บ้านมือสอง ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดและอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะลดปัญหาเรื่องค่าเช่าบ้าน หรือปัญหาเสียงรบกวนจากคนที่อยู่ในตึกห้องเช่าใกล้ๆ กัน แต่แน่นอนว่าการเลือกซื้อบ้านมือสองราคาประหยัด หนึ่งปัญหาที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยคือสภาพบ้านที่อาจเก่าทรุดโทรมและมีดีไซน์ที่อาจจะไม่สวยถูกใจเราทั้งหมด
แต่สำหรับคุณ Kantaphat K. เลือกที่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ราคาพอเหมาะ เพื่อให้มีงบเหลือมากพอที่จะมาแปลงโฉมบ้านหลังเก่าอายุกว่า 20 ปี ให้กลายเป็น บ้านสไตล์โมเดิร์นรัสติค ทรงสวยโดดเด่น ที่สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ใหญ่อาศัย 8 คนและสุนัขอีก 2 ตัว หน้าตาจะน่าอยู่ขนาดไหน ลองไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ
ประสบการณ์สุดทรหด รีโนเวทบ้านเก่า 20 ปี เป็นบ้านสวน rustic modern ผู้หญิงก็ทำได้ค่ะ
(โดย Kantaphat K.)
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์รีโนเวทบ้านเก่าอายุ 20 ปี เอามาแปลงโฉมเป็นบ้านในฝันของเรากับแฟนค่ะ เอาผลงานมาโชว์เผื่อจะมีใครติดต่อไปลงหนังสือบ้างอะไรบ้าง 555
บ้านหลังนี้เป็นความภาคภูมิใจของเรามาก จากที่แรกเริ่มจ้างบริษัทออกแบบ-ก่อสร้างทั้งหมด แต่พอเจอผู้รับเหมาโกง เงินหมด จึงลงมือควบคุมดูแลเอง จนถึงขั้นลงมือก่ออิฐฉาบปูนเองเลยทีเดียว รีโนเวทบ้านหลังนี้ใช้เวลาประมาณ 18 เดือน ร้องไห้หลายครั้งแต่ก็ฟันฝ่าอุปสรรคจนสำเร็จ
โอเคค่ะ เราขอจั่วหัวกระทู้ด้วยภาพ Before After ก่อนนะค่ะ แล้วเดี๋ยวเล่าในความเห็นถัดไปค่ะ
.
เริ่มด้วยการที่เราและครอบครัวอยากจะขยับขยายบ้าน จึงหาบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่โดยมีโจทย์ดังนี้
1. เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 150 ตรว.
2. ต้องมี 6 ห้องนอน (สมาชิก 8 คน + น้องหมา 2 ตัว)
3. จอดรถได้ 5-6 คัน
4. งบไม่เกิน 15 ล้านบาท (รวมตกแต่งภายใน)
ด้วยโจทย์ที่มีบ้านโครงการใหม่ๆ ในละแวกเทพารักษ์ ศรีนครินทร์ บางนา คือหาไม่ได้เลยค่ะ ข้อ 1-3 ยังพอหาได้ แต่มันจะมาติดก็ข้อ 4 เรื่องงบของเรานั่นเองค่ะ ที่หาได้ก็ 25 ล้านอัพ เป็นตัวเลขที่จับต้องไม่ได้เลยสำหรับเรา สุดท้ายก็ต้องตัดใจจากบ้านใหม่…โครงการหรู…สโมสรสวย…
หลังจากนั้นเราก็เริ่มมองหาบ้านมือสองที่ราคาถูกลงมาหน่อย แล้วตั้งงบรีโนเวทบ้านไว้ด้วย ตั้งใจว่าราคาบ้านบวกรีโนเวทจะต้องอยู่ใน 15 ล้าน
หาอยู่พักนึงก็เจอบ้านเก่าหลังนึงอยู่ในหมู่บ้านนะคะ อายุบ้านประมาณ 20 ปี เนื้อที่ 172 ตรว. สภาพก็โทรมพอสมควร แต่ก็โชคดีมากเพราะเจ้าของเก่าอยากขายด่วนเลยได้ราคาถูกกว่าราคาตลาดเมื่อเทียบกับหลังอื่นในหมู่บ้านเดียวกัน เลยพอเหลืองบไปรีโนเวทเยอะอยู่
เรามาดูรอบๆ บ้านก่อนรีโนเวทกันค่ะ
ปล.ภายในสภาพเก่าโทรมเรียกได้ว่าต้องรื้อทำใหม่หมด เราลืมถ่ายภาพไว้ค่ะ
.
.
.
.
.
.
เริ่มด้วยการออกแบบบ้าน จ้างสถาปนิกออกแบบให้ค่ะ แต่พอได้ลงมือก่อสร้างจริงๆ แบบก็ไม่นิ่งนะคะ มีปรับ-เปลี่ยน เพิ่ม-ลดจากแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงบประมาณที่ถูกจำกัดลงหลังจากโดน ผรม. ทิ้งงานค่ะ
.
.
.
.
