สภาพอาคารเก่าๆ ของตึกแถวกลางเมืองหลายแห่ง นอกจากจะทรุดโทรมใกล้พังแล้ว ยังมีดีไซน์ที่ค่อนข้างจะล้าสมัย คงจะดีไม่น้อยหากได้มีการรีโนเวทให้เป็นตึกสวยๆ และถ้ามีการตกแต่งดีๆ ล่ะก็ อาจจะทำให้ตึกของเรากลายเป็นแลนด์มาร์กก็เลยก็เป็นได้
คราวนี้ ในบ้าน จะพาไปชมรีวิวการรีโนเวทตึกแถวเก่าอายุกว่า 30 ปี ให้กลายเป็นบ้านฮิปสเตอร์สุดหรู ของคุณ asahi dry ซึ่งมีอาชีพเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน โดยการรีโนเวทนี้ใช้งบประมาณไป 1.5 ล้านบาท ผลลัพธ์ที่ได้นั้นต้องขอบอกเลยว่าน่าประทับใจสุดๆ ครับ อยากรู้ว่าสวยแค่ไหน ต้องลองไปดูกันเลย
รีโนเวทตึกแถวเก่าโทรมๆ อายุกว่า 30 ปี ให้กลายเป็นบ้านฮิปสเตอร์สุดเนี้ยบ
(โดย asahi)
ต้องออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็นรีวิวแรกครับเกี่ยวกับการรีโนเวทตึกแถวซึ่งก็คือบ้านหรือเรือนหอของผมและภรรยานั่นเอง
ที่จริงอยากทำนานแล้วแต่เพิ่งมีเวลามานั่งถ่ายรูปจัดบ้านใหม่ให้สวยงามเพราะทำบ้านเสร็จมา 2 ปีแล้ว
แต่ช่วงนี้ออกจากงานประจำแล้วรับฟรีแลนซ์เลยมีเวลามากขึ้นเพราะงานน้อยลง 555
ตัวผมเองมีอาชีพเป็นมัณฑนากรอยู่แล้วหรือInterior designer นั่นเอง
เพราะฉะนั้นเรื่องออกแบบตกแต่งภายในนั้นเป็นงานถนัดอยู่แล้วเพราะทำอยู่ทุกวัน
ตัวอาคารเดิมค่อนข้างเก่าน่าจะ 30-40 ปีมาแล้ว
เป็นรูปที่ถ่ายในซอยเนื่องจากหารูปก่อนรีโนเวทไม่เจอแต่ตึกแถวในซอยก็หน้าตาเหมือนๆกันหมด
และระบบน้ำ ไฟฟ้า เก่ามากจึงต้องการรื้อใหม่ทั้งหมด
ส่วนภายนอกก็อยากให้มีระแนงมาปิดด้านนอกเพื่อบังสายตาจากตึกฝั่งตรงข้ามและลดความร้อนจากแสงแดดในตัว ประมาณนี้ (ภาพจาก Pinterest) จึงเริ่มต้นออกแบบภายนอกใหม่ให้มีระแนงครอบ และกันสาดที่ดูโมเดิร์น ประตูหน้าบ้านออกแบบให้เป็นประตูไมเพราะไม่ต้องจอดรถในบ้าน และอยากได้อารมณ์เหมือนบ้านยุโรปนิดๆ ประมาณนี้
หน้าต่างเดิมก็เจาะช่องใหม่ให้ลงถึงพื้นเพื่อให้ดูโปร่งขึ้น
ของเดิม
ของใหม่ขยายเต็มช่อง
ทำกันสาดใหม่ด้วยโครงเหล็กดีไซน์เรียบกรุแผ่นโพลีสีเทาดำ
หน้าบ้านเดิมที่เป็นประตูเหล็กแบบตึกแถวทั่วไป
ก็เปลี่ยนเป็นประตูไม้บานคู่มีซุ้มปูนและไฟสไตล์ยุโรปแบบนี้ตามที่ออกแบบไว้
โดยรวมออกมาเป็นแบบนี้ครับ
แตกต่างจากบ้านข้างๆอย่างสิ้นเชิงเหอๆๆ
ถ่ายจากดาดฟ้าตึกตรงข้าม
ระหว่างทำแบบด้านนอกก็มีการเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ สุดท้ายจึงมีกระจกมาแทรกระแนงอลูมิเนียมบางส่วนให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น
ค่าระแนงอลูมิเนียมชุดนี้ไม่รวมกันสาดประมาณ 50,000 บาท เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้คงเกือบแสนละมั๊ง
ตอนกลางคืนเปิดไฟบ้าง
ภายนอกก็มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวมาดูในบ้านกันบ้างว่าจะเปลี่ยนไปได้ขนาดไหนกัน
