ดอกไม้ทับ อาจจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยทำกันมาแล้ว ด้วยวิธีง่ายๆ ก็คือ เก็บดอกไม้มาสอดทับไว้ในหนังสือ และรอจนเมื่อแห้งดีแล้วเราจะได้ดอกไม้ทับเอาไว้ใช้ตกแต่งโปสการ์ด หรือสมุดบันทึก หรือจะเอาไปประยุกต์ใช้ประดับอะไรก็ได้ เช่น อาจจะนำไปใส่ในกรอบรูปแล้วแขวนตกแต่งผนัง หรือจะเอาดอกไม้ทับแห้งทำเป็นเคสโทรศัพท์ที่เคลือบเรซิ่นด้วยตัวเอง ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาชาวเว็บไปดูขั้นตอนการทำ ดอกไม้ทับแบบนักพฤกษศาสตร์ วิธีการง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน งานนี้สาธิตโดย ดร. เบญญากาญจน์ พงศ์กิจวิทูร จะมาทำให้เราดูว่า การทำดอกไม้ทับแห้งแบบมือโปรนั้นเค้าทำกันยังไง ตามมาดูกันเลยครับ
สิ่งที่ต้องเตรียม
- แผ่นไม้อัดหรือกระดานไม้ไซส์กะทัดรัด (ตัวอย่างของเราวันนี้เป็นแผ่นไม้ขนาด A4) หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์เครื่องเขียน 2 แผ่น
- กระดาษลูกฟูกหรือกระดาษลังใช้ระบายอากาศและความชื้นออกจากดอกไม้ ให้แห้งไว ไม่ขึ้นรา 2 แผ่น
- กระดาษหนังสือพิมพ์ ใช้รองดอกไม้ มีไว้เยอะหน่อยจะเป็นการดี
- คลิปหนีบกระดาษ ที่ใช้หนีบแผ่นไม้ได้ 2 แผ่น
- หนังยาง 2 เส้น
วิธีทำ
1. อันดับแรกให้วางแผ่นไม้เป็นฐานล่าง จากนั้นวางกระดาษลูกฟูกรองลงไป และวางกระดาษหนังสือพิมพ์ให้อยู่บนสุด โดยหนึ่งดอกจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์พับครึ่ง 2 ชิ้น วางให้แผ่ออกโดยมีส่วนที่ซ้อนกัน (เดี๋ยวเราจะพับ 2 ส่วนนั้นเข้ามากันอีกที)
2. จัดรูปทรงดอกไม้ตามต้องการ วางลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เตรียมไว้ และใช้เทปกาวแปะให้ดอกไม้ติดกับกระดาษหนังสือพิมพ์ ถ้ามีส่วนที่หนาไม่เท่ากันหรือดูแล้วเป็นร่องๆ (เช่นส่วนของดอก) ให้ตัดกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นชิ้นเล็กๆ โปะทับส่วนนั้นไว้อีกนิดเพื่อช่วยหนุนให้เรียบ
3. พับกระดาษหนังสือพิมพ์ส่วนที่เกินออกจากแผ่นไม้เข้าหากัน (ถ้าอยากทับดอกไม้เพิ่ม ให้ทำซ้ำขั้นตอนการวางดอกไม้นี้ได้อีกตามชอบ) เมื่อได้ดอกไม้ในจำนวนที่ต้องการเรียบร้อย ให้เอาดอกไม้ที่เตรียมไว้ในกระดาษหนังสือพิมพ์มาวางซ้อนกัน จากนั้นนำกระดาษลูกฟูกมาปิดทับ ตามด้วยแผ่นไม้ที่เหลือปิดทับเป็นชั้นบนสุด
4. รัดทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยหนังยาง ปิดหัวท้ายด้วยคลิปหนีบกระดาษจากนั้นนำแผงนี้ไปตากแดด ทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นลองเปิดเช็กเป็นระยะ ถ้ายังชื้นอยู่ให้แกะออกมาเปลี่ยนลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ชิ้นใหม่และทับไว้อีกซักคืนก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทั้งทำง่าย แถมได้ดอกไม้แห้งสวยๆ เอาไว้ใช้เป็นของตกแต่งหรือของฝากด้วย งานนี้ไม่ต้องใช้สมุดหน้าเหลืองหรือสมุดเล่มหนาๆ กันแล้ว ลองเอาไปทำกันดูนะ
ที่มา : A day Magazine