ในช่วง 6 เดือนแรกของการรีโนเวท เราก็เข้ามาดูบ้านวันละ 2-3 ชม. มาแทบจะทุกวัน ค่อยๆเห็นความคืบหน้า
แต่ก็เป็นความคืบหน้าที่ช้าเกินกว่าจะทันตามกำหนดที่ระบุในสัญญา บริษัทรับเหมาที่เราว่าจ้างเหมือนจะมีปัญหาในการความคุมคนงาน เพราะคนงานชอบอู้ หัวหน้างานที่เฝ้าไซต์ก็ไม่ค่อยจะเข้มงวด เราคิดว่าด้วยเหตุนี้ทำให้ค่าแรงบานปลาย
จนวันนึงบริษัทมาขอให้เราจ่ายเงินเพิ่ม โดยอ้างว่าคิดค่าแรงต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งทางเราไม่โอเคอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างระบุอยู่ในสัญญา มีการแจกแจง BOQ โดยละเอียด เมื่อเราไม่ให้เงินเพิ่มตามที่ขอ ทาง ผรม. จึงหยุดการทำงาน
มีการแจ้งความไกล่เกลี่ยกัน แต่เราก็เป็นฝ่ายเสียหายอยู่หลายแสนบาท การก่อสร้างหยุดชะงักเป็นเวลากว่า 4 เดือน
เพราะเราไม่สามารถหา ผรม.ที่ทำต่อในงบที่เรามีเหลืออยู่ได้
.
.
.
.
ในช่วงที่งานก่อสร้างหยุดชะงัก เราก็พยายามหา ผรม.มาต่อให้จบ แต่เวลา ผรม. เจ้าใหม่มาดูหน้างานเคา้มักจะพูดว่า
“งานเก็บขี้ ไม่ค่อยมี ผรม. คนไหนอยากทำ ถ้าทำก็ต้องคิดเงินเผื่อในส่วนที่มองไม่เห็นว่าเจ้าก่อนหมกเม็ดอะไรไว้บ้าง”
ท้ายที่สุดเราตัดสินใจไม่จ้าง ผรม. รายเดียว แต่เปลี่ยนเป็นการว่าจ้างช่างรายวัน และช่างเหมางานสโคปเล็กๆ
และเราเป็นคนควบคุมดูแลความต่อเนื่องของงานเองทั้งหมด การหาช่างก็ไม่ได้หากันง่ายๆ เราอาศัยไปสิงสถิตอยู่ตาม community ของช่างก่อสร้างตาม facebook ดูผลงาน แล้วค่อยเรียกมาคุยราคา จากที่ไม่เคยมีความรู้ เราก็ศึกษาในอินเตอร์เน็ท จนตอนนี้พอจะรู้ขั้นตอนการทำงานเยอะพอสมควร
บ้านก็ค่อยๆ ออกมาเป็นรูปเป็นร่างตามแบบ
.
.
.
.
.
.
มีช่วงที่ไม่มีช่าง ในช่วงที่ตังไม่พอ เพราะต้องหมุนเงินในธุรกิจ เรามองสภาพบ้านกับหนี้ก้อนโตแล้วร้องไห้บ่อยมาก
เราลงมือทำเองในส่วนที่จะทำได้เพื่อลดค่าใช้จ่าย ครอบครัวเราก็มาช่วยกันหลายๆอย่าง สู้ได้เพราะครอบครัวนี่แหละค่ะ
.
.
สภาพบ้านตอนเสร็จ เราแฮปปี้มาก ค่อนข้างสวยเหมือนแบบ 3D มีบางอย่างต้องลดต้นทุนใช้วัสดุที่ถูกลง ทำให้บ้านสวยน้อยลง แต่ถึงยังไงก็….ดูรวมๆ แล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน 5555
บ้านเสร็จก็จ้างช่างบิ้วอิน ส่วนนี้ทีแรกก็หวั่นๆ ว่าจะโดนโกงอีก เพราะค่าบิ้วอินก็เฉียดล้านอยู่ แต่ถือว่าโชคดีเจอช่างบิ้วอินที่ทำงานดี ทำงานจบแฮปปี้มากค่ะ (งานบิ้วอินต่อ คห.ถัดไป)
งานสุดท้ายคือลงมือจัดสวน ตอนแรกจะไปจ้างเค้าทำเพราะไม่มีความรู้อะไรเลย แต่ไปสอบถามราคาค่าทำสวนมาแล้วหนาวเลยทีเดียว เนื่องจากพื้นที่สวนค่อนข้างใหญ่เกือบ 100 ตรม.
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุมก่อสร้างบ้านก็ทำมาแล้ว ทำสวนเองด้วยเลยละกัน เริ่มจากร่างแบบเอง ซื้อต้นไม้เอง จ้างคนงานมาปลูกต้นไม้ อาศัยดูรูปจาก pinterest มาปรับใช้ สุดท้ายก็ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
เริ่มจากห้องนั่งเล่น/รับแขกที่ทำเพดานสูงเกือบ 4 เมตร เป็นจุดเด่นของบ้าน และเตาผิงหลอกสำหรับวาง TV ที่เราออกแบบเองเพราะอยากได้เป็นการส่วนตัว
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องอาหาร และส่วนเตรียมอาหาร (ครัวไทยแยกออกมาต่างหาก)
.
.
.
.
งานตกแต่งภายในส่วนของห้องนอนก็ได้ตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ เรียบๆแต่เน้นฟังก์ชั่น
.
.
.
ทำบ้านหลังนี้กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทรหดมากสำหรับผู้หญิงคนนึง แต่มันก็ทำให้เราเรียนรู้อะไรมากขึ้น ทันคนมากขึ้น และก็อึดมากขึ้นด้วย ถึงขั้นคุยกับแฟนว่าจะไปรับเหมาก่อสร้าง เพราะในความเหนื่อย มันมีความสุขที่ได้เห็นผลงานจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
สุดท้ายละ ขอจบด้วยภาพบ้านตอนกลางคืน ภาพนี้ถ่ายตอนตรุษจีนที่ผ่านมานี้เองค่ะ ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หลังจากนี้ขอให้มีแต่โชคลาภด้วยเทิดดดดดด
ที่มา : หมอนทองสองใบกับใจเหงาๆ .