มาดูภายในกันบ้าง
ชั้น 1 โถงทางเข้า/ห้องนั่งเล่น/ห้องน้ำ
การเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ
-เปลี่ยนประตูทางเข้า
-กั้นห้องติดแอร์เนื่องจากเข้ามาจะเป็นโถงสูง 2 ชั้น
-ขยายห้องน้ำด้านหลังบ้าน
-กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซั่มเพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์
โถงทางเข้าชั้น 1 เดิมตึกนี้ถูกใช้เป็นโกดังมาก่อน
หลังรีโนเวท ผ่างงงงงงง
พื้นทั้งหมดปูกระเบื้องใหม่หมดฝ้าบางส่วนก็กรุยิปซั่มทำฝ้าเรียบ กั้นห้องเพื่อติดแอร์
เข้ามาในบ้านซ้ายมือก็เป็นผนังตกแต่งมีเตาผิงปลอมที่ออกแบบให้เป็นตู้เก็บพวกถุงเท้า
และบรรดาของตกแต่งที่ผมชอบเปลี่ยนไปตามเทศการต่างๆ
*ดอกไม้แห้งพวกยิปซี ยิปโซ เป็นเคล็ดลับที่ทำให้บ้านดูดีขึ้นได้ในราคาไม่แพงและอยู่ได้นาน
มุมจากชั้นลอยมองลงไปโถงทางเข้าเดิม
ผ่างงงง ผนังที่กรุเพิ่มเพื่อซ่อนสายไฟต่างๆและตกแต่งด้วยกรอบรูปแบบวินเทจ และหัวกวางที่อุตส่าไปหิ้วมาจากจีน
หัวกวางเป็นไอเทมที่ จขกท มีความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว อิอิ
การให้แสงสว่างไม่ต้องมาจากดาวน์ไลท์เสมอไป Chandelier และไฟติดผนัง เป็นตัวช่วยให้บรรยากาศบ้านดีขึ้น
ฝั่งขวามือจากทางเข้าก็เป็นตู้รองเท้าและที่แขวนกุญแจ
ประตูหน้าบ้านและเหล็กดัดสั่งทำตามแบบให้ดูเข้ากับส่วนอื่นๆของบ้าน การเลือกมือจับก็เป็นสิ่งสำคัญ
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตูเหล็กเดิม
หลังรีโนเวท ผ่างงงงง !!!
กลายเป็นห้องนั่งเล่นและรับแขกและมีการเสริมพื้นชั้นลอยให้ยื่นออกมาเยอะขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทานอาหาร
ฝ้าห้องนี้จะเตี้ยเป็นพิเศษเนื่องจากโครงสร้างเดิมตึกเก่าๆจะเตี้ยและแคบมาก
ตกแต่งด้วยการแขวนกระจกเงาให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกนิดนุง
และเพิ่มหมอนบนโซฟาให้ดูน่านั่งๆนอนๆมากขึ้นแต่ต้องเลือกสีให้เข้ากันนะ
ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆจะเป็นตัวช่วยให้ห้องน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ใช้แสงจากโคมไฟหลายๆจุดเป็นตัวเสริมบรรยากาศห้องบางครั้งแทบจะไม่ต้องติดดาวไลท์เลย
หมอนบางใบก็เลือกให้มี Texture บ้างแต่คุมโทนสีให้เข้ากัน
ชั้น Built-in เพื่อให้ลงล็อกกับ space พอดีถ้ากลัวจะรกให้หากล่องมาใส่ของเอา
โคมไฟหน้าตาเก๋ๆอีกจุด
กรอบรูปหลายๆขนาดเอามาวางพิงกำแพงไว้ก็ได้ไม่ต้องแขวนเสมอไป
*เคล็ดลับ รูปสวยๆที่จะใส่กรอบบางทีรูปอาจจะเป็นแค่ตัวหนังสือนิ่งๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปวิวมาใส่กรอบเสมอไปเพราะทำให้เชยได้
ชั้นลอย ห้องทานอาหาร/Pantry/ครัว
-ขยายพื้นชั้นลอยให้กว้างขึ้น
-ทุบผนังกั้นห้องด้านหลังทำสเต็บขึ้นเนื่องจากความสูงต่างกัน 37 ซม.
