ปัญหาที่เกิดขึ้นระแวกบ้านหรือกับคนข้างบ้าน เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง บางปัญหาก็สามารถไกล่เกลี่ยกันได้อย่างลงตัว จบได้โดยที่ไม่ต้องมีเรื่องกันใหญ่โต แต่บางปัญหาก็ไม่สามารถตกลงกันเองได้ หนักข้อจนถึงขั้นต้องเข้าแจ้งความ
ดังเช่น กรณีของคุณ Puckka ที่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีปัญหาเรื้อรังกับเพื่อนบ้านมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี สร้างความเดือดร้อนและความรำคาญให้กับเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ตามไปดูกันเลยค่ะ
ครั้งแรกกับการแจ้งความ “ข้างบ้านสร้างความเดือดร้อนรําคาญ” น้ำรั่วมาบ้านเราแจ้งแล้วไม่แก้ไข และขอบคุณ คุณตำรวจใจดี
(เล่าเรื่องโดย Puckka)
บ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชั้นบนมี 2 ห้องนอนโดยห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างทั้ง 2 ห้อง กำแพงห้องน้ำด้านหนึ่งจะติดกับกำแพงของบ้านข้างๆ
พบปัญหาน้ำจากห้องน้ำบ้านข้างๆ ซึมมาเป็นคราบน้ำอยู่ที่เพดานชั้น 1 อยู่เสมอๆ บางครั้งก็หยดนิดหน่อยแจ้งไป ก็หายหยด อีก 3-6 เดือนก็หยดอีก แจ้งไปก็หายไปอีกซักพักเดี๋ยวก็เป็นใหม่
เป็นแบบนี้มา 2 ปี
(บ้านอยู่กัน 2 คนไม่ค่อยใช้ห้องน้ำข้างบนเพราะอยู่ข้างล่างมากกว่า ขึ้นไปนอนอย่างเดียว และบ้านเดินลอยท่อใหม่ทั้งหลังไปแล้ว ส่วนข้างบ้านเป็น 2 สามมีภรรยา ลูก/ยาย อยู่กัน 5-6 คน)
ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมจะเป็นอย่างไร เราลองไปติดตามกันเลยค่ะ
จนถึงวันหมดความอดทน
** วันพฤหัสบดีที่ 30/11/2560 เวลา 20.30 น. กำลังดู TV อยู่น้ำหยดลงหัว มองดูเพดานก็เป็นดังภาพเลย
.
เราเลยไปแจ้งข้างบ้านอีก แจ้งไปที่ตัวภรรยา
เรา : พี่บ้านพี่น้ำรั่วมาบ้านผมอีกแล้ว มันเป็นหลายครั้งแล้วนะ”
ภรรยาบ้านข้างๆ : “บ้านเราปกติเลยไม่รู้จะทำยังไง เพราะทุกครั้งไม่ได้ทำอะไรมันก็หยุดเอง”
เรา : “จะทำอะไรก็ต้องทำแล้วแจ้งไปหลายครั้งแล้วผมเดือดร้อน”
เรียกเข้ามาดูในบ้านผมเค้าก็ไม่มาดู ผมเสียงแข็งหนักขึ้น เค้าเลยเดินไปปิดวาล์วน้ําหน้าบ้านเค้า น้ำก็หยุดไหล ก็เลยจบกันไปวันนั้น
