สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในหลายๆ ประเทศที่มีคนไทยไปอยู่อาศัย และทำงานเป็นจำนวนมาก หลายๆ คนมีโอกาสไปพบรัก และสร้างครอบครัวอยู่ที่นั่น ทำให้การมองหาบ้านสักหลังเพื่อรองรับสมาชิกครอบครัวเป็นเรื่องที่ยากที่จะเลี่ยงได้
วันนี้ ในบ้าน จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม ประสบการณ์ซื้อบ้านจัดสรร ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นข้อมูลดีๆ ให้กับเพื่อนๆ ที่อาศัยอยู่ในอเมริกา หรือมีแพลนที่จะไปอยู่อาศัยในระยะยาว โดยประสนการณ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องราวของคุณ อี่น้องคนงาม ลองไปชมกันได้เลยครับ
ประสบการณ์ซื้อบ้านจัดสรรที่อเมริกา
(โดยคุณ อี่น้องคนงาม)
สวัสดีค่า วันนี้อยากจะมาเม้าท์มอยตามประสาคนเพิ่งซื้อบ้านใหม่ พูดง่ายๆ ว่าอวดค่ะ ไม่มีอะไรมาก ตื่นเต้นมากซื้อบ้านหลังแรก ต้องบอกก่อนว่า เรามาอเมริกาด้วยโครงการออแพร์ตั้งแต่ปี 2008 มาเจอสามีที่ฟิลลี่ เพนซิลเวเนีย ต้นปี 2010 แล้วแต่งงานกันหลังจากคบกันได้สามเดือนค่ะ แต่ก็อยู่กันมาแปดปีแล้วค่ะ
พร้อมลูกอีกสองคน ก่อนหน้านี้ก็อยู่บ้านที่แม่สามีให้เช่าค่ะ คือแม่สามี มีบ้านสองหลัง หลังแรกคือบ้านที่คุณตาของสามีสร้าง อายุบ้านก็ประมาณ 60 ปีค่ะ คุณแม่ให้เราเช่าอยู่ เป็นหลังเล็ก ชั้นเดียว สามห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ ชั้นใต้ดินที่ใช้ไม่ได้เพราะมันชื้นมากและต้องซ่อมอย่างแรง
ไม่มีเครื่องซักผ้า เพราะระบบเสีย ไม่ได้ซ่อมซักที ต้องไปซักผ้าบ้านแม่สามี ทำแบบนี้มาแปดปีค่ะ ทรหดมาก ต้องขนผ้าทั้งบ้านไปซักบ้านเค้าอาทิตย์ละครั้ง
ทีนี้พอลูกเริ่มโต บ้านก็เริ่มคับแคบขึ้น เราก็เลยมองดูบ้านหลังใหม่ มีหลังนึง เรากะสามีชอบมาก เป็นบ้านมือสอง สภาพใหม่ หลังคาใหม่ อยู่หลังโรงเรียนลูกพอดี ทำเลดี แต่การจะซื้อบ้านก็ใช่ว่าจะเดินดุ่มๆ เข้าไปดูบ้านได้เลย เราก็ควรมี realty ของเราก่อนเพื่อช่วยเราในเรื่องการดำเนินการและเอกสารต่างๆ
มีคนที่โบสถ์เราทำงานนี้อยู่และแม่สามีเราก็แนะนำ เลยใช้บริการจากบริษัทเธอ แต่…ช้าไปค่ะ บ้านที่เรากะสามีชอบโดนสอยไปแล้ว เราเลยต้องหาใหม่ ทีแรกก็คุยกะสามีไว้ว่าดูไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เอาที่ชอบจริงๆ ก็ดูไว้หลายที่เลย แต่คือดูในเวปและที่ realtor ส่งลิ้งค์บ้านต่างๆ มาให้ดู