-เจาะช่องหน้าต่างด้านหลัง
ชั้นลอยเดิมที่กั้นห้องส่วนที่ต่อเติมเอาไว้ซึ่งความสูงของพื้นต่างกันถึง 37 ซม.
หลังรีโนเวท ผ่างงงงงงง ทลายผนังออกและเปลี่ยนเป็นครัวที่รับแสงยามเช้า
มุมมองจากโต๊ะกินข้าวไปส่วน Pantry
ด้านหลังโต๊ะกินข้าวมีตู้ไว้เก็บของต่างๆที่รกๆได้ มีไรยัดใส่ตู้ไว้ก่อน
ตู้จีนดู Antique ซึ่งตั้งอยู่ตรงผนังที่เน้นให้สีเข้มกว่าตู้ทำให้ตู้ดูเด่นมากขึ้น
นั่งกินข้าวก็มองลงไปที่โถงทางเข้าชั้น 1 ได้
มุมแพนทรีจัดของให้เป็นระเบียบของที่ไม่ค่อยสวยก็จับใส่ตู้หรือโหลให้เรียบร้อย
ตู้ไม้ข้างไมโครเวฟนั่นก็ถูกดัดแปลงเป็นตู้ยาสามัญ
ที่เก็บขนมปังก็ถูกดัดแปลงเป็นที่เก็บช้อนส้อมให้เรียบร้อย
*ของกระจุ๊กกระจิ๊กพวกนี้ จขกท ค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆไม่ได้ซื้อมาในทีเดียวกันบางชิ้นก็ไปเจอที่ร้านขายของแต่งบ้านที่ญี่ปุ่นก็อุตส่าไปหิ้วมาเพราะราคาไม่แพง เห็นแล้วบางทีอยากจะยกมาทั้งร้านอย่างตู้เก็บขนมปังนี่ราคาไม่น่าเกิน700บาทถ้าจำไม่ผิดครับ
จิบชาหน่อยมั๊ย
ส่วนครัวก็เก็บของใส่ตู้เป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อย
*เคล็ดลับถ้าทำบ้านใหม่ควรเลือกชุดจานชามให้เป็นแบบเดียวกันให้หมดเพื่อความสวยงาม
ถ้ากลัวเลือกไม่ถูกก็เอาขาวล้วนหรือดำล้วนไว้ก่อนเพราะอยู่ได้กับทุกสี ดีกว่าไปเลือกลายมิกกี้เม้าไม่เข้ากับอะไรเลยนะครับ
ก่อนจะมาเป็นครัวแบบนี้
ส่วนเตาแก๊สและเตาอบเล็กๆ ใต้เตาแก๊สใช้เป็นผ้ารูดเพื่อซ่อนถังแก๊สแต่ต้องเลือกผ้าที่ลายเข้ากันกับห้อง
รวมถึงผ้าเช็ดมือด้วย ในเคสนี้คือเลือกสีเขียวเข้ากับสีกระเบื้อง
อุปกรณ์ครัวก็ควรเลือกให้เข้าชุดกันทั้งหมด
ดอกไม้แห้งช่วยคุณได้
ครัวเป็นครัวที่ทำจากปูนตามสไตล์ครัวไทยที่ต้องการความแข็งแรง แล้วกรุด้วยกระเบื้อง ส่วนหน้าบานแบบนี้เลือกซื้อสำเร็จได้ตามโฮมโปรราคาไม่แพงครับ
หมดละครับชั้นลอย เดี๋ยวมาต่อกันที่ชั้น 2 ห้องนอนนะครับ
ชั้น 2 ห้องนอน/ห้องแต่งตัว/ห้องน้ำ
-ขยายห้องน้ำ / ย้ายตำแหน่งสุขภัณฑ์ แบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง
-ปรับทิศทางบันไดเนื่องจากการขยายห้องน้ำทำให้ทางเดินแคบลง
-กั้นห้องนอนและห้องแต่งตัว
-ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน
-กรุผนังบางส่วนให้หนาขึ้นด้วยยิปซั่มเพื่อซ่อนสายไฟและท่อแอร์ ห้องน้ำรูหนูและบันไดเดิมๆแบบตึกแถวสแตนดาร์ด
พอขยายห้องน้ำจึงต้องปรับทิศทางบันไดใหม่แบบนี้
ราวกันตกก็เปลี่ยนใหม่หมดเป็นราวเหล็กนิ่งๆเรียบๆทาสีดำและเจาะช่องหน้าต่างใหม่เป็นทรงยาวๆแสงเข้าตอนเช้าๆสวยงาม
เปิดประตูเข้าห้องนอน ใช้ประตูไม้กรุกระจกฝ้า พื้นในส่วนนอนเปลี่ยนเป็นพื้นไม้จริงเพื่อให้ได้สัมผัสที่สบายเท้า
ส่วนแต่งตัวเน้นลิ้นชักเพื่อเก็บของเยอะๆ และหน้าบานตู้เสื้อผ้ากรุด้วยกระจกเงาเพื่อใช้ส่องไปในตัวเนื่องจากที่แคบมาก
ชุดหน้าต่างเดิมในห้องนอน
ขยายหน้าต่างให้เต็มที่เพื่อความโปร่งโล่งสบาย ผ่างงงงงง
การเลือกผ้าปูสำคัญมาก ควรเป็นโทนสีที่เข้ากันแต่มีโทนเข้มอ่อนต่างกัน
ตกแต่งหัวเตียงด้วยกระจกเงา หรือจะเป็นกรอบรูปก็ได้และเน้นผนังด้วยสีเข้ม
ข้างเตียงเสริมผนังเพิ่มขึ้นมาด้วยยิปซั่มบอร์ดเพื่อซ่อนสายไฟและติดโคมไฟหัวเตียง
การที่ไม่เห็นสายไฟเดินยั๊วะเยี๊ยตามผนังเปนสิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านสไตล์นี้ดูสวยขึ้น
ม่านห้องนอนควรมีม่านโปร่งและม่านทึบ
เตียง โต๊ะหัวเตียง ตู้วางทีวี เข้าเซตกันทั้งหมดและราคาไม่แพงจาก Ikea อยู่ที่การจัดการกับสิ่งรอบข้างให้เข้ากันทั้งหมดก็ทำให้ห้องดูดีได้ด้วยของที่ราคาไม่แพง
ห้องน้ำเน้นเรียบๆแบ่งส่วนแห้ง/เปียกชัดเจน กระจกเงาเป็นตู้เก็บของต่างๆได้และมีชั้นวางหนังสือ
จขกท ชอบอ่านการ์ตูนตอนนั่งส้วม 55
ชั้น 3 ห้องทำงาน/ห้องน้ำ
-กั้นห้องใหม่ด้วยชุดอลูมิเนียมสีดำและประตูกระจกใสให้ดูโปร่งสบาย
-ขยายห้องน้ำและเปลี่ยนทิศทางบันได
-ขยายชุดหน้าต่างหน้าบ้าน เปิดประตูเข้าห้องทำงานก็จะเจอส่วนนั่งเล่นก่อน
ห้องทำงาน จขกท ตั้งใจจะประหยัดงบจึงเปลี่ยนแนวออกแบบให้ดูโมเดิร์นเรียบๆมากกว่าและดูดิบๆอย่างสายไฟก็เดินในท่อโชว์ให้เห็นไปเลย ฝ้าเพดานก็เปิดหมดเห็นท้องพื้นชั้นบนเพื่อเพิ่มความสูงของห้อง
เหล่าบรรดากรอบรูปและหัวกวางที่ค่อยๆหาซื้อมาเติมเรื่อยๆ
หน้าต่างใหม่เต็มบานทำให้ห้องดูโปร่งน่านั่งทำงานมากขึ้น
เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดในห้องใช้ของ Ikea รุ่นที่ราคาไม่แพงทั้งสิ้นเช่นโซฟา 2,900 บาทแถมกางออกเป็นเตียงได้
ตู้ไม้พันกว่าบาทถ้าจำไม่ผิด ขาโต๊ะ 800 บาท2ขา Topโต๊ะสั่งทำพิเศษไซส์ใหญ่ 3000 บาท โต๊ะกลางตรงโซฟา 300 บาท ชั้นสังกะสีวางอุปกรณ์โมเดล 700 บาท สรุปราคาเฟอร์นิเจอร์ทั้งห้องถูกกว่ากีต้า 1 ตัวอีกครับ555
ห้องนี้ไม่ได้ติดดาวไลท์เลยครับใช้ไฟจากโคมห้อยเพดาน 2 ดวงเท่านั้นและถ้าเป็นโต๊ะทำงานและมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือก็จะมีโคมไฟตามจุดที่จะต้องใช้งาน
