สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหรือเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโด ก็ควรทำความรู้จักกับที่อยู่อาศัยชนิดนั้น ๆ ก่อนทำการตัดสินใจซื้อให้ดีก่อน
โดยเฉพาะคอนโดที่เป็นที่อยู่อาศัยยอดนิยมของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก แต่เชื่อว่าคงมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่าคอนโดก็มีการแยกประเภทเป็น High Rise และ Low Rise
ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคอนโด High Rise และคอนโด Low Rise ว่าแตกต่างกันอย่างไร
คอนโด High Rise คืออะไร?
คอนโด High Rise คือ คอนโดที่มีความสูงมากกว่า 23 เมตร หรือมีจำนวนชั้นมากกว่า 20 ชั้นขึ้นไป โดยคอนโดประเภท High Rise นั้นจะต้องติดกับถนนที่มีความกว้างมากกว่า 10 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนั้นคอนโด High Rise ยังเปิดรับวิวภาพแบบพาโนรามาที่สามารถมองได้จากมุมสูง แถมยังไม่มีสิ่งก่อสร้างมาบดบังทัศนียภาพอีกด้วย นอกจากนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่มีความหลากหลายไว้คอยให้บริการผู้อาศัย สามารถอำนวยความสะดวกสบาย และสามารถตอบโจทย์ผู้พักอาศัยได้อย่างครบครัน
คอนโด Low Rise คืออะไร?
คอนโด Low Rise คือ คอนโดที่มีความสูงน้อยกว่า 23 เมตร หรือมีจำนวนชั้นเพียง 8-9 ชั้นเท่านั้น โดยคอนโดประเภท Low Rise นั้นอาจมีทำเลที่ตั้งอยู่ในซอย หรือห่างไกลจากถนนกว่าคอนโดประเภท High Rise และด้วยจำนวนชั้นที่น้อย คอนโด Low Rise จึงมีโอกาสที่จะถูกบดบังวิวจากสิ่งก่อสร้างบริเวณรอบ ๆ ได้
แต่ถึงแม้ว่าคอนโด Low Rise จะอยู่ห่างจากถนน ซึ่งอาจส่งผลให้เดินทางไม่สะดวก แต่ปัจจัยนั้นก็ทำให้บรรยากาศบริเวณรอบ ๆ และภายในคอนโดนั้นมีความสงบและเหมาะกับการพักผ่อน ดังนั้น คอนโด Low Rise จึงเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเงียบสงบมากกว่า
ขอบคุณภาพ @Engin Akyurt จาก Pexels
คอนโด High Rise กับ Low Rise ต่างกันอย่างไร?
หลาย ๆ คนอาจจะทราบแล้วว่าคอนโด High Rise และ Low Rise นั้นมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของความสูงของคอนโด, จำนวนชั้นของคอนโด และทัศนียภาพรอบ ๆ ของคอนโด
แต่ว่าคอนโดทั้ง 2 ประเภทนั้นยังมีความแตกต่างกันอีกหลายอย่าง เช่น จำนวนยูนิตภายในโครงการ ที่คอนโด High Rise จะมีจำนวนยูนิตมากกว่า จึงทำให้มีบรรยากาศที่พลุกพล่านมากกว่า ส่วนคอนโด Low Rise จะมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ
นอกจากนั้น ทำเลที่ตั้งของคอนโด High Rise ส่วนใหญ่มักจะอยู่ติดกับถนน จึงสามารถเดินทางได้สะดวกสบายมากกว่าคอนโด Low Rise ที่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในซอย หรือห่างจากถนน
และเนื่องจากคอนโด High Rise นั้นมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า พื้นที่ส่วนกลางจึงอาจจะหลากหลายเพราะออกแบบได้อิสระมากกว่า แต่สำหรับคอนโด Low Rise นั้นก็มีพื้นที่สวนกลางที่ออกแบบมาตามมาตรฐานและมีจำนวนที่เหมาะสมกับผู้พักอาศัย
เลือกคอนโดอย่างไร ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
เมื่อทราบถึงความแตกต่างของคอนโด High Rise และ คอนโด Low Rise แล้ว ก็สามารถเลือกประเภทคอนโดที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้
ซึ่งคอนโด High Rise เหมาะกับผู้ที่เน้นการเดินทางที่สะดวกสบาย, บรรยากาศที่คึกคัก, ทัศนียภาพที่สวยงาม และต้องการพื้นที่ที่สามารถรองรับการทำกิจกรรมที่หลากหลายได้
ส่วนคอนโด Low Rise นั้นเหมาะกับผู้ที่ชอบความเงียบสงบ และมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากถนนเส้นหลัก และรถไฟฟ้า
ขอบคุณภาพ @Timur Saglambilek จาก Pexels
แต่ไม่ว่าจะเป็นคอนโด High Rise หรือ Low Rise ก็สามารถตอบโจทย์ผู้พักอาศัยได้ทุกคนเหมือนกัน เพียงแค่เลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เพื่อความสะดวกสบาย และเพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของคุณเอง
แนะนำคอนโด High Rise และคอนโด Low Rise
1. โครงการคอนโดเดอะ ทรี (The Tree)
โครงการคอนโดเดอะ ทรี (The Tree) เป็นคอนโด High Rise ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบครัน การเดินทางคล่องตัวและสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีบางโพ และสถานีเตาปูน
ทั้งยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา และสถานพยาบาล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการอีกมากมาย
2. โครงการคอนโดเพิร์ล เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24
เป็นคอนโด Low Rise สไตล์โมเดิร์น มีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านพร้อมพงษ์ จึงทำให้รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย
แถมยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ และ MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโครงการอย่างครบครัน
สามารถค้นหาคอนโด The Tree (อินเตอร์ เชนจ์), โครงการคอนโดเพิร์ล เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 หรือโครงการคอนโดอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในทำเลคุณภาพ พร้อมติดตามข้อมูล และสาระดี ๆ เกี่ยวกับบ้านและอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ DDproperty.com เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย
ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ ขาย เช่า ที่น่าสนใจทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสองในหลากหลายทำเลครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการซื้อ-ขาย-เช่า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจซื้อให้ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด