ใครหลายคนที่ฝันอยากจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ถ้าจะให้มาสร้างร้านขึ้นมาใหม่ตั้งแต่โครงสร้างเริ่มต้น อาจทำให้เสียเวลาและงบประมาณไม่ใช่น้อย การรีโนเวทอาคารเก่าเพื่อทำการค้าขายจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะประหยัดเงินได้เยอะ แถมยังได้ร้านสวยตามใจชอบอีกด้วย
วันนี้ ในบ้าน จึงได้มาพร้อมกับ ประสบการณ์รีโนเวทอาคารเก่า 4 คูหา ให้เป็นร้านอาหาร จากคุณ จางซานฟง ที่ขอบอกได้เลยว่าสวยงาม คลาดสิค ดูดีแบบไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ใครอยากเปิดร้านบ้าง ลองตามไปเก็บเป็นไอเดียกันเลยค่ะ
ประสบการณ์รีโนเวทอาคารหลังเก่า 4 คูหา เปลี่ยนให้เป็นร้านอาหารสุดคลาสสิค หรูหรามีสไตล์ แบบชิคๆ คลูๆ
(โดย จางซานฟง)
ครั้งแรกของผมสำหรับการตั้งกระทู้แบบนี้นะครับ มีอะไรติชมแนะนำได้ครับ ผมต้องการใส่รายละเอียดเยอะ ๆ อาจไปอย่างช้า ๆ นะครับ ตั้งเป้าว่ากว่าจะเสร็จอาจใช้เวลาเป็นเดือน (หรือมากกว่า)
จะเข้ามารีวิว – ตอบข้อความช่วงว่าง ๆ นะครับ อาจตอบไว หรือช้าบ้าง ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ (บางช่วงอาจมีงานยุ่งครับ)
รูปก่อนรีโนเวท มุมมองด้านข้างครับ
.
ด้านหน้า
มุมมองด้านหลัง
เป็นรูปปัจจุบัน ณ ตอนนี้ครับ
.
ขั้นตอนแรกเลยเป็นช่วงการออกแบบวางผังร้าน พร้อมกับ List งานทั้งหมด เพื่อประโยชน์หลาย ๆ อย่างเช่น
1. งานขุดเจาะ อาจมีหลายตำแหน่ง ถ้าเราเอารถเจาะเข้ามา จะได้ทำทีเดียวพร้อมกันได้ ไม่ต้องจ้างรถหลายรอบ
เช่น ของผมเจาะพื้นปูนหน้าร้านทำบ่อปลา / ทำบ่อบำบัด / บ่อปลูกต้นไม้ สามารถจ้างเข้ามาภายในวันเดียวได้เลย
ลองนึกภาพถ้าเราไม่ได้วางแผนไว้ก่อน คิดจะปลูกต้นไม้ทีหลัง หรือลืมคิดถึงบ่อบำบัดน้ำเสีย คงต้องจ้างรถเจาะหลายรอบ
2. งานทุบ งานรื้อ ถ้าไม่วางแผนไว้ก่อน อาจต้องขนขยะไปทิ้งหลายรอบ หรืออาจต้องเรียกรถรับซื้อเศษเหล็กหลายรอบเป็นต้น
ผมจะใช้โปรแกรม Microsoft Excel เป็นหลักในการทำงานทั้งหมด เพราะมีข้อดีหลายอย่าง (จะอธิบายภายหลัง)
ตัวอย่างผังที่ออกแบบ
ตัวอย่าง List งาน
เนื่องจากมีผู้สนใจไฟล์ Excel และสอบถามเข้ามาเยอะมาก ผมแจกเลยดีกว่า ใครสนใจก็ download เอาไปนะครับเอาไปดูเป็นตัวอย่างคร่าวๆ แล้วปรับเอาเองนะครับ อย่าไปใช้อ้างอิงมาก เพราะบางจุดผมแก้ไขในใจ แต่ไม่ได้ลงข้อมูลครับ
พยายาม List รายการงานทั้งหมด เพราะทำให้เราวางแผนเรื่องราคา และคุยกับช่างได้ชัดเจน และตัวเราเองก็จะได้ไม่ลืมด้วยว่าต้องทำอะไรบ้าง List งานของผมอาจจะไม่ได้แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจนนะครับ เพราะทำงานไป/ออกแบบไป/List งานไปพร้อมๆ กัน แถมมีเพิ่มเติมทีหลังบ้าง
เรื่องราคาที่ตกลงกับช่าง ผมก็ค่อย ๆ ให้เค้าเสนอราคา ไม่ได้ให้เสนอราคาทีเดียวตั้งแต่คราวแรก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการออกแบบของผมก็ไม่ได้จบตั้งแต่คราวแรกเหมือนกัน เรียกว่าทุบไป ออกแบบไป ทำไป เสนอราคาไป พร้อมๆ กันครับ ใช้เวลารวมทั้งหมด ตั้งแต่ช่างเริ่มทำงานวันแรก จนปิดงาน ก็เกือบๆ 1 ปีเต็มพอดี
สภาพภายในก่อนทำ เทียบกับปัจจุบ้น
.
.
.
.
.
ม้นนี้จะอธิบายการใช้โปรแกรม Excel ในการเขียนผังด้วยตนเองนะครับ และเพื่อไม่ให้ความคิดเห็นกระจัดกระจายเกินไป รายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับ Excel จะอยู่ในการตอบกลับของเม้นนี้นะครับ
วิธีการคร่าวๆ
1. ลงสีพื้นเป็นสีขาวทั้งหมด เพื่อไม่ให้มองเห็นเส้น Cell ครับ
2. Insert > Shapes จะมีรูปแบบให้เราวาดเยอะแยะมากมาย แต่ที่เราจะใช้งานจริง จะมี เส้น/สี่เหลี่ยม/วงกลม และลูกศร 2 ด้าน
บางคนอาจจะสงสัย ทำไมผมไม่ใช้โปรแกรมที่ง่ายกว่านั้น เช่น Visio เป็นต้น
1. Excel มีหลาย Sheet ในไฟล์เดียว บางที่เราอาจจะมีผังไฟ มีผังท่อน้ำ มีผัง Workflow หรือแม้แต่รายการซื้อกระเบื้องที่คำนวณจากความกว้าง*ยาว หรือคำนวณราคาได้พร้อมเสร็จสรรพ
ดังนั้น Excel จะตอบโจทย์ได้ทั้งหมด รวมทุกสิ่งอยู่ในไฟล์เดียวกันได้เลย
2. Microsoft Excel บน Android ณ ตอนนี้ เจ๋งมาก ใช้งานได้เกือบเหมือนบน Windows ดังนั้น เวลาไปเดินซื้อของ ใช้มือถือเครื่องเดียวพอ ไม่ต้องพกอย่างอื่นให้วุ่นวาย (ios ไม่แน่ใจว่าดีหรือเปล่าสำหรับการใช้งาน Microsoft Excel ใครมีประสบการณ์แชร์ได้ครับ)
3. Link งานผ่าน Cloud ทั้งหลาย ทำให้เราทำงานได้ทั้งบน note book หรือมือถือ ผมแนะนำ Dropbox นะครับ ใช้งานง่ายมาก
วิธีการ
1. วาดสี่เหลี่ยม ขนาด 20*20cm (ปรับสเกลเอาเองนะครับ) แทนเสา (ในรูปคือสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน)
2. วาดสี่เหลี่ยมแทนระยะห่างจากเสาต้นแรกถึงต้นที่สอง ขนาด 380cm เพื่อเป็นตัวบอกระยะของเสา (ในรูปคือสี่เหลี่ยมสีเหลือง)
3. Copy เสาต้นแรกมาวางต่อกับสี่เหลี่ยมในข้อ 2. (เทคนิคง่ายๆ กด ctrl+shift+เมาส์จิ้มลากไปที่สี่เหลี่ยม)
ปรับระยะแบบละเอียด โดยการเลือกไปที่สี่เหลี่ยมที่ต้องการ และกดปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ด
ทีนี้ ถึงขั้นตอนวางเฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เคาเตอร์ ตู้เย็น ชั้นวางของ อ่างล้างจาน
วิธีการ
1. วัดขนาดของจริง
2. สร้างกล่องสี่เหลี่ยมแทนวัตถุ และกำหนดขนาดตามสเกลเดิม
3. ถ้าอยากได้รูปให้มองง่ายๆ ค้นเอาจาก google และใช้ Snipping Tools ได้เลย (Copy และนำมา Paste ใน Excel ได้ทันที)
จากวิธีการง่ายๆ เช่นนี้ จะทำให้เราออกแบบว่าเราจะวางอะไรตรงใหนได้ง่ายมากๆ แค่ลองเลือกลากไปลากมาจนกว่าจะพอใจ
ถ้าเรากำหนดตำแหน่งของอุปกรณ์ของเราได้ชัดเจนแต่แรก จะทำให้เราวางแผนสิ่งต่อไปนี้ได้ง่ายขึ้น
1. ตำแหน่งปลั๊กไฟ สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ลองคิดดู ถ้าเราลืมเดินสายไฟฝังผนัง ก่อนปูกระเบื้องผนัง คงต้องให้ช่างรื้อกระเบื้องผนังทีหลัง หรือไม่ก็สายไฟลอยอยู่ข้างนอก
2. ตำแหน่งท่อน้ำทิ้งและรางระบายน้ำ ถ้าเราจะฝังท่อระบายน้ำทิ้ง เราต้องฝังก่อนปูกระเบื้องพื้น หรือก่อนเทพื้นในกรณีต้องเทพื้นใหม่
3. ตำแหน่งท่อน้ำดี (ท่อประปา) แบบเดียวกับสายไฟ ถ้าเราต้องการเอาท่อน้ำฝังในผนัง เราต้องมีแบบที่ชัดเจนก่อน
4. ตำแหน่งประตู/หน้าต่าง ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด การออกแบบประตูก็สำคัญ เพราะบางทีเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ก็วางได้ไม่พอดีเพราะบังประตู
งานแรกๆ ได้แก่งานทุบพื้นเก่าออก พื้นส่วนนี้หนาเกินไป ถ้าไม่เอาออกและปูกระเบื้องของใหม่ทับ ก็จะทำให้เพดานเราเตี้ยมากขึ้น เนื่องจากโซนด้านหลังผมเพดานเตี้ยเนื่องจากมีชั้นลอยอยู่
งานรื้อเหล็กด้านหน้า
.
งานทุบบันไดฝั่งที่ไม่ใช้งาน (และยึดตามหลักฮวงจุ้ยด้วย)
งานเจาะพื้นสำหรับบ่อบำบัดน้ำเสีย และบ่อปลาหน้าร้าน
ช่างทำงานไป เราก็ออกแบบไป ลงบันทึกใส่มือถือ แทนการจดใส่กระดาษ เพราะผมขึ้ลืมชอบทำกระดาษจดหาย และถ้าเราจัดเก็บไฟล์ได้เป็นหมวดหมู่ เราจะทำงานพร้อมกันได้หลายๆ อย่าง ไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณข้อมูลมหาศาลที่เรามีอยู่ งานประจำหลักๆ ของผม ยกตัวอย่างเช่น
1. งานโปรเจคใหม่เช่นงานนี้
– ออกแบบ/วางผัง
– List งานให้ช่าง/วิเคราะห์และกำหนดงบประมาณ
– ซื้อของเอง ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ กระเบื้อง ประตู หน้าต่าง ต้นไม้ ฯลฯ เยอะแยะมากมาย
– หาผู้รับเหมาในงานต่างๆ เช่น งานเหล็ก งานป้าย
– ออกแบบ Art work ต่าง ๆ เอง
– โปรเจคนี้มีงานเพิ่มเติม คือคุมลูกน้องเดินสายไฟทั้งร้านเอง (งานร้อยท่อ)
– โปรเจคนี้มีงานเพิ่มเติมคือออกแบบระบบกรองบ่อปลาคาร์ฟด้วย เดี๋ยวเล่าให้ฟังภายหลัง
– อีกเยอะ จำได้ไม่หมด
2. งานประจำ คือทำร้านกาแฟ/เบเกอรี่
– เปิดขายกาแฟ เบเกอรี่ ร้านเปิด 365 วันไม่มีวันหยุด (ตอนนี้ลูกน้องรับมือไหวแล้ว ไม่ต้องดูแลมาก)
– สาขาของตัวเอง (ลงทุนเอง บริหารเอง) 2 สาขา
– เปิดแฟรนไชส์กาแฟ/เบเกอรี่ในช่วงทำโปรเจค มีสาขาทั้งหมด 6 สาขา (ปัจจุบันเหลือ 5 สาขา และกำลังจะเปิดอีก 2 สาขา)
3. งานบัญชี ควบคุม/บริหารรายรับรายจ่าย (ปัจจุบันเปิดเป็นบริษัทจำกัด จดทะเบียน ภพ.20 เรียบร้อย ทำให้งานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว)
– ประสานงานสำนักงานบัญชี จัดเตรียมเอกสารทางบัญชีต่างๆ
– ควบคุม usage ต่าง ๆ ของกิจการ / เทียบราคาวัตถุดิบจาก supplier ต่างๆ เรียกว่าทำหน้าที่แผนกจัดซื้อด้วยตนเองทั้งหมด
– ฯลฯ
4. งานบุคคล ประเมินผลพนักงานรายเดือน ทำเงินเดือนพนักงาน วันหยุด วันลา มาสาย
5. ปัจจุบัน เป็นเชพครัวอาหารอิตาเลี่ยนด้วยครับ ^^
อื่นๆ นึกไม่ออก เยอะจัด ว่าง ๆ ถ้าคิดว่ามีอะไรที่เป็นประโยชน์ จะมาแนะนำกันนะครับ
ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องบ่อกรองและบ่อปลาคาร์ฟมาก่อน การออกแบบรอบนี้ ศึกษาหาข้อมูลหลายเดือนมาก
.