โต๊ะทำงานปกติไม่เรียบร้อยขนาดนี้นะครับ นี่จัดเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ555 ปกติต้องมี Com อย่างน้อย 2 เครื่อง
มุมกิจกรรมยามว่าง กีต้าร์และอุปกรณ์ต่อโมเดล
ชั้นวางของก็หากล่องหรือลิ้นชักเสริมมาจัดเก็บของให้เป็นหมวดหมู่เพื่อทำให้ห้องไม่รก
แสงยามบ่ายในห้องทำงาน
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ติดบันไดก็อยากเปลี่ยนแนวให้เป็นสไตล์ Toscana ที่ดูอิฐๆหยาบๆหน่อยเลยออกมาเป็นแบบนี้ ผนังปูนนี่ช่างฉาบไว้ไม่ดีอยู่แล้วเลยเข้ากับแนวซะงั้นต้องดูหยาบๆหน่อย 555
ส่วนชั้น 4 นั้นใช้เป็นห้องเก็บของจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรแค่กันห้องใหม่และทาสีเท่านั้นรวมๆแล้วงบประมาณทั้งหมดน่าจะประมาณ 1.5 ล้านบาท ถ้าจำไม่ผิด
คร่าวๆคือ
-ค่าเดินระบบน้ำและไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด
-ทาสีทั้งภายในภายนอก
-ทุบรื้อและก่อผนังใหม่+ผนังเบายิปซั่มบอร์ด
-ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม+ชุดเหล็กดัดมุ้งลวดใหม่
-ระแนงหน้าบ้าน+กันสาด
-ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
-ปูกระเบื้องทั้งหลัง พื้น+ผนัง
-เฟอร์นิเจอร์ Built-in และ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวทั้งหมด
-สุขภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด
ซึ่ง 1.5ล้านนั้นเป็นการจ้างช่างแต่ละส่วนแยกๆมาไม่ได้จ้างเป็นผู้รับเหมา เราจึงต้องเป็นคนคุมงานเองและคอยซื้อของเองซึ่งจะเหนื่อยมาก และที่สำคัญไม่เสียค่าออกแบบเนื่องจากออกแบบเองทั้งหมด ซึ่งถ้าเป็นกรณีคนปกติที่ต้องจ้างผู้รับเหมาและคนออกแบบก็ตีไปว่าน่าจะอยู่ที่ 2 ล้านกว่าบาทซึ่งเป็นราคาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วครับ
สุดท้ายบ้านจะน่าอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยนะครับ จขกท ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับบ้านที่ตัวเองอยู่นะครับ
เจ้าตัวนี้นอนเฝ้าหน้าบ้านทุกวัน
*เพื่อนๆ ชาวเว็บที่สนใจงานตกแต่งภายในแบบนี้และต้องการว่าจ้างงานออกแบบภายใน จัดสวน หรืองานรีโนเวทออกแบบต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้จากที่มาด้านล่างนี้เลยนะครับ
ที่มา : asahi dry
Facebook : KIRIN design&living
Website : KIRIN