ห้องคอนโดที่เราซื้อมาใหม่ๆ อาจจะมีดีไซน์ที่เรียบๆ ดูน่าเบื่อ จำเจและดาษดื่น สิ่งที่หลายคนมักจะทำก็คือการตกแต่งใหม่ ซึ่งในสมัยนี้ การตกแต่งสไตล์ลอฟท์ที่เน้นผนังปูนเปลือย ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในการทำนั้นก็จะต้องจ้างช่าง แต่หากเรามีการวางแผนและแนวทางที่ดี เราก็อาจจะสามารถลงมือทำเองโดยประหยัดงบในการจ้างช่างฝีมือก็ได้
คราวนี้ ในบ้าน ก็จะพาชาวเว็บไปชมการตกแต่งคอนโดสไตล์ลอฟท์ ของคุณ แจ๊สสีฟ้า กันครับ เป็นการตกแต่งด้วยตัวเองแบบไม่พึ่งช่าง โดยใช้งบประมาณไป 100,000 บาท เนรมิตรจากห้องคอนโดเดิมๆ กลายเป็นห้องลอฟท์ผนังปูนเปลือยสุดเท่ที่น่าอยู่สุดๆ ลองมาชมกันเลยครับว่าทำได้สวยงามกันแค่ไหน
มือใหม่ก็ทำได้!! ตกแต่งคอนโดสไตล์ลอฟท์ ทำผนังปูนเปลือยด้วยตัวเอง กับงบประมาณ 1 แสนบาท
(โดย แจ๊สสีฟ้า)
สวัสดีครับ เนื่องจากช่วงนี้กระแสซื้อคอนโดปล่อยเช่ากำลังอินเทรนด์ ประกอบกับช่วงต้นปีมีมาตรการรัฐออกมา Developer ก็อัดโปรโมชั่นกันสุด ๆ แถมดอกเบี้ยบ้านก็ถูกแสนถูก แล้วทุกหมอดูก็ฟันธงตรงกันหมดว่า ราศีเรานี่แหละดวงดีสุด ๆ หลังจากที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมานานนม ปีนี้มีเกณฑ์จะได้บ้านใหม่ ในเมื่อโอกาสและจังหวะต่าง ๆ ปูทางมาซะขนาดนี้แล้ว จะรออะไรล่ะครับ สรุปว่าก่อนหมดมาตรการรัฐ 1 เดือนก็เร่งดูโครงการรอบกรุง ดูไปดูมาเกิดกิเลสสิครับ เลยได้คอนโดมาครอบครอง 2 ห้อง ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนหมดมาตรการรัฐพอดี
ถามว่าซื้อคอนโดตอนนี้ไม่กลัวฟองสบู่แตก ไม่กลัวไม่มีคนเช่าเหรอ ตอบเลยว่ากลัวครับ แต่สิ่งที่ผมกลัวมากกว่าคือ กลัวว่าตัวเองจะตายไปก่อนที่จะได้ทำสิ่งที่มันเป็นความฝันของเรา ซื้อคอนโดไม่ถึง 2 ล้านบาท ไม่มีคนเช่าไงก็ผ่อนไหวอยู่แล้ว ทำเลก็ไม่ได้แย่อะไร ขายต่อไงก็ไม่ขาดทุน เวลาซื้อรถมาขับไม่เห็นมีใครกลัวขาดทุนเลย
พอวันนั้นมาถึงจริง ๆ วันที่ได้ลงมือแต่งห้องครั้งแรก มันรู้สึกมีความสุข ในแบบที่เกิดมาไม่เคยได้รู้สึกอย่างนี้มาก่อน มันเหมือนเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ มันไม่อยากให้หมดวันไปเลย อยากจะนั่งทำงาน อยู่ตรงนี้ไปทุกเช้าที่ตื่นมา มันเหมือนมีแรงขับ เหมือนชีวิตเรามีคุณค่า เหมือนชาร์จไฟให้ตัวเราเองที่กำลังจะหมดลงให้เต็มจนล้น มีแรงที่จะกลับมาทำงานเดิมที่ทำอยู่ ต่อไปแม้จะไม่ใช่งานที่เรารัก แต่อย่างน้อยเรามีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ใจเรารักแล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ
เอาล่ะบ่นซะยาวมาเข้าเรื่องแต่งห้องเลยดีกว่า ส่วนตัวเจ้าของกระทู้เป็นคนชอบห้องสไตล์ลอฟท์ (Loft) มาก ๆ แต่ห้องนี้ไม่ได้อยู่เอง ดังนั้นจึงตั้งงบทั้งหมดรวมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องไม่เกิน 100,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องได้ห้องที่พอมีกลิ่นอายความเป็นลอฟท์ (Loft) นิด ๆ ผนังปูนเปลือยสวย ๆ โคมไฟเก๋ ๆ เฟอร์นิเจอร์ต้องแนวโลหะบวกกับกระจกเท่านั้น เรามาดูกันซิว่าบทสรุปแล้ว มันจะเป็นยังไงบ้างกับงบที่ตั้งไว้ จะเอาอยู่ไหม?
คอนโดที่ซื้อไว้เป็นห้องสตูดิโอ ขนาดพื้นที่ประมาณ 24 ตารางเมตร แปลนก็ประมาณในรูปครับ
โครงการนี้ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์นะครับ แต่ว่าดูแล้วมันอึดอัดเต็มห้องอย่างที่เห็น
ฝั่งประตูทางเข้ามีตู้เสื้อผ้าขนาด 120 เซนติเมตร ตู้เก็บของขนาด 65 เซนติเมตร ตู้วางทีวีขนาด 170 เซนติเมตร พระเจ้า! จะใหญ่ไปไหน จริง ๆ ที่ใหญ่ เพราะเขารวมเอาโต๊ะกินข้าวมาไว้แล้วเป็นแบบนี้นะครับ พอกางออกมาเป็นโต๊ะ แล้วเอาเก้าอี้พับ (เฉย ๆ) ที่พับเก็บในตู้เก็บของ และม้านั่ง
ส่วนฝั่งซ้ายมือก็มีเตียง โซฟา และโต๊ะกลางแบบในรูป
จริง ๆ โต๊ะกลางมันเปิดได้แบบนี้นะครับ มิชชั่นแรกคือนำเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมา ทั้งตู้เก็บของ 65 เซนติเมตร ตู้วางทีวี 170 เซนติเมตร ออกไปก่อน เพราะมันทำให้ห้องดูแคบ
ต่อมาก็ต้องเริ่มเปลี่ยนผนังกันก่อน
จริง ๆ สีแบบนี้ทาง่ายมากครับ ผมไม่เคยทาสีมาก่อนเลย ลองทา ๆ มั่ว ๆ ปาด ๆ ป้าย ๆ ไป มันก็พอได้อยู่นะครับ อ่อ…แต่ผมไม่ได้ใช้เกรียงที่ให้มาขูดออกนะครับ แต่ใช้วิธีป้ายน้อย ๆ แล้วปาดให้มันบาง ๆ จนสีมันหมด ไม่ต้องขูดออก ประหยัดไปได้เยอะเลยครับ ทั้งห้อง (ประมาณ 20 ตารางเมตร) ใช้แค่ 1 กระป๋องเอง ทาไป 3-4 ชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ ห้องใหม่ไม่ต้องรองพื้นเลย เสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง แล้วทา Clear Coat ให้มันเงา ๆ นิด ๆ ดูแลง่าย ๆ
เนื่องจากว่าห้องนี้มีเสากลาง 2 เสา เลยใช้วอลเปเปอร์ตกแต่งให้ดูมีมิติ (จริง ๆ ไม่มีงบบิวท์อินปิดเสา ฮ่า ๆ ๆ) เสร็จแล้วก็ประมาณนี้นะครับ
ค่าเสียหายส่วนของผนังนะครับ
ต่อมาก็ต้องหาชั้นวางทีวีของใหม่มาแทนของเดิม เพิ่มเติมคือโต๊ะกินข้าวที่หายไป แล้วก็ซื้อตู้แขวนเพิ่มไว้เก็บของ ผมเลือกเป็นตู้ลอยแบบแขวน ตามสไตล์โมเดิร์นและทำความสะอาดง่าย ส่วนตู้วางทีวีอันนี้ได้มาจากอินเด็กซ์นะครับ ขนาด 120 เซนติเมตร เป็นแบบกดแล้วเด้งออก ไม่มีมือจับครับ
ส่วนตัวชอบกระจกครับ เลยเลือกท็อปโต๊ะกินข้าวเป็นกระจก ขาโต๊ะโครเมียม ส่วนเก้าอี้ก็เป็นขาเป็นโครเมียมเช่นเดียวกันครับ
ตกแต่งเพิ่มด้วยที่รองจาน แล้วก็พร็อพเล็ก ๆ น้อย ๆ
ส่วนตู้ด้านบนขนาด 180 เซนติเมตร เป็นกระจกสีชาปิดทับด้วยไม้ รวม ๆ ออกมาแล้วก็ประมาณนี้ครับ
ค่าเสียหายครับ
ต่อมาในส่วนของห้องนั่งเล่นนะครับ เล็ง ๆ โต๊ะกลางกระจกสีชาไว้ แต่พอไปเดินดูราคาแทบช็อกเพราะเกือบหมื่น เลยลอง ๆ ไปดูในอินเทอร์เน็ต เจอมาตัวหนึ่งราคา 1,800 บาทครับ สภาพก็โอเค เจ้าของเดิมซื้อมาน่าจะใหญ่เกินไป เลยอยากเปลี่ยนใหม่
ส่วนข้าง ๆ เป็นผนังที่ติดแอร์ เพิ่มลูกเล่นด้วยกระจกเงาสี ๆ เพิ่มมิติให้ห้องดูกว้างขึ้น
จริงๆ ถ้าติดหมดทั้งผนังจะสวยมาก แต่ตอนนี้งบหมด ขอมโนไปก่อนนะครับ ฮ่าๆๆ
Before
After
ค่าใช้จ่าย
ห้องนอนก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่ติดผ้าม่านโปร่งและทึบแสง ตกแต่งบริเวณหัวเตียงเพิ่มเติมนะครับ
ค่าใช้จ่าย
ห้องครัวก็ไม่มีอะไรมากครับ เพราะทางโครงการเขาบิวท์อินมาให้แล้ว มีแค่ติดโมเสกเพิ่มนะครับ ในรูปยังไม่ได้ยาแนวนะครับ พอดีรอปูนแห้ง
ค่าใช้จ่าย
ห้องน้ำไม่มีอะไรมากครับ ติดแค่ผ้าม่าน
ค่าใช้จ่าย
ระเบียงครับ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ไม่เกินงบครับ (อันนี้ไม่มีค่าแรงนะครับ เพราะเจ้าของกระทู้ทำเองหมดเลย)
ขอบคุณที่ติดตามชมนะครับ
ที่มา : แจ๊สสีฟ้า