.
.
.
บ่อปลาคาร์ฟปัจจุบัน หลังจากรอคอยมาเกือบ 3 เดือนกว่าน้ำจะใสแจ๋วแบบวันนี้
ร้านอยู่ จ.ระยอง นะครับ Google map> “โมทะนา Motana” ครับ
ปลาคาร์ฟในบ่อ
.
บ่อปลาเสร็จ ก็หารูปปั้นมาวางเลยครับ
บางคนอาจจะสงสัย ผมเอางานตกแต่งชิ้นนี้มาวางตั้งแต่ต้นเลย อาคารก็ยังไม่เสร็จ ผนังก็ยังไม่ได้ทำ
สาเหตุก็เพราะ
1. มันง่ายกว่าที่เราจะหานางเอกก่อนองค์ประกอบแวดล้อมลองนึกภาพทำน้ำตกก่อน แล้วเกิดหานางเอกมาวางไม่พอดี ได้มีรื้อทิ้งหลายอย่าง ดังนั้น หานางเอกให้ได้ก่อน แล้วค่อยสร้างองค์ประกอบแวดล้อมให้มัน
2. รูปปั้นหนักมาก ถ้าเราเอามาวางทีหลัง ต้องนึกถึงภาพรถเครนจะยกท่าใหนให้รูปปั้นเข้าที่สุดท้าย สรุปได้ว่า เอารูปปั้นวางก่อน แล้วค่อยก่อผนัง ก่อน้ำตกทีหลัง
*** เทคนิค เอา wrap (shrink film) หุ้มไว้เลยครับ พันหนาๆ และเอากระดาษลังครอบส่วนบอบบางไว้ด้วย กันวัสดุก่อสร้างตกใส่ หลังจากเสร็จเรียบร้อย สุดท้ายได้รูปปัจจุบัน
ออกแบบเสร็จก็เริ่มงานได้เลย
ถังซ่อนน้ำก่อนไหลมาเป็นน้ำตก ก็ไปหาซื้อกระถางปูนแบบที่ใส่น้ำได้มาวาง (ถ้าให้ช่างเราตีแบบเอง ดูจะวุ่นวายเกินไป) กระถางปูนเลือกดี ๆ นะครับ เพราะจะอยู่กับเราไปอีกแสนนาน
การใส่เอ็น ต้องออกแบบดี ๆ นะครับ เพราะบางจุดไม่มีฐานรับผนังด้านบน ก็ต้องเทเอ็นสักหน่อยครับ
และอย่าให้กระถางปูนของเรารับน้ำหนักผนังโดยตรงครับ เดี๋ยวแตกหมด
เกือบละ
จุดสำคัญ ส่วนเว้าส่วนโค้ง ช่างมองภาพไม่เหมือนเรา ต้องเข้าไปชี้งานใกล้ชิดหน่อยครับ
ฉาบเรียบ เก็บงาน เสร็จละ (ไม่ได้ถ่ายรูปก่อนปูกระเบื้องครับ เลยข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย)
ขอตัวไปสังสรรค์กับเพื่อนในวันลูกค้าน้อยนะครับ ลูกค้าน้อยก็ถือว่าเป็นวันพักผ่อนครับ (ปลอบใจตัวเอง 555)
ปัจจุบัน ผมทำร้านที่เน้นลูกค้าตลาดระดับกลาง 1 ร้าน เป็นร้านเค้ก-กาแฟ-บิงซู และร้านที่รีวิวอยู่นี่ จะเป็นร้านที่เน้นลูกค้าตลาดระดับบน มีเสต็กพรีเมี่ยม ไวน์ คราฟเบียร์ ซึ่งการทำธุรกิจที่จับกลุ่มลูกค้าต่างกัน รายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบก็ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นอาหารเป็นต้น เอารูปของที่ร้านมาให้ดูครับ
.
