วิถีชีวิตคนเมือง ที่ต้องวนเวียนอยู่กับความพลุกพล่านและวุ่นวายของผู้คน รวมไปถึงการจราจรที่ติดขัดและมลภาวะทางอากาศและเสียง อาจนำพาให้เรารู้สึกเบื่อหน่ายได้ แต่หากมีสถานที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัวแสนสบายล่ะก็ ไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองก็คงจะได้ผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว
เหมือนกับคอนโดสุดหรูของ คุณเอส สมาชิกเว็บไซต์ Pantip.com ที่ได้ทำการแต่งให้เป็นสไตล์เซนญี่ปุ่นแบบของแท้ ดูสวยแบบร่วมสมัย ปลอดโปร่งโล่งสบาย ได้บรรยากาศผ่อนคลายเต็มที่ แถมยังมีฟังก์ชั่นครบครันอีกด้วย เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยแท้ครับ ลองไปชมกันได้เลย
Review : แต่งคอนโดในฝันสไตล์เซนญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ฉบับมนุษย์เงินเดือน
(โดย คุณเอส)
เปลือยหมดเปลือก… ไอเดียแต่งคอนโดให้กลายเป็นญี่ปุ๊นนนนญี่ปุ่นตามแบบฉบับ ZEN แท้ๆ (เรื่องดี๊ดี… มีไว้แชร์กัน)
สวัสดีครับ… ก่อนอื่นขอแนะนำตัวนะครับ ผมชื่อเอส เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่เรียนจบและใช้ชีวิตการทำงานย่านใจกลางเมืองมาร่วมสิบปีแล้ว โดยกิจวัตรประจำวันของผมคือต้องขับรถไปกลับบ้านและที่ทำงานวันละหลายชั่วโมง ทุกๆเช้า ผมจะต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อหนีปัญหารถติด เมื่อตำแหน่งเติบโตขึ้น หน้าที่การงานก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หลายครั้งผมต้องทำงานจนดึกและต้องกลับถึงบ้านด้วยสภาพไม่ต่างจากซอมบี้ แถมคืนวันศุกร์ต้องไปแฮ้งค์เอ้าท์สังสรรค์กับเดอะแก๊งค์หลากหลายกลุ่มหลังเลิกงานอีก บอกตรงๆเหนื่อยสุดใจครับ แต่ทำไงได้ มันเป็นไลฟ์สไตล์ที่ผมชอบ คงจะถึงเวลาที่ผมต้องจัดการเปลี่ยนแปลงตารางการใช้ชีวิตตัวเองกันใหม่ซักที
เมื่อกลางปีที่ผ่านมาผมเลยตัดสินใจย้ายการใช้ชีวิตเข้ามาอยู่ในเมือง แบบในเมืองจริงๆนะครับ โดยมองเป็นทาวน์โฮมหรือคอนโดมิเนียมซักแห่ง ที่อยู่ในเส้นสุขุมวิท สาทร อโศก สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งขับรถ ก็ต้องมีทางด่วนหรือออกได้หลายเส้นทาง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT เพราะวันที่เร่งรีบผมก็สามารถกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซด์แล้วต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เลย ผมใช้เวลาตัดสินใจเปรียบเทียบหลายที่หลายโครงการ ข้อดีข้อเสียต่างกัน ไหนจะเรื่องราคาที่รับได้กับตำแหน่งวิวห้องที่ได้ ส่วนกลางที่โครงการให้จนสุดท้ายมาตกลงที่โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ของ AP ซึ่งห้องที่ผมซื้อนั้นเป็นห้องหัวมุมสุดทางเดินติดบันไดหนีไฟ ชอบเลยเพราะตำแหน่งห้องไม่ติดกับใครเลย ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัวมากจริงๆ ได้ชั้นที่สูงด้วยครับ ชั้น 26 ขนาด 64 ตารางเมตร แบบแปลนคือ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
