การได้เป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ ในบ้าน เชื่อว่าเป็นความฝันของชาวเว็บหลายๆ คน ซึ่งจะต้องเริ่มจากการหาลำเทดีๆ โดยทั่วไปแล้วก็มักจะเช่าพื้นที่ตามตึกแถว แต่ถ้ามีพื้นที่ว่างๆ ตรงหน้าบ้าน ทำไมไม่ลองออกแบบเป็นร้านกาแฟซะเลยล่ะ?
และสำหรับคราวนี้ ในบ้าน จะพาไปชมรีวิวการต่อเติมพื้นที่สวนหน้าบ้าน ให้กลายเป็นร้านกาแฟเล็กๆ โดยคุณ Denpo จากเว็บไซต์ Scgbuildingmaterials.com ซึ่งนอกจากจะได้ทำงานในร้านกาแฟแล้ว ยังสามารถดูแลครอบครัวอันเป็นที่รักได้ด้วย ใครที่อยากมีร้านกาแฟเล็กๆ ไว้หน้าบ้านตัวเอง ต้องลองมาชมกันเลยครับ
Review : ต่อเติมพื้นที่สวนหน้าบ้าน ให้เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ดีไซน์น่ารักบรรยากาศน่านั่ง
(โดย Denpo จากเว็บไซต์ Scgbuildingmaterials.com)
เดิมทีพื้นที่นี้ตอนแรกเป็นพื้นที่นั่งเล่นภายนอกบ้านที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใบไม้ แต่ต่อมามีความรู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้ทำประโยชน์ได้ ก็เลยคิดว่าอยากจะทำเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ให้คนอื่นมานั่งเล่นนั่งชิลล์ได้ อีกทั้งยังสามารถดูแลคนในครอบครัวไปพร้อมๆ กัน แต่เราอยากเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ทุกต้นไว้โดยไม่ตัดทิ้ง จึงจัดสเปซต้นไม้เล็กใหญ่เพื่อความร่มรื่นไว้นั่งนอกร้าน แต่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องงานก่อสร้างมาก่อน เลยลองเรียกช่างมาคุยดูว่าพอเป็นไปได้มั้ย บอกช่างว่าอยากทำประมาณนี้ (วาดมือคร่าวๆ) ช่างก็วาดมือมาให้ คุยกันแบบไม่ลงแบบละเอียด ใช้การกะประมาณเอาว่าแบบนี้น่าจะโอเค
ระหว่างนั้นก็คิดๆ ไป ปรึกษากับคนโน้นคนนี้ว่าทำดีไหม หลายคนก็บอกว่าให้ระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวจะหดหายไป “ถ้าเปิดประตูรั้วบ้านเดิมให้คนเข้ามานั่งเล่นได้เลย อาจจะขาดความเป็นส่วนตัวไป เพราะคนอื่นจะเดินเข้ามาในบ้านได้ง่าย” ก็เลยหาทางว่าจะทำยังไงดีให้เค้านั่งที่ร้านเราอย่างเดียวไม่ได้เดินเข้าบ้านเรา จึงตั้งใจว่าจะเปิดรั้วฝั่งนี้ออก แล้วล้อมรั้วร้านนี้เพื่อแยกพื้นที่ออกมาให้เป็นเหมือนบ้านหลังเล็กๆ อีกหลังหนึ่งเลย แต่ก็คิดไม่ตกเรื่องรูปแบบรั้ว ว่าจะให้เหมือนบ้านเดิม หรือจะใช้วัสดุอะไรดี จะเป็นรั้วเหล็กที่ดูแข็งแรง หรือจะใช้รั้วไม้เทียมที่ดูเป็นธรรมชาติดีกว่ากัน อีกประเด็นหนึ่งคือด้วยความที่บ้านอยู่ต่ำกว่าระดับถนนและใกล้บริเวณคลอง จึงทำให้ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่แบบยังไม่สรุป เราก็ลองเอาเชือกฟางมากะพื้นที่ร้านดู ลองเดินดูว่าพื้นที่ประมาณนี้โอเคไหม ลองวางตำแหน่งเคาน์เตอร์และห้องน้ำว่าน่าจะโอเคไหม พอเห็นว่าน่าจะโอเคเราก็ลองสเก็ตช์แบบแปลนพื้น ให้ช่างเข้ามาคุยและเสนอราคาให้เรา พอตกลงกันได้ เมื่อช่างพร้อมเราพร้อม ช่างก็เข้ามาเคลียร์พื้นที่ เริ่มจากเคลียร์เอาต้นไม้ออกจากบริเวณที่ต้องการก่อสร้าง และเอาบล็อกปูพื้นออก แล้วเอาไม้มากั้นพื้นที่ ขุดหลุมเพื่อวางเสาเข็ม ช่างมากันหลายคน ช่วยกันลงแรงกันขยันขันแข็ง
ภาพซ้าย : ช่างเข้ามาเคลียร์พื้นที่โดยเอาบล็อกส่วนที่จะทำการก่อสร้างออก และวางไม้กะประมาณพื้นที่ที่จะก่อสร้าง