.
.
มาออกแบบน้ำตกกันต่อครับ โจทย์ของผมคือผมต้องการนกกระเรียนอยู่ที่ผนังน้ำตก จำนวน 8 ตัว จริงๆ แล้วผมต้องการรูปปั้น แต่ว่าหายากมากเลยครับ เลยจบลงที่รูปวาดครับ หลังจากหาช่างวาดรูปฝีมือดีได้แล้ว ก็มาออกแบบกันว่าจะให้เค้าวาดยังไง ขั้นตอนแรก ถ่ายรูปผนังน้ำตกแบบหน้าตรงครับ
ขั้นที่สอง ไปหารูปนกสวยๆ จาก google เช่นเดิมครับ
.
.
จากนั้นก็ remove background ด้วย Excel เช่นเดิม หมุนๆ วางๆ ตามชอบเลยครับ ใส่ระยะให้ช่างวาดด้วย จะได้เสนอราคาได้ง่ายๆ
ช่างวาดรูป
วาดเสร็จแล้ว
ปัจจุบัน พ่นสีปีกให้เป็นสีทอง แต้มสีสร้อยให้ออกทองๆ หน่อย ให้ดูมีอะไรมากกว่าปูนปั้นธรรมดา
สังเกตนกคู่ที่ 3 ระหว่างต้นฉบับ กับสิ่งที่ออกแบบ จะต่างกันเยอะนะครับ อันนี้ขึ้นกับไอเดียของเราเอง อย่าไปยึดกับต้นฉบับมาก ลองหมุนไปหมุนมา กลับด้านซ้าย-ขวาก็ทำได้นะครับ
วิธีการสลับด้านนก
นกคู่ที่ 4 ผมหักหัวลงหน่อย มันเงยหน้านานๆ กลัวจะเมื่อย อันนี้ใช้ Photoshop ทำครับ
มาว่ากันต่อเรื่องประโยชน์ของการใช้ Excel ในการทำงาน (ผมไม่ใช่แผนก Marketing ของ Microsoft นะครับ 555) สำหรับคนที่เคยซื้อของสร้างบ้านเอง คงเคยพบปัญหาซื้อกระเบื้องพื้นมาไม่พอบ้าง หรือซื้อมาเกินไปเยอะบ้าง
คิดเป็นมูลค่า รวมๆ ก็สูญเปล่าไปหลักพันถึงหลักหมื่นเลยนะครับ
ผมเองก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน ยิ่งโปรเจคนี้ ผมใช้กระเบื้องนับสิบๆ ลาย ถ้าไม่วางแผนดีๆ คงจะเสียเงินเปล่าประโยชน์ไปเยอะแน่ๆ
.
ข้อดีของ Excel คือการใช้สูตรคำนวณครับ ดังนั้นเราสามารถเอาข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียวได้เลย ตั้งแต่การคำนวณปริมาณกระเบื้องที่ต้องใช้ + มองเห็นงบประมาณได้ด้วย
ข้อดีของ Excel อีกประการคือ ใช้เทคนิคการลงสี เพื่อแยกกลุ่มข้อมูลได้ด้วย เนื่องจากปริมาณงานของผมค่อนข้างเยอะ ปริมาณข้อมูลก็เยอะมากๆ ดังนั้นบางครั้งผมก็ลืม ว่าผมซื้อกระเบื้องหรือยัง หรือซื้อคิ้วกระเบื้องหรือยัง
หรือแม้แต่บางทีก็ลืมว่าข้อมูลที่คำนวณเป็นของเก่า หรือเป็นข้อมูลที่ Revise แล้วรวมทั้งบางทีทำไปทำมาอยากเปลี่ยนแบบ แต่ซื้อกระเบื้องไปแล้ว ก็ต้องมีการโยกย้ายตำแหน่งปูกระเบื้อง การคำนวณก็จะยิ่งซับซ้อนไปอีก แนะนำให้ลงสีเป็นการแยกกลุ่มข้อมูล
พักเรื่อง Excel น่าปวดหัว มาดูพื้นที่ด้านหลังอาคารกันบ้าง
ประวัติของที่ดินแปลงด้านหลังอาคารนี่ก็ยาวมากเช่นกัน เนื่องจากมีทั้งหมด 4 แปลง มีเจ้าของหลายคน และเจ้าของเป็นคนดั้งเดิม ครอบครองที่ดินมาเป็นสิบ ๆ ปี
โจทย์ของผมคือ รวบรวม ติดต่อเพื่อขอซื้อที่ดินทั้งหมดจากเจ้าของทั้ง 3 เจ้า 4 แปลง โดยที่ยังไม่รู้ว่าเจ้าของคือใคร!! แล้วต้องการขายหรือไม่!!