จนมาถึงบ้านที่ตกลงจะซื้อค่ะ ก็คือเปิดผ่านๆ ไปดู เป็นหมู่บ้านจัดสรรในทำเลที่ชอบ คือเราแค่อยากได้บ้านที่หลังใหญ่กว่าเดิม แต่ไม่ได้อยากย้ายไปเมืองอื่นไปเลย เอาที่ใกล้ๆกับบ้านหลังเก่า ก็หมู่บ้านนี้ก็ห่างจากบ้านเก่าไปประมาณ 5 นาทีขับรถเท่านั้น เรากะสามีเลยไปดู เค้ามี open house ก็ไปดู บ้านหลังโอเคเลย มีหลายแบบ หลายราคาให้เลือก เราเลยบอก realtor ว่าชอบบ้านของหมู่บ้านนี้ เค้าก็จัดการนัดกับฝ่ายบริษัทของหมู่บ้านนี้ให้
ก่อนหน้าที่จะไปคุย เรากะสามีก็เข้าไปดูเวปหมู่บ้าน ดูแบบบ้านรูปแบบต่างๆพร้อมราคา ซึ่งก็มีทั้งบ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น สำหรับครอบครัวเราต้อง สองชั้น อย่างน้อยสามห้องนอนและสองห้องน้ำค่ะ ก็ได้มาแบบนึง ราคาโอเค
วันที่เข้าไปคุย เค้าก็ให้ดูว่ามี lot ไหนบ้างที่ยังไม่ได้ขาย ฝ่ายเราก็บอกไปว่าอยากได้บ้านแบบไหน พอดีว่าฝ่ายหมู่บ้านมีแพลนจะสร้างบ้านแบบนี้อยู่แล้ว แต่จะอัพเกรดเยอะแยะเลย พอเอาให้เรากะสามีดู ซึ่งบางอย่าง เราสองคนก็ไม่อยากได้ ทางฝ่ายหมู่บ้านก็โอเคให้เราปรับเปลี่ยนได้ เรากะสามีชอบมาก คุยกันครึ่งชั่วโมง ตัดสินใจจองเลยค่ะ วางเงินจอง $5,000
นี่คือแบบบ้านค่ะ พื้นที่รวมทั้งบริเวณคือ 12,286 ตารางฟุต พื้นที่ใช้สอยบ้าน 1,920 ตารางฟุตค่ะ
จากที่คิดว่าจะใช้เวลาดูบ้านไปเรื่อยๆ สรุป ใช้เวลาแค่สามอาทิตย์ในการซื้อบ้านค่ะ นับจากตั้งแต่วันที่ติดต่อ realtor แต่คือหมู่บ้านนี้ขายดีมาก ถ้าไม่รีบจองก็อาจจะไม่ได้แล้ว แถมเค้าบอกมาว่า จะเริ่มสร้างบ้าน phase ที่ 4 บ้านแบบเดิม แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นอีกหมื่นถึงสองหมื่นเหรียญเลย
พอวางเงินจอง เซ็นต์เอกสารเบื้องต้นว่าตกลงซื้อบ้านหลังนี้แล้ว เรากะสามีก็ขับมาดูที่ค่ะ ตื่นเต้นสุดๆ
เป็นดินๆ หินๆ กองๆ ไว้ อีกอาทิตย์นึงมาดูอีกรอบ ขุดชั้นใต้ดินแล้ว
มาต่อที่รูปชั้นใต้ดินค่ะ ก่อกำแพงแล้ว
.
มาที่รูปบริเวณที่จอดรถค่ะ จอดได้สองคัน
.
เริ่มปูพื้นบ้านค่ะ ตอนที่ยังไม่มีผนังบ้าน รู้สึกว่าพื้นที่ใช้สอยในบ้านไม่กว้างเลยค่ะ แต่พอก่อผนังปุ้บ ดูมีพื้นที่ใช้สอยเยอะเลย สังเกตบ้านข้างๆก็เริ่มสร้างแล้วค่ะ
.
อันนี้ drive way ค่ะ
เริ่มก่อผนังชั้นล่างแล้วค่ะ
มาดูด้านในกันค่ะ อันนี้ living room
Step to upstairs ค่ะ ต้องจินตนาการนิดนึงนะคะ
ตรงนี้จะเป็น kitchen, mud room, half bath
อันนี้ living room, dining area
รูปนี้คือ study room
.
เริ่มสร้างชั้นบน
ทำหลังคาและเริ่มปูหลังคา
.
