ห้องครัวเก่าๆ ที่มีอายุการใช้งานมานานหลายสิบปี เมื่อถึงเวลาอันควรก็น่าจะทำการรีโนเวทเสียหน่อย ดีกว่าทนใจครัวเดิมๆ ที่ฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันสักเท่าไหร่ ดีไซน์ก็ดูจืดชืดน่าเบื่อ แถมสภาพก็ยังทรุดโทรมหม่นหมองอีกต่างหาก
วันนี้ ในบ้าน จะพาชาวเว็บไปชมการรีโนเวทห้องครัวของคุณ nothing easy กันครับ เป็นห้องครัวที่สร้างตั้งแต่สมัยคุณแม่ยังเป็นวัยรุ่น ถูกจับมาตบแต่งใหม่ กลายเป็นครัวโมเดิร์นขาวดำสุดทันสมัย แถมช่างก็เก็บงานได้เนี้ยบเป็นที่น่าพอใจอีกด้วย ใครที่มีครัวเก่าแล้วอยากได้ใหม่ ลองมาชมเป็นแนวทางกันเลยจ้า
เปลี่ยนครัวเก่ารุ่นคุณแม่ เป็นครัวโมเดิร์นทันสมัย งานดีมีความละเอียด ดีไซน์เนี้ยบน่าใช้งาน
(รีวิวโดย nothing easy)
บ้านเราวางแผนกันที่จะรีโนเวทครัวหลังปีใหม่กัน เคยไปดูชุดครัวสำเร็จหลายๆที่ก็ยังไม่ลงตัว ถูกใจเรา ไม่ถูกใจแม่ ถูกใจพี่ ไม่ถูกใจเรา วนๆเวียนๆกันอยู่อย่างนี้ =_= เลยตัดสินใจกันว่าจะให้ช่างเฟอร์มาบิ้วท์อินแทนค่ะ
โจทย์ของเราคือ เราอยากได้ชุดครัวแนวโมเดิร์น คุณแม่อยากได้ที่เก็บของเยอะๆ ส่วนพี่ชายเราชอบโทนขาวดำค่ะ
หลังจากหาช่างกันอยู่นาน ก็ได้ช่างเฟอร์ที่คนรู้จักแนะนำมาค่ะ นัดกันมาวัดพื้นที่ คุยเรื่องแบบ เสนอราคา เซ็นสัญญา จ่ายเงินมัดจำและลงมือบิ้วท์จนเสร็จงาน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง (รวมงานอื่นด้วยค่ะ)
มาดูรูปกันดีกว่าเนอะ รูป before ค่ะ เสียดายมากๆ ถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ทัน T^T เราโผล่มาอีกทีก็รื้อครัวชุดเก่ากันเกือบเสร็จแล้ววว
ครัวชุดเก่าก็ใช้จนปลวกขึ้นด้านหลังหมดเลย หลังจากรื้อครัวออกตอนเช้า ก็ให้ช่างมารื้อกระเบื้องต่อช่วงบ่ายเลยค่ะ
จากนั้นก็ปูกระเบื้องต่อจนมืดค่ำ สำหรับเรา อยากแนะนำว่าควรจะให้ช่างจบงานตอนเย็นนะคะ ถ้าไม่เสร็จให้มาต่อพรุ่งนี้เช้าแทนดีกว่าค่ะ เพราะเวลากลางคืนบวกแสงไฟสีส้มของบ้าน มันทำให้เราเห็นงานไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เช้ามาเราเห็นกระเบื้องไม่เรียบร้อยหลายแผ่นเลยทีเดียว มีทั้งเบี้ยว ทั้งบิ่น เก็บยาแนวไม่หมด ก็ตามมาแก้งานกันไปค่ะ
จากนั้นก็มาต่องานไฟ ในภาพช่างกำลังเจาะเพื่อฝังรางไฟเข้าไปในผนังค่ะ
ช่วงบ่ายโครงชุดครัวเข้ามาติดตั้ง ในภาพเป็นโครงไม้อัดนะคะ ช่างเฟอร์แนะนำว่าชุดครัวควรใช้ไม้อัด มันจะดีกว่าไม้ mdf หรือปาติเกิ้ล (ถ้าเทียบกันระหว่าง 3 ตัวนี้นะคะ) เพราะจะแข็งแรงและทนทานกว่า ซึ่งราคาก็ต่างกันพอสมควรค่ะ T^T