1. เข้าไปเว็บไซต์ของกรมที่ดิน เพื่อดูหมายเลขโฉนดของที่ดินแปลงที่เราต้องการ
2. ไปติดต่อที่กรมที่ดิน ขออนุญาตดูว่าเจ้าของที่แปลงดังกล่าวชื่ออะไร
3. เอาชื่อดังกล่าวมาค้นหา Facebook / google แล้วโทรไปติดต่อโดยตรง
จุดที่ยากที่สุดสำหรับโจทย์นี้คือ มีเจ้าของที่ดินแปลงนึง เจ้าของเป็นครูที่เกษียณแล้ว อยู่ จ. เชียงใหม่
ครูคนนี้ไม่เล่นโซเชียล ไม่ชอบรับโทรศัพท์เบอร์แปลกหน้า!! กว่าจะหาชื่อเจอก็ยากแล้ว โทรไปก็ยังไม่รับโทรศัพท์ของเราอีกผมต้องแก้โจทย์โดยไปค้นหาครูที่เป็นเพื่อนเค้าและเกษียณพร้อมกัน และขอความกรุณาให้เพื่อนเค้าโทรไปบอกเจ้าของที่ว่าผมต้องการติดต่อเรื่องที่ดิน
.
.
.
บทเรียนจากงานนี้ คือใช้รถแบคโฮ ตั้งแต่แรกน่าจะดีกว่าครับ รอบแรกผมเสียเงินจ่ายค่าแรงงานตัดต้นไม้ แต่สุดท้ายก็ต้องเรียกรถแบคโฮมาจัดการเก็บอยู่ดี ถ้าใช้แบคโฮตั้งแต่แรก ก็ใช้แบคโฮดึงกิ่ง ขุดราก และขนทิ้งได้เลย ไม่ต้องเสียค่าแรงงานคนตัดไม้ เพราะสุดท้ายก็ต้องใช้แบคโฮเคลียร์ตอไม้อยู่แล้ว
ถ้าวางแผนดี จะเสียค่าเช่าแบคโฮแค่ 1-2 วัน ก็จะได้ทั้งงานเคลียร์กิ่งไม้ และงานปรับพื้นที่ไปพร้อมกัน ไม่ต้องจ้างหลายรอบ
.
อย่าลืมทำหลุมขยะ ไว้ทิ้งเศษวัสดุก่อสร้างด้วย เลือกพื้นที่ไม่สำคัญเช่นของผมจะฝังขยะไว้ที่ลานจอดรถครับ
จะเห็นว่า จ้างแบคโฮวันเดียว ได้ทุกงานครับ ปิดงานดึกหน่อย จ่าย OT แต่คุ้มมากกว่าจ้างเพิ่มอีกวันครับ
ข้ามมาที่การปลูกต้นไม้เลยครับ ส่วนรูปการปรับที่ดิน และการวางฐานรากห้องน้ำน่าจะไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ หาไม่เจอ
ใช้แบคโฮเช่นเดิมครับ เพราะหลุมใหญ่มาก เสียเวลาให้คนขุด
.
.
.
โจทย์รอบนี้คือ ผนังด้านหลังรับแดดเต็มๆ ครับ และผมก็เลือกเปิดผนังให้โล่งๆ ใส่หน้าต่างบานใหญ่ๆ เต็มผนัง
และผมก็ไม่อยากใส่ม่านให้ดูรุงรังด้วย ดังนั้นต้องตอบโจทย์คือ ปลูกต้นไม้ยังไงให้ต้นไม้บังแดดถีงชั้น 2 ครับ
สรุปคือ ปลูกต้นจิกเศรษฐีใกล้ ๆ ตัวอาคาร และปลูกไม้ใหญ่ห่างออกมาอีกหน่อย ข้อดีของต้นจิกเศรษฐีคือ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ยังโตได้สวย แถมรากหรือลำต้น ก็ไม่เป็นอันตรายต่อตัวอาคารด้วยครับ
รูปปัจจุบันครับ
.
