การทอดไข่เจียวอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าอาหารพื้นๆอย่างไข่เจียว กลับมีศิลปะอันลึกซึ้งที่มีความซับซ้อนอยู่พอสมควร
ทางทีมงานได้ไปเจอเทคนิคการทอดไข่ซึ่งน่าสนใจตรงที่เอาหลักวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง แต่จะอร่อยและฟูสู้ฝีมือแม่บ้านเว็บนี้ได้ไหมต้องลองเอาไปทำดูนะครับ
สุดยอด!! การทอดไข่ตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้ได้ไข่เจียวฟูแน่นอน
นักวิศกรกลุ่มหนึ่งได้พยายามค้นหาวิธีการเจียวไข่ให้ฟูฟ่อง น่ารับประทาน และนี่คือขั้นตอนและผลการทดลองครับ
1. เติมน้ำลงไปในอัตราส่วน 12.865 ซีซี ต่อไข่ไก่มวล 2.86792 กรัม หรือประมาณ 2.653 ฟอง (ก็เติมไปนิดนึงประมาณช้อนชาต่อหนึ่งฟองนั่นแหละ)
2. หลังจากนั้นก็ตีไข่ ให้ตีด้วยเครื่องปั่นที่ความเร็ว 1200 รอบต่อวินาที เป็นเวลา 1 นาที หรือถ้าใช้ส้อม ก็จะเป็น 2608.50 ทีต่อชั่วโมง เพื่อให้อะตอมของน้ำแทรกซึ่มเข้าไปในอนูของไข่อย่างเต็มที่ จากนั้นรีบเทส่วนผสมลงไปในกะทะที่น้ำมันที่กำลังเดือดปุดๆ ณ อุณหภูมิประมาณ 1250.75 องศาฟาเรนไฮต์
3. ด้วยอุณภูมิความร้อนดังกล่าว จะทำให้อะตอมของน้ำทำปฏิกิริยาคาโรแดนโนโทรฟี่ไดแอ็คโครโรซีนิกส์กับน้ำมัน ทำให้อะตอมของน้ำเกิดการระเหยอย่างฉับพลันหรือที่เรียกกันว่า แอนฟี่ไออ้อน ไตรแซ็คนีเฟียส ทันทีที่มีอะตอมของน้ำระเหย จะดันอะตอมของไข่ไปรอบๆตัวมัน ผลก็คือ เกิดการพองเป็นเม็ดๆ ไปทั่วไข่
4. การพองดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยังกะปฏิกิริยานิวเคลียร์ ทำให้ไข่ฟูฟ่องเต็มกระทะ น่ากินยิ่งนัก
5. ผลการทดลองสำเร็จไปด้วยดี แต่เกิดผลข้างเคียงจากการผสมน้ำลงไปในไข่นั่นคือ เกิดแก๊สอโลม่าซานโฟนิออสโพรฟิเนคีติ ซึ่งค่อนข้างมีกลิ่นหืนน้อย จึงได้เติมน้ำมะนาวลงไปปริมาณ 5.006 ซีซี หรือ 1/6 ผล
6.ผลปรากฏว่า ไข่เจียวมีกลิ่นหอมน่าทานเป็นยิ่งนัก จึงได้มีการเผยแพร่เคล็ดลับนี้ตามสถานีข่าวและเว็บไซต์ชั้นนำของโลก จนเป็นที่กล่าวขวัญมาจวบจนทุกวันนี้
ป.ล. อธิบายง่ายๆจบในสองบรรทัด คือ ใส่น้ำเปล่าและบีบมะนาวใส่เล็กน้อยตอนที่ตีไข่ เอาไปทอดในน้ำมันร้อนจัด ใช้กะทะก้นลึก หรือถ้าเป็นหม้อได้ยิ่งดี ไข่เจียวฟูฟ่องแสนอร่อยก็ทำได้ไม่ยากแล้วครับ ^_^”
ที่มา : นสพ.มติชน