ภาพขวา : ช่างเข้ามาขุดหลุมวางเสาเข็ม และแล้ว เมื่อวันที่ฤกษ์ดีสำหรับการลงเสาเอกเสาโทก็มาถึง ก่อนหน้าวันฤกษ์ดี ช่างได้เข้ามาเตรียมการต่างๆ ทั้งเหล็กที่นำมาผูกเป็นฐานรากและเสาของอาคารเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำพิธี
พิธีวางเสาเอกเสร็จสิ้นก็วางเสาต้นอื่นๆ ต่อ จากนั้นจึงทำไม้แบบเพื่อเทคานคอดิน หลังจากพิธีการวางเสาเอกเอาฤกษ์เอาชัยเสร็จสิ้น ช่างก็ทำงานต่อด้วยการลงเสาต้นอื่นๆ ต่อไป จากนั้นก็ทำไม้แบบเตรียมหล่อคานคอดิน หล่อพื้น หล่อเสาทั้งสี่ต้น แล้วบอกให้เราพรมน้ำเพื่อบ่มคอนกรีตทุกวัน หลังจากเสาคอนกรีตเซทตัวแล้ว ช่างจะเข้ามาทำงานหลังคาต่อ
ขั้นตอนการหล่อเสาคอนกรีต
วางโครงหลังคาเหล็ก แล้วปูด้วยหลังคาเมทัลชีทที่เว้นช่องตรงกลางไว้เพื่อมุงแผ่นโปร่งแสงจะได้ช่วยประหยัดไฟ
ฝังถังบำบัด
ก่อผนังด้วยคอนกรีตมวลเบาจนถึงหลังคาโดยเว้นช่องประตูหน้าต่างเอาไว้
ขั้นตอนการฉาบปูน บอกได้เลยว่าช่างฉาบปูนเนี๊ยบมาก พอเริ่มเห็นพื้นที่ของอาคารคร่าวๆ ก็ปรึกษากับเพื่อนที่เป็นอินทีเรียเรื่องการจัดสเปซภายในของพื้นที่อันน้อยนิดที่มี ทั้งเรื่องการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในให้ลงตัว การเตรียมระบบน้ำและไฟให้สอดคล้องกับงานเคาน์เตอร์ที่ต้องทำบิวท์อิน และพื้นที่ภายนอกว่าน่าจะเป็นประมาณไหนดี ซึ่งสรุปพื้นที่ภายนอกได้โดยเปลี่ยนใจจากรั้วที่จะปิดด้วยระแนงไม้เทียมหรือรั้วเหล็กเป็นการก่อผนังปูนที่สูงประมาณ 1 เมตรเพื่อกั้นพื้นที่แทน เพราะรู้สึกว่าน่าจะเข้ากับตัวอาคารมากกว่าและจะทำที่นั่งปูนที่ติดกับผนังปูนนี้เลยในตัว
ก่อผนังปูนขึ้นมา รู้สึกว่าดูตันๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยเหมือนที่คิดไว้
ทำเป็นที่นั่งปูนด้านในยื่นออกมาจากผนังให้รู้สึกว่าผนังปูนกับที่นั่งเป็นหนึ่งเดียวกัน
ติดตั้งฝ้าชายคาภายนอกโดยมีตาข่ายกันแมลงอยู่ด้านใน จากนั้นจึงติดตั้งประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม เมื่องานก่อสร้างอาคารเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง มีประตูหน้าต่างที่ล็อคได้ เราก็พร้อมที่จะให้ช่างทำการเปิดกำแพงรั้วออกเพื่อทำงานหน้าร้านต่อไป
ค่อยๆ เปิดรั้วออกทีละนิดๆ เปิดรั้วเพื่อติดตั้งประตูบานเหล็กม้วน ติดตั้งประตูม้วนเสร็จสิ้น
ก่อผนังอิฐบล็อกเพื่อปิดช่องกำแพงรั้วและทำการฉาบปูน
งานฝ้าฉาบเรียบภายในโดยเว้นตรงกลางฝ้าไว้สำหรับใส่แผ่นโปร่งแสงเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ไม่ต้องเปิดไฟตลอดวัน
เมื่องานฝ้าเสร็จสิ้น ก็พร้อมที่จะปูพื้นกระเบื้องเซรามิกภายในและปูพื้นไม้เทียมภายนอก
ติดตั้งกระเบื้องห้องน้ำและสุขภัณฑ์ต่างๆ
ทาสีเทาอ่อนโดยรอบอาคารทั้งหมด รอสีแห้ง แล้วจึงปลูกต้นไทรเกาหลีโดยรอบเพื่อเพิ่มความสดชื่น โดยให้เพื่อนที่เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้แนะนำพันธุ์ไม้ที่เหมาะสม ปลูกง่าย ดูแลง่าย
เลือกเฟอร์นิเจอร์ Outdoor เข้ามาจัดวาง ให้นั่งพักผ่อนจิบกาแฟกลางแจ้งได้แบบชิลล์ๆ
หน้าร้านที่เสร็จสมบูรณ์โดยปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้แนะนำโทนสีหน้าร้านและการตกแต่งกระจกด้วยลายเส้นกราฟิก ที่มา : Denpo จากเว็บไซต์ Scgbuildingmaterials.com