บรรยากาศในร้านไม่อึดอัด แต่ก็ไม่ร้อนจากแสงแดดด้วยครับ
เอารูปตัวอย่าง Microsoft Excel บนมือถือมาให้ดูครับ App นี้ เพิ่งจะใช้งานได้ดีในช่วงไม่ถึง 1 ปีนี้เองนะครับ ผมชอบใช้คู่กับปากกา (Samsung Note5) วาดเขียนได้สะดวกมากครับ เหมาะกับคนที่มีงานเยอะๆ ข้อมูลเยอะๆ ครับ วาดเสร็จปุ๊บ เซฟเข้า Dropbox พอนั่งโต๊ะก็เปิดไฟล์ทำงานบน desktop ได้เลย สะดวกมากครับ
มาดูการออกแบบโครงเหล็ก สำหรับหน้าต่างบ้างครับ โจทย์ต้องการหน้าต่างกระจก กรอบเป็นเหล็กอิตาลี design ไม่น่าเบื่อ และต้องการให้ลวดลายเป็นสไตล์เหลี่ยมๆ Abstract หน่อยครับ
ขั้นตอนการออกแบบ
1. เหมือนเดิมครับ ถ่ายรูปหน้าต่างแบบหน้าตรง
2. ออกแบบโครงด้วย Excel วาดเส้นไปๆ มาๆ ตามแต่ที่เราต้องการนะครับ (กว่าจะได้รูปแบบด้านล่าง ใช้เวลาเป็นวันๆ เหมือนกันนะครับ ไม่ง่ายเท่าไร)
3. ทดลองเอาไปใส่ดูของจริงว่าสวยใหม (ใช้ Photoshop ครับ)
4. ให้ช่างทำ เหมือนที่ออกแบบใหมครับ
ข้อคิด-ข้อผิดพลาด
งานหน้าต่างกระจกที่ใช้เหล็กดำและงานเชื่อม ทำเป็นกรอบ แทนการใช้อะลูมิเนียม ยากสุดๆ งานปราบเซียนมากช่างผมแทบจะถอดใจหลายรอบ เพราะเหล็กไม่ได้ยืดหยุ่นแบบอะลูมิเนียม ดังนั้นกระจกต้องตัดแบบได้ขนาดมาก ๆ บวกลบไม่เกิน 1-2 มม.
แถมตัดรูปทรงไม่ได้ฉากแบบนี้ ยิ่งยากสุดๆๆๆ การติดตั้งตัวยึดกระจก ก็ต้องตัดเหล็กเป็นแผ่นเล็กมากๆ ประมาณ 5*10 มม. และเชื่อมติดไปที่มุม (บางมุมก็แหลม บางมุมก็ป้าน) ทั้ง 2 ด้านประกบกระจกไว้ ถ้าช่างไม่มีฝีมือจริงๆ ไม่ทรหดอดทนจริงๆ ไม่แนะนำงานแบบนี้นะครับ โหดมากกกก
เห็นความยากของหน้าต่างด้านหลังแล้ว เลยไม่กล้าออกแบบด้านหน้าเลย สุดท้ายเอาแบบง่ายๆ ธรรมดาดีกว่า เดี๋ยวช่างหนี งานไม่จบอีก
***เทคนิค***
ใส่รายละเอียดให้ครบไว้ในแบบเลย ช่างไม่ทำหาย แบบก่อนหน้านี้ แยกส่วนแบบกับรายละเอียดไว้คนละหน้า ปรากฎว่าช่างทำหาย (ช่างฝีมือดี ราคาถูก งานล้นมือ)
.
งานเดินสายไฟ ไม่ได้จ้าง ผรม. เลยครับ พอดีลูกน้องที่เป็นเชฟทำขนม เคยเป็นลูกมือเดินสายไฟมาก่อน งานนี้เลยต้องเปลี่ยนหน้าที่จากเชฟทำขนม มาเดินสายไฟซะเลย ที่ไม่จ้าง ผรม. งานนี้ สาเหตุเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายก็ส่วนหนึ่งนะครับ
แต่สาเหตุหลักเลยคือ เราเน้นงานนี้เป็นพิเศษ เพราะเพดานส่วนใหญ่ไม่ได้ติดฝ้ายิปซั่ม สายไฟและหลอดไฟต้องเดินลอยทั้งหมด งานเดินสายไฟเลยต้องถือเป็นนางเอกส่วนหนึ่งของร้านด้วย การคุม ผรม.แบบใกล้ชิด ค่อนข้างยาก ไม่เหมือนเราคุมลูกน้องเราเอง
งานเดินสายไฟ ใช้แรงงานหลัก ๆ 3-4 คน ใช้เวลาเกือบ 3 เดือนถึงเสร็จครับ เชฟทำขนม แปรสภาพเป็นช่างไฟชั่วคราว ส่วนปัจจุบันก็แปรสภาพเป็นเชฟครัวอิตาเลี่ยนไปละ
งานเดินท่อร้อยสาย
.
