บ้านในฝันของใครหลายคน คงจะเป็นบ้านที่ดูอบอุ่น สวยงาม สามารถพักผ่อนได้อย่างไม่มีเบื่อ ส่วนใหญ่จึงจะเน้นไปที่การออกแบบบ้าน และการตกแต่งให้สามารถใช้งานได้อย่างครบทุกฟังก์ชัน แถมโทนสีของบ้านก็มีส่วนต่ออารมณ์ของผู้อยู่อาศัยด้วยเช่นกันนะ
วันนี้ ในบ้าน จึงได้มาพร้อมกับการตกแต่งบ้านในฝัน ของคุณ auan klom block ที่ออกแบบบ้านในแนวอเมริกันคอทเทจ เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แล้วจัดองค์ประกอบให้ดูอบอุ่น คลาสสิค อีกหนึ่งแนวทางตกแต่งบ้านที่น่าสนใจไม่น้อย ลองตามไปชมกันเลยค่ะ
บ้านชั้นเดียวตกแต่งสไตล์อเมริกันคอทเทจ สวยคลาสสิคได้แบบไม่ง้อบิวท์อิน
(โดย auan klom block)
สวัสดีครับทุกท่านกระทู้นี้เป็นกระทู้เกี่ยวกับการแต่งบ้านอีกเช่นเคยครับ แต่มันมีเรื่องราวนิดหน่อยที่อยากจะเล่าคร่าวๆให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง ถือว่าช่วยสงเคราะห์อ่านกันเพลินๆแล้วกันนะครับ
เท้าความย้อนไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว จำได้ว่าน่าจะซักตอน ม.4 ป๊า (พ่อ) ของผมซื้อบ้านใหม่แล้วก็กำลังตกแต่งนิดๆหน่อยๆ ไอ่เราก็เข้าไปดูบ่อยๆเพราะชอบดูช่างแต่งบ้าน และเนื่องจากว่าดูหนังฝรั่งแล้วชอบบรรยากาศตอนวันคริสต์มาสที่มีเตาผิงอุ่นๆ กับต้นคริสต์มาส (เพิ่งมารู้ว่าเอาตอนโตว่าแบบนี้เค้าเรียกสไตล์ American Cottage) มันดูอบอุ่นดี และเราก็ฝันอยากมีบ้านสไตล์นี้มากๆ
ก็เลยเสนอป๊าไปว่าทำเตาผิงด้วยสิ เอาไว้วางทีวีก็ได้สวยๆ คิดว่าป๊าน่าจะไม่เข้าใจ ป๊าถามกลับมาว่า “จะเอามาทำไรอ่ะเตาผิง ?” เออว่ะ ที่นี่เมืองไทยคงจะหนาวมากกกก จะเอามาทำไรวะเตาผิง ผมก็ตื๊อๆว่าทำเหอะมันสวยนะ ป๊าคงจะรำคาญก็เลยบอกปัดๆไปว่า เดี๋ยวมีบ้านตัวเองเมื่อไหร่ค่อยไปทำนะเตาผิงอ่ะ “เอ๊อออจำไว้”
ผ่านมา 12 ปี ความฝันยังอยู่ไอ่เด็กเมื่อวานซืนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ก็ยังอยากได้อยู่ไม่เคยเปลี่ยน หลังจากรวบรวมพลังกันทั้งครอบครัวเราก็ได้บ้านหลังใหม่อีกครั้ง คราวนี้ผมช่วยซื้อบ้านนี้ด้วย และด้วยความที่เรียนจบด้านสถาปัตย์มา จึงได้รับมอบหมายให้เป็นคนแต่งบ้าน ตอนเข้าไปดูครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่านี่แหละได้เวลาของบ้านที่มีเตาผิงแล้ว ฮ่าฮ่า (Edit เพิ่มเติมนิดนึงครับบ้านอยู่ที่ฉะเชิงเทราน่ะครับ)
บ้านที่ซื้อมาถือว่ามีทุกอย่างค่อนข้างพร้อม วัสดุภายในทำมาให้เป็นอย่างดี เลยคิดว่าคงจะไม่บิวท์อินอะไรมากมาย เน้นซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาวางแล้วจัดองค์ประกอบให้เข้าที่เข้าทางก็น่าจะโอเคแล้ว ด้านล่างนี้เป็นรูปเดิมของบ้านที่ซื้อมาในตอนแรกครับ จะเห็นว่าชุดผ้าม่าน มีการตกแต่งผนังและโคมไฟบางส่วนมาให้บ้างแล้ว ซึ่งกระทู้นี้จะขออนุญาตเน้นไปที่การตกแต่งในโซนรับแขกนี้นะครับ
.
.
หลังจากได้เห็นพื้นที่ไอเดียหลักๆที่ผุดขึ้นมาอย่างแรกเลยก็คือ “เตาผิงไง เตาผิงร้อนๆ” ที่มันยังฝังใจอยู่ ก็เลยแอบไปสั่งมา คิดว่าคราวนี้แหละทีของเรา พอมาเอามาตั้งปุ๊บ ป๊าก็ถามเหมือนเดิมว่า “มันทำอะไรได้” นั่นสิมันทำไรได้ 12 ปี ผ่านมาก็ยังไม่รู้ว่ะรู้แต่ว่าอยากได้
ผมเลยพรีเซ็นต์กับป๊าไปเรื่อย บอกว่ามันเปิดไฟได้ด้วยนะเนี่ยๆเหมือนไฟจริงเลย แล้วก็ทำให้ข้างนอกบ้านดูหนาวขึ้น ในบ้านดูอบอุ่นขึ้นด้วย นี่คือการแถมั่วไปเรื่อยในเชิงทฤษฏีสถาปัตยกรรมและการออกแบบ ซึ่งไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ใดๆมารองรับ ฮ่าาาา
ซึ่งเมื่อของทั้งหมดมาครบ แล้วนำมาตั้งในวันแรกรวมๆกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว จำพวกโซฟา อาร์มแชร์ และตู้โชว์ที่เลือกสรรค์มาให้เข้ากับสไตล์บ้าน Cottage วางรวมกันก็จะได้อารมณ์ประมาณนี้ครับ
.
.
นี่ไงครับพอมีเตาปุ๊บดูอบอุ่นขึ้นมาทันที แถมยังดูเหมือนข้างนอกอากาศหนาวขึ้นมาทันตาเห็น ฮ่ะฮ่ะ มโนล้วนๆครับ
ปล.เตาผิงเป็นเรซิ่นซื้อสำเร็จมาตั้งครับ เสียบปลั๊กแล้วจอ LED จะเป็นรูปไฟขึ้นมา ไม่ได้ให้ความร้อนแต่อย่างใดครับเอาไว้โชว์อย่างเดียวคร้าบ
.
อันนี้แอบโชว์รูปภายนอกกันนิดนึงนะครับ เป็นบ้านชั้นเดียวแต่เล่นระดับยกห้องนอนขึ้นไปทำให้ได้ฝ้าตรงส่วนห้องรับแขกสูงกว่าปกติครับ มีสามห้องนอน แต่มีห้าห้องน้ำ ฮ่ะฮ่ะ เนื่องจากในห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำเป็นของตัวเอง และมีห้องน้ำตรงส่วนรับแขกกับห้องน้ำด้านนอกตัวบ้านสำหรับแม่บ้านน่ะครับเลยเยอะไปหมด
และจากสไตล์ภายนอกบ้านนี่เองเป็นเหตุผลที่บอกว่าพอได้เห็นบ้านครั้งแรกก็รู้เลยว่านี่ต้องเป็นบ้านที่เหมาะกับสไตล์ในฝันของผมอย่างแน่นอน หลังจากนั้นพวกเราก็ค่อยๆ ทยอยขนของเก่าๆ ที่มีมาตั้งเป็นพร้อพตามเท่าที่หาได้ สุดท้ายก็ได้ออกมาประมาณนี้ครับ
ประตูทางเข้าบ้านซึ่งมองทะลุไปถึงเตาผิงในบ้านได้ครับ
.
เข้ามาก็จะเจอกับโต๊ะคอนโซลแบ่งที่โซนที่นั่งรับแขกไว้ครับ
ที่นั่งเล่นเชื่อมกับที่นั่งรับประทานอาหาร เพื่อสะดวกในการหยิบขนมที่หม่าม๊าตั้งไว้บนโต๊ะมานั่งกินเล่นครับ ปล. เหล็กดัดในบ้านใช้เป็นแบบยืดพับเก็บได้ครับ เวลาพับเก็บไปก็จะได้พื้นที่หน้าต่างโล่งๆกลับมา ส่วนตัวเหล็กดัดก็จะไปซ่อนหลังผ้าม่านครับ
ในที่สุดก็ได้เป็นห้องรับแขกห้องนั่งเล่นกลางบ้านที่น่าตาอาจจะดูไม่ได้หรูหรามากมายแต่ก็รู้สึกดีมากๆที่ได้ทำตามความฝันในวัยเด็กและทุกคนในบ้านก็แฮปปี้ที่ได้มีที่นั่งรวมตัวกัน เล่าเรื่องราวต่างