หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า ถ้าหากปล่อยที่ดินเปล่าไว้รกร้างเกิน 10 ปี อาจจะถูกคนอื่นมาอ้างกรรมสิทธิ์ หรืออาจจะถูกรัฐมายึดคืนไปได้
โดยเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ว่ารัฐสามารถยึดคืนที่ดินรกร้างติดต่อกันเกิน 10 ปีนั้นเป็นเรื่องจริง!
อ้างอิงตามมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน บัญญัติว่านับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ ใช้บังคับบุคคลใดมีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากบุคคลนั้นทอดทิ้ง ไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่ร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาดังต่อไปนี้
1. สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน เกินสิบปีติดต่อกัน
2. สำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เกิน 5 ปีติดต่อกันให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะส่วนที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์
หรือที่ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่ออธิบดีได้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลได้สั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว ให้ที่ดินนั้นตกเป็นของรัฐเพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายนี้ต่อไป
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้วางระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2522
สำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบ ซึ่งก่อนส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยจะมีขั้นตอนการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
1. จังหวัดหรืออำเภอจะทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า จัดการหรือเร่งรัดให้มีการทำประโยชน์ภายในเวลา 3 เตือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
2. เมื่อครบกำหนดแล้วยังไม่จัดการให้มีการทำประโยชน์ให้จังหวัดตั้งกรรมการเพื่อพิจารณาว่ามีการทอดทิ้ง ไม่ทำประโยชน์ในที่ดินหรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริงหรือไม่เพียงใด
3. เมื่อคณะกรรมการมีความเห็นว่ามีการทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าเกินกำหนดเวลาจริง
ให้จังหวัดทำความเห็นส่งกรมที่ดินเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งเพิกถอนหนังสือแสตงสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้ตกเป็นของรัฐต่อไป
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าเป็นเรื่องจริงนะครับ หากปล่อยที่ดินทิ้งร้างติดต่อกันเกิน 10 ปี เราก็อาจจะเสียสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ เพราะฉะนั้น ใครที่มีที่ดินเยอะ ๆ ต้องหมั่นตรวจสอบ แล้วทำประโยชน์บนที่ดินนั้นด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องมาเสียสิทธิ์กัน…