** วันศุกร์ที่ 01/12/2560 เวลา 18.00 น.
กลับจากทำงานมาเปิดบ้านไป หยดอีกแล้วเหมือนเดิมเลยแต่วงน้ำกว้างไปอีก ข้าวของเสียหายต้องเอาแอบน้ำที่หยดลงมา แล้วเอากระป๋องมารองน้ำ เลยมองไปบ้านข้างๆเห็นตัวสามีอยู่ เลยเดินไปคุยเสียงไม่พอใจหละ
เรา : “ผมแจ้งแฟนพี่ไปแล้วเรื่องน้ำรั่วมาบ้านผมพี่จะแก้ยังไง ?? นี่หยดอีกแล้ว ไม่เชื่อเข้ามาดูที่บ้านผมเลย”
สามีบ้านข้างๆ : พูดด้วยเสียงเฉยๆไม่รู้ร้อนหนาวว่า “ผมไม่ทำอะไรบ้านผมปกติ บ้านเป็นบ้านเช่าผมไม่ทำอะไร”
เรา : “ถ้าพี่ไม่ทำอะไรผมจะเรียกตำรวจเค้ามาดูนะ”
สามีบ้านข้างๆ : “ก็ตามสบายเลย” แล้วก็เดินเข้าบ้านตัวเองไป
เมื่อร้องมาแบบนี้เลยจัดให้เลยครับ โทรไปสถานีตำรวจตอนนั้นเลย ได้เบอร์ร้อยเวรมา แต่โทรไปไม่มีคนครับสาย
— ใครขี้เกียจอ่านข้ามวรรคนี้ไปก็ได้ —
เลยขี่มอเตอร์ไซค์ ไปป้อมแถวบ้าน ป้อมแรกเข้าไปคุยเค้ารับทราบและเข้าใจแต่อยู่นอกเขตรับผิดชอบเค้า
เค้าเลยบอกให้ไปอีกป้อมหนึ่ง ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปอีกป้อม ไปถึงไม่พบจนท. แต่มีเบอร์โทรติดไว้ที่หน้าป้อม 2 เบอร์
โทรไปเบอร์แรกไม่มีคนรับสาย โทรเบอร์ที่ 2 ได้คุยกับ จนท.ตำรวจอธิบายให้ฟัง เค้าบอกให้ถ่ายรูป + Vdo
แล้วเอาหลักฐานมาแจ้งที่ สน. พอคุยจบ จนท.ที่โทรไปหาครั้งแรก ร.ต.อ.ชัยธัช โทรกลับมาพอดีเลยอธิบายให้ฟัง ใหม่
— เข้าเรื่องต่อ–
สรุปแจ้งกับ ร.ต.อ.ชัยธัช ท่านรับทราบและบอกว่าพรุ่งนี้ 10.00 น. เค้าจะเข้ามาดูให้ก่อนถ้าตกลงกันไม่ได้
ก็ให้เราเอาหลักฐาน รูปถ่าย+Vdo ไปแจ้งความที่ สน. ทางสน. จะออกหมายเรียกให้มาคุยกัน ถ้าไม่มาคุยก็จะออกหมายจับต่อไป เพราะกรณีนี้เข้าข่าย “สร้างความเดือดร้อนรําคาญ” ให้ เราก็เลยรอจนเช้าวันถัดมา
** วันเสาร์ที่ 02/12/2560 เวลา 10.00 น.
ทาง ร.ต.อ.ชัยธัช เข้ามาดูที่บ้านและเรียกข้างบ้านมาคุย ตอนมาคุยน้ำก็ยังหยดอยู่
ได้ใจความใหม่ว่า
ภรรยาบ้านข้างๆ : บ้านเราเป็นบ้านเช่าเราแจ้งไปทางเจ้าของแล้วเค้าให้เราดำเนินการตามสมควรเลย นี่สามีก็ออกไปซื้อของอยู่ จะเอามาทำเบื้องต้นก่อน เพิ่งแจ้งเรามาเมื่อวานตอนค่ำๆ เราแก้ไม่ทั้นขอเวลาหน่อย
เรา : (ตูแจ้งไป 2 วันแล้วโว้ย ก่อนหน้านี้อีกตั้งกี่ครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่พูดอย่างนี้นี่ นึกในใจ) งั้นผมขอกำหนดว่าจะแก้ไขในกี่วั้น
จนท.ตำรวจ : ถ้าทำเองแล้วหายก็จบแต่ถ้าไม่จบก็ต้องหาช่างมาทำให้เค้านะเพราะเค้าเดือดร้อน 2-3 วันก็น่าจะแก้ไขได้ เพราะถ้าไม่จบคงต้องไปคุยกันที่โรงพัก
ทางนั้นก็รับปากรับคำเรียบร้อยหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย พอดีบ่ายวันนั้นผมไปต่างจังหวัดไม่อยู่บ้าน ก่อนไปได้ยินสามีเค้าบอกกับภรรยาเค้าว่าเป็นที่ยาแนวกำลังทำอยู่ (แล้วทำไม่ไม่ทำแต่แรกฟะ) แต่ผมว่าบ้านเค้าน่าจะท่อในผนังรั่วเพราะแอบเห็นมาตรน้ำเค้าหมุนตลอดแม้ไม่มีคนอยู่บ้านแต่มันหมุนช้ามากๆ
กลับมาอีกทีก็วันที่ 05/12/2560 บ่ายๆเปิดบ้านไปน้ำก็ไม่หยดแล้วนี่ ก็เลยทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นแต่ก็คงไม่มองหน้ากันอีกแล้วหละ เกลียดจริงๆคนแบบนี้ ต้องรอดูว่ามันจะไม่รั่วมาอีกจริงหรือไม่