ผนังกับฝ้าทาสีขาวอมเทานิดๆ งานนี้ลงมือลงแรงกันเองค่ะ เราช่วยกันกับพี่สองคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายพี่มากกว่าค่ะ ตอนทาสีก็ไม่ได้ปูพื้นให้ดีๆ สีกระจายเป็นเม็ดเล็กๆเต็มพื้นเลย T^T เราต้องมานั่งขูดนั่งถูให้อีก มันเหนื่อยนะเห้ยยยยพี่ชาย
จะเห็นว่าหน้าบานยังไม่ได้ติดเลย แต่ติดท๊อปหินแกรนิตแล้ว เพราะหน้าบานกับด้านข้างเราทำเป็นสีไฮกลอสค่ะ ช่างบอกว่าขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก จะใช้เวลานานนิดนึง เลยให้ช่างหินมาติดตั้งให้ก่อน จะได้ให้เราปูกระเบื้องที่ผนังต่อได้ค่ะ
ช่างหินแนะนำเราว่า หินที่นิยมใช้มีมาจากประเทศจีนกับอินเดียค่ะหินจากอินเดียจะมีคุณภาพดีกว่าจีน เห็นลวดลายชัดและแข็งแรงกว่า ราคาก็ต่างกันไม่มาก สรุปก็ อินเดีย..เราเลือกนาย!!
อีกวันเราก็นัดพี่กระเบื้องมาปูผนังค่ะ ช่างเข้ามาช่วงบ่าย เห็นกระเบื้องที่แหว่งๆนั่นมั้ยคะ ช่างกระเบื้องทิ้งงานค่ะ จู่ๆ ก็บอกว่าเมื่อคืนนอนดึก ง่วงนอนไม่ไหวแล้ววว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาทำต่อ ปรากฎว่าอีกวันก็หายไปเลย เหลืออีกนิดเดียวเองงงเง้อ
สุดท้ายเลยฝากให้พี่ช่างเฟอร์ช่วยหาให้ แต่ก็หายากเย็นเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ เพราะมันเหลืออีกแค่นิดเดียวเองงง (ปล.ไม่อยากจะบอก คุณแม่ให้ช่างวางกระเบื้องสลับแบบนี้ แต่เราเห็นแล้วแอบอยากขัดใจเบาๆ =_= แต่ก็มิกล้า)
ก่อนบานตู้จะมาติดตั้ง ก่อนคุณแม่จะลงแดง ไม่ได้ทำกับข้าวมาหลายวัน ไม่ลงไม่รอแล้วค่า เรากลับบ้านมาก็ตามภาพเลย ช่างมาทีก็เอาออกที ช่างกลับไปก็เอามาวางไว้เหมือนเดิม =_=
หลังจากรอมา 2 วัน บานตู้ก็มาแล้วค่า ช่างมาถึงก็รุมคนละไม้คนละมือ 2 คนติดตั้งบาน อีกคนเก็บรายละเอียด อีกคนเก็บสี ดูแล้วก็เพลิดเพลินดีค่ะ
เก็บสีๆ
ทดสอบๆ
เก็บงานๆ
ทยอยติดมือจับ
ติดฟอร์เมก้าลายขนแมวสีดำที่ขอบด้านล่างตู้
เปลี่ยนบัวพื้นจากสีน้ำตาลเป็นสีขาว
และแล้วพี่ช่างปูกระเบื้องคนใหม่ก็มาเก็บงานที่เหลือให้
เสร็จแล้วค่ะ
Before
After
Before
After
Before
After
สุดท้ายเราให้พี่ช่างทำกล่องครอบเครื่องทำน้ำอุ่นให้ค่ะ แต่พี่เค้าว่าแถมมม^^
สรุปว่าคุณแม่เห่อและแฮปปี้กับครัวใหม่มากค่ะ ส่วนเราค่อนข้างพอใจกับช่างเฟอร์ชุดนี้เลยทีเดียว ช่างสุภาพและเก็บงานละเอียด แม้ว่าจะมีช้าไปบ้าง แต่งานออกมาเรียบร้อยค่ะ
ที่มา : nothing easy