สีท่อร้อยสายแบบเดิมมันดิบๆ ไปหน่อย ดูไม่ค่อยหรูหราสมกับ Themes ร้านส่วนอื่นๆ พ่นสีทับครับ ใช้สีโทน Pink gold เลยครับ ตอนนี้กลายเป็นนางเอกที่ใครมาก็ถามถึงว่าใช้ท่ออะไรร้อยสายไฟ เรื่องสีที่ใช้ ขออนุญาตไม่เปิดเผยเรื่องการลงสีและยี่ห้อนะครับ ขอเก็บไว้เป็นจุดขายบ้างครับ
ใครอยากทำบ้าง แนะนำให้เราลองหาซื้อสีที่เราชอบมาลองพ่นดูครับ ว่าเราชอบแบบใหน เข้ากับ themes ที่เราต้องการใหม
เทคนิคที่เจ้าของบ้านควรทำอีกอย่างในช่วงก่อสร้างคือ ถ่ายรูปแนวท่อน้ำ ท่อสายไฟไว้ด้วย พอเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปี เราจะได้รู้ว่าแนวท่อน้ำเราอยู่ตรงใหนบ้าง เวลาปรับปรุงบ้านใหม่ มีงานเจาะผนัง งานทุบผนัง จะได้ไม่ไปถูกแนวท่อน้ำเรา ไม่งั้นต้องเสียเวลาซ่อมวุ่นวายอีก
*** เทคนิคของผม ***
ถ่ายรูป และเอาใส่ไว้ใน Dropbox ทันที (เก็บไว้ใน Gallery บนมือถือแล้วชอบลืมเอามาเก็บในคอมพิวเตอร์อีกที สุดท้ายก็หาย) สร้างโฟลเดอร์ไว้ต่างหาก “แนวท่อน้ำ” “แนวท่อสายไฟ” เวลาหาก็จะง่ายดี นวัตกรรมเรื่องกล้องถ่ายรูปบนมือถือ และการเซฟไฟล์ผ่าน Dropbox เป็นนวัตกรรมที่ผมชื่นชอบที่สุด เพราะเรียบง่ายและมีประโยชน์มากๆ
ทำร้านอาหาร นอกจากพื้นที่ทำงาน พื้นที่ลูกค้า สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือพื้นที่เก็บวัตถุดิบ และอุปกรณ์ต่างๆ
ของผมเทพื้นส่วนเหนือครัว ถึงแม้เพดานห้องเก็บของจะต่ำไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร เวลาต่อเติมแบบนี้ การออกแบบเรื่องโครงสร้าง ตำแหน่งเสา ตำแหน่งคาน จุดรับแรงต่างๆ อย่าลืมปรึกษาผู้มีประสบการณ์นะครับ
*** ปัญหาที่พบ ***
เพดานสูงพอดีไม่ชนหัว แต่คานต่ำกว่า อยู่ในระดับหน้าผาก ทำงานเพลินๆ ผมชนไปรอบนึงละ หัวปูดไป 3 วัน
เทคนิคการทำงานที่ผมอยากแชร์ก็มีเท่านี้นะครับ ผมไม่ได้ลงรายละเอียดการก่อสร้าง เพราะมีเพื่อน ๆ ในพันธิปรีวิวไว้เยอะละ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้าง แค่รู้งูๆ ปลาๆ เท่านั้น หวังว่าคงมีประโยชน์สำหรับใครบ้างนะครับ
ต้องการติดต่อพูดคุยสอบถาม มี facebook ของร้านอยู่นะครับ “Motana” ครับ รูปสุดท้าย ถ้าเราออกแบบวางผังไว้อย่างดี อุปกรณ์ที่เราใช้งานก็จะถูกวางไว้พอดี ไม่มีพื้นที่ส่วนเกิน และทำให้เราใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดครับ
ที่มา : จางซานฟง