ทำเลใกล้กับ BTS สถานีพระโขนง แหล่งฝรั่งฮิปสเตอร์และชาวญี่ปุ่น ^^ มีตลาดและความสะดวกครบ และที่สำคัญช่วยผมประหยัดเวลาในแต่ละวัน ลดค่าน้ำมันรถและค่าฟิตเนสแต่ละเดือนไปได้มากเลยครับ ขอขอบคุณภาพจาก http://www.apthai.com
เมื่อตกลงปลงใจซื้อห้องที่นี่แล้ว ผมก็ตื่นเต้นมากๆ กับการคิดเรื่องการออกแบบตกแต่งห้อง ให้เข้ากับ Lifestyle เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่และสำคัญมากเพราะผมต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกนานนนนนนน ผมจึงต้องหาสไตล์การตกแต่งในแบบที่ตัวเองชอบจริงๆและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าของห้องผมด้วย ที่สำคัญคือ Interior Design นี้สามารถอยู่ไปได้นานโดยที่จะไม่รู้สึกเบื่อขึ้นมากลางคัน หรือแม้เวลาผ่านไปก็ไม่รู้สึกว่าเชย จึงต้องเลือกสไตล์ที่ตัวผมเองชอบมากที่สุด โดยตั้งโจทย์กับตัวเองว่าต้องเป็นแบบเรียบๆ สีเอิร์ธโทน นวลๆสบายตา โล่งโปร่ง ไม่มีของเกะกะ มองแล้วสงบเหมือนได้พักผ่อน ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ เรียกได้ว่าไปเที่ยวเมืองนอกทุกๆ Quarter ก็ว่าได้ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่สไตล์การออกแบบนั้นเป็นที่หนึ่งไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ผมมีโอกาสตระเวนไปพักตามเรียวกังต่างๆหลายที่ ถ่ายรูปเก็บไว้มากมายเป็นไอเดีย จนตัดสินใจว่าจะตกแต่งห้องเป็นสไตล์ญี่ปุ่นในแบบที่ผมชอบ ใช้วัสดุไม้เป็นองค์ประกอบหลัก เรียบง่าย นิ่งๆ สีสันไม่ฉูดฉาด เป็นแบบโมโนโทน มองแล้วรู้สึกสบายตา ทุกพื้นที่ห้องสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นด้วย ภาพห้องเปล่าสีขาวที่ผมตรวจรับเรียบร้อยแล้ว กับพี่ๆที่โครงการ น่ารักมากๆ
และแล้วปฎิบัติการตกแต่งบ้านหลังน้อยๆของผมก็เริ่มขึ้น โดยผมจ้างเพื่อนสนิทกันเป็นผู้ออกและ Build-in ให้ทั้งหมดครับ (ถ้าชอบก็ติดต่อหลังไมค์ได้ครับ ^^) โดยที่ผมเล่าไอเดียของผมผ่านรูปจาก Pinterest เป็นห้องตกแต่งต่างๆ บอกสิ่งที่อยากจะได้ในแต่ละโซนของห้อง รวมทั้งแนบบรรดารูปถ่ายเรียวกัง บ้านแต่งสไตล์ Modern Japanese และของแต่งญี่ปุ่นต่างๆที่ผมชอบ เพื่อให้เห็นภาพจริงโดยรวมของคอนเซ็ปต์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากห้องโล่งๆสีขาวโพลน กำลังจะเริ่มต้นการตกแต่งแล้วนะครับ… #เฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น ภาพ 3D Perspective ที่อินทีเรียดีไซน์เนอร์ออกแบบให้ พร้อมกับมา Present ที่หน้างานกับผมว่าแต่ละจุดจะ Production แบบไหน ตามแต่ละฟังค์ชั่นของแปลนห้องที่ลงตัวเป็นสัดส่วนอยู่แล้ว ผมพอจะเริ่มเห็นภาพรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้นละครับ
ใช้เวลาในการตกแต่งราว 1 เดือนครึ่งครับ ทั้ง Furniture Build-in, ติด Wallpaper, มูลี่ไม้ 4 จุดหลัก, ยกซุ้มประตูและเปลี่ยนแผ่นผิวหน้าบานประตูทุกบาน รวมเวลาเก็บงาน แก้ไขส่วนเล็กๆ น้อยๆ ตามหน้างานครับ ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ลอยทั้งหมด ผมก็สั่งซื้อเอาที่เข้า set และ concept ของห้องโดยรวม กว่าจะเลือกได้ครบทั้งหมดเล่นเอาหอบเลยครับ ของใช้ในห้องส่วนใหญ่จะไปเลือกที่ MUJI เพราะมันเข้ากันสุดๆ เพื่อให้ได้ความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ของตกแต่งมาจากร้านญี่ปุ่นมือสองในเมืองไทย ร้านลุงเคนจิ ตลาดพระปิ่น 3 และร้านใน Facebook ครับ หลายท่านคงรู้จักดี
ภาพช่างรับเหมาขณะตกแต่งห้อง อยากบอกว่าห้องขาวๆของผมดูมอมแมมมากๆ >_<
จนสุดท้ายแล้วความฝันของผมก็เป็นความจริงจนได้ เหมือนภาพทุกอย่างที่อยากจะได้ในหัวผมถูกดึงออกมาเป็นความจริง ในส่วนของห้องนอนเล็ก ผมออกแบบให้เป็นห้องทำงานและไว้เก็บของ พร้อมตู้รองเท้าขนาดใหญ่ เหมาะกับคนชอบซื้อรองเท้าแบบผม555
ห้องนอนใหญ่ดูเรียบง่าย ปล่อยโล่ง เพื่อไว้พักผ่อนจริงๆ เตียงยกสูงจากพื้นเพื่อให้ดูโปร่งและทำความสะอาดง่าย ใช้มู่ลี่ไม้ได้อารมณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆ พอปิดทึบก็มึดสนิดเลย แบ่งส่วน Walk-in Closet ชัดเจน ก่อนเข้าส่วนของห้องน้ำโดยใช้พาร์ทิชั่นกั้นแบบประตูบานเลื่อนญี่ปุ่น ช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปด้วย
ห้องนั่งเล่นและห้องครัวแบบ Built-in ใช้วัสดุไม้เป็นพระเอกของห้อง ตัดกับสีเทาอ่อนของ Wallpaper ทำให้ห้องเป็นสไตล์โมโนโทน สร้างความเรียบง่ายและดูสบายตามากๆ เหมาะแก่การพักผ่อน พื้นที่ของส่วนห้องรับแขกใช้พรมจาก MUJI เป็นตัวแบ่งโซน พร้อมเบาะนั่งกับชุดโต๊ะญี่ปุ่น
ในส่วนของซุ้มประตูทำสูงจรดเพดานทั้งหมดโดยเดินไม้เป็นขอบเส้นเพื่อสร้างมิติให้ห้องดูสูงโปร่ง แล้วติดผิวหน้าโดยใช้ลามิเนตไม้รุ่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งห้องครับ
ปิดท้ายกระทู้ด้วยภาพวิวพาโนรามาสวยๆ จากระเบียงห้องชั้นสูงวิวสวย อิอิ ของผมเองครับ อยากบอกว่าโค้งท้องแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นรูปตัวยู ข้ามฟากไปถึงเวิ้งบางกระเจ้าสีเขียวสบายตาในตอนกลางวัน ยิ่งตอนกลางคืนไฟสวยมากๆจากทางด่วนท่าเรือและโรงกลั่นบางจาก ชมวิวได้ตลอดทั้งวันและทุกเวลาจริงๆครับ พอมองออกไปแล้วรู้สึกผ่อนคลายจากงานเครียดๆ ตอนนี้จัดคิวชวนเพื่อนๆมานั่งดื่มทำอาหารสังสรรค์อยู่ครับ
สำหรับใครที่ชอบการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียดีดีในการแต่งห้องของคุณได้เลยนะครับ ผมยินดีครับ…
ที่มา : คุณเอส