ปล. ในความโชคร้ายที่เจอข้างบ้านตีมึนแบบนี้ก็ยังมีตำรวจน้ำดี มีใจบริการประชาชน อยู่อย่าง ร.ต.อ.ชัยธัช ที่เข้ามาช่วยเหลือ
ขอบคุณทุกท่านมากครับที่เข้ามาอ่านและขอลงใน Pantip เพื่อเป็นตัวอย่างกรณีที่ใครเจอแบบผมนะครับ
ที่มา : Puckka
งานนี้ก็มีชาวเน็ตมากมายมาให้ความเห็นต่างๆ เราลองไปดูกันเลยค่ะ
เช่นคุณคนนี้ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า วิธีที่เจ้าของบ้านทำเป็นวิธีช่วยกระชับเวลา เร่งให้เจ้าเพื่อนบ้านออกมารับผิดชอบได้โดยเร็ว
ส่วนความคิดเห็นนี้กล่าวในเชิงที่ว่า ถ้าผู้เช่าไม่แจ้งให้เจ้าของบ้านรับรู้ถึงปัญหา ก็ควรเรียกตำรวจมาเพื่อไกล่เกลี่ยให้ลงตัว
บางความคิดเห็นก็ชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของคุณตำรวจ ที่รู้จัักจัดการ แก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี
และยังมีอีกหลายความคิดเห็นที่ประสบปัญหากับเพื่อนบ้าน ซึ่งบางคนก็เลือกที่จะซื้อบ้านเดี่ยว เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้าน
.
ถึงแม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการแจ้งตำรวจให้มาช่วยพูดคุย แก้ไขปัญหาให้ แต่ก็ยังมีบางความคิดที่กล่าวว่า ปัญหานี้ควรแก้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องให้เพื่อนบ้านมารับผิดชอบ หรือแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากเป็นกรณีที่สามารถเจรจาต่อรองกันได้
.
อันที่จริง ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ก็มีกฎหมายมารองรับตามมาตรา 25 ด้วยนะ
มาตรา 25 ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือนร้อนแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้นดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเหตุรำคาญ
(1) แหล่งน้ำ ทางระบายน้ำ ที่อาบน้ำ ส้วม หรือที่ใส่มูลหรือเถ้า หรือสถานที่อื่นใด ซึ่งอยู่ในทำเลไม่เหมาะสม สกปรก มีการสะสมหรือหมักหมมสิ่งของมีการเททิ้งสิ่งใดเป็นเหตุให้มีกลิ่นเหม็นหรือละอองเป็นพิษ หรือเป็นหรือน่าจะเป็นที่เพาะพันธุ์พาหะนำโรค หรือก่อให้เกิดความเสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
มาตรา 26 ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจห้ามผู้หนึ่งผู้ใดมิให้ก่อเหตุรำคาญในที่ หรือทางสาธารณะ หรือสถานที่เอกชนรวมทั้งการระงับเหตุรำคาญด้วย ตลอดทั้งการดูแล ปรับปรุงบำรุงรักษาบรรดาถนน ทางบก ทางน้ำ รางระบายน้ำ คู คลอง และสถานที่ต่างๆ ในเขตของตนให้ปราศจากเหตุรำคาญ ในการนี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเพื่อระงับกำจัดและควบคุมเหตุรำคาญต่างๆ ได้
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาเพื่อนบ้านที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีชายคาติดกัน มักจะพบกับเรื่องรบกวนต่างๆ เช่น เรื่องเสียงดังจากข้างบ้าน เรื่องการรั่วซึมของน้ำ และกลิ่นควันจากการทำอาหาร เป็นต้น หากเพื่อนๆ คนไหนมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ก็ลองแชร์ประสบการณ์กันได้นะคะ
ที่มา : Puckka .