบายในส่วนที่เราต้องการไว้ทั้งหมดแล้ว เราได้ช่างวี ช่างสีฝีมือดีและขยันมาก มาทำบ้านให้เรา
.
.
.
.
.
.
.
12. เหนื่อยไหม? แล้วหายเหนื่อยรึยัง?
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว มาดูโฉมหน้าชีวิตบ้านหลังใหม่กันหน่อย เหนื่อยไหมตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา เห็นแล้วหายเหนื่อยไหม ? ถามใจตัวเราเอง ?
หน้าบ้าน
.
.
.
.
.
.
ห้องรับแขก
ห้องนอนชั้นล่าง
.
.
ห้องเก็บของชั้นบน
ห้องน้ำชั้นบน
ห้องครัว
.
ห้องน้ำชั้นล่าง
.
ชั้นบน
.
.
.
.
13. Before & After
มาดูกันหน่อย อะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
14. สุดท้าย
ขอบคุณพื้นที่ดีดี สังคมดีดีแห่งนี้ ที่ให้เราได้แชร์ข้อมูลกลับคืนไปบ้าง ขอบคุณคนหลายๆคนในที่นี้ ที่แบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจให้กับเรา ขอบคุณพ่อ ขอบคุณแม่ และพี่สาวที่สอนให้เราต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง อยากได้อะไร อยากเป็นอะไร ต้องพยายามด้วยตัวเอง ขอบคุณลุงป้า น้าอา รอบๆตัวเราที่คอยเป็นกำลังใจให้ และดูแลเรา ในวันที่เรากลับไปเปลี่ยนแปลง ขอบคุณ ช่างอู๊ต ช่างวี ช่างเชียร ช่างแขก และลุงไฟฟ้า ที่ทำงานร่วมกับเรา
ปี 2561 เราได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ช่วงหยุดปีใหม่ แต่เป็นครั้งที่ไม่เหมือนเดิม มาครั้งนี้เราได้พัก ได้ใช้ชีวิตตามที่เราต้องการ เพราะงานที่เราทำมาตลอดนั้น มันสิ้นสุดลงแล้ว กลับมาบ้านนอกครั้งนี้ อากาศดีมากๆ หนาวกำลังดี แปลกที่สร้างห้อง แต่ไม่นอนห้องที่สร้าง แปลกที่กางเต็นท์ในบ้านและนอนเต็นท์ตลอดช่วงที่กลับไป เพราะอากาศมันดีจริงๆ โอกาสแบบนี้ ไม่ได้หากันได้บ่อยๆ
พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ หรือใครชอบทำบ้านตกแต่งบ้านกันได้นะครับ เราเป็นคนง่ายๆ นะ กินง่าย นอนง่าย หลับง่าย และเมาง่ายด้วย 5555 น้อมรับฟังทุกคำชี้แนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคน https://www.facebook.com/witsarut1986 จริงๆแล้วผมชื่อ “ตั้ม” นะ แต่ชอบกินปลาทูเค็ม 5555
ตรงส่วนไหนที่ผิดพลาดไป โปรดชี้แนะด้วยนะครับ กระทู้แรก น้อมรับฟังความคิดเห็น
ที่มา : Platookem1986
Facebook : witsarut1986 .