ลืมบอกไปนะคะ ว่าพอเราจ่ายค่าจองบ้านแล้ว ก็ต้องเข้าไปคุยกับผู้รับเหมาเรื่องสีบ้าน หลังคา หน้าต่าง ทุกอย่างค่ะ เลือกกันวันนั้นเลย จากนั้นก็ต้องไปติดต่อกับร้านขายเตาครัว ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน อันนี้เราเอาตามมาตรฐานที่ทางผู้รับเหมาจัดให้ค่ะ (ราคาบ้านรวมอุปกรณ์เหล่านี้แล้ว)
จ่ายเพิ่มนิดหน่อยเปลี่ยนจากเตาไฟฟ้า เป็นเตาแก้สค่ะ แล้วก็ไปคุยกับร้านทำ cabinet ค่ะ บ้านที่เราซื้อเค้าจัดแบบอัพเกรดมาให้ ก็เอาตามนั้นค่ะ จะได้มีตู้ครัวเยอะๆ อิอิ ในส่วน kitchen counter ตอนแรกว่าจะเอาหินแกรนิต แต่สู้ราคาไม่ไหวค่ะ แพงมากเลยเอาเป็นแบบธรรมดามา เลือกลายคล้ายๆ แกรนิตหน่อย ไว้อีกหน่อยมีตังค์ค่อยเปลี่ยนค่ะ
หลังคาเสร็จแล้วค่ะ หน้าต่างก็มาแล้ว
.
Front porch
บันไดมากับชั้นสองมาแล้ว
.
.
Master bathroom and walking closet ของเราค่ะ อิอิ นางแบบในรูป แม่ จขกท เองค่ะ พามาแอ่วที่เมกา หลักๆ คือช่วยเราดูลูกค่ะ เพราะเราต้องไปเรียน
อันนี้มุมจากบนบ้านค่ะ มองลงมา รถคันนี้ ชื่อ orange juice ค่ะ ลูกเราตั้งชื่อเอง
.
.
เริ่มใส่ siding แล้ว
.
ด้านนอกเสร็จแล้ว
.
พอเค้าใส่ประตูบ้านกับประตูโรงรถ เราก็เข้าไปดูในบ้านไม่ได้แล้วค่ะ นอกเวลาทำงานเค้าล้อคไว้ อันนี้ถ่ายจากหน้าต่าง
.
.
แต่ว่า สามีเราหยุดทุกศุกร์ พอเป็นเวลาทำงาน ก็สามารถเข้าไปดูในบ้านได้ค่ะ แค่อย่าไปจับ ไปแตะอะไร อันนี้คือ dining area, living room
Laundry
ห้องของสองลิง
.
อันนี้ห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวและ walking closet
.
ส่วนนี้ เค้าเรียก mud room ค่ะ ติดกับประตูออกไปโรงรถ เป็นพื้นที่เล็กๆ ไว้แขวนกุญแจ เสื้อหนาว ใส่-ถอดรองเท้า ด้านหลังเป็น half bath ค่ะ คือมีแต่ชักโครกกับอ่างล้างหน้า
Kitchen
.
ในส่วนห้องอาบน้ำบนบ้าน มีสองห้อง เป็น double sink ทั้งสองห้องค่ะ อัพเกรดมากับบ้าน
ปูพรมบ้านแล้วค่ะ ตอนแรกเราไม่ชอบเลยที่ปูพรมตรงบันได แต่พอย้ายมาได้ไมี่กี่อาทิตย์ น้องเพลงตกบันไดค่ะ ชีจะกระโดดลงแล้วขาพันกัน ดีว่ามันเป็นพรมเลยเจ็บไม่มาก
.
.
ปลูกต้นเรดเมเปิ้ลหน้าบ้าน
สนามหลังบ้าน
.
วันรับมอบบ้านค่ะ 26 ตุลา 2018
.
.
ติดไฟ พัดลมในliving room
โต๊ะกินข้าว เป็นหินแกรนิตหุ้มไม้ค่ะ ราคาดีมากกก $800 ค่ะ พร้อมเก้าอี้อีกหกตัว
ซื้อ entertainment center ใหม่ค่ะ $139 จากวอลมาร์ท ห้างอารมณ์บิ้กซีบ้านเรา
นำเสนอเตียงนี้ค่ะ ซื้อจาก ikea ชอบมาก เป็นเตียง twin size with pull over extra bed ค่ะ
.
.
.
สรุปราคาบ้านทั้งหมดก็ 262,xxx เหรียญค่ะ มีค่า HOA (home owner associates) ปีละ $75 ถ้าจะทำอะไรกับบริเวณบ้าน เช่นสร้างรั้ว ทำราวตากผ้า หรือ ติดตั้ง shedding บริเวณสนามหลังบ้าน ต้องทำเรื่องขอไปก่อนค่ะ
มาเพิ่มแปลนบ้านให้ดูกันนะคะ ตัวบ้าน
ชั้นล่าง
ชั้นบน
ตัวบ้านรวมที่ดินทั้งหมด
ชั้นใต้ดิน
ที่มา : อี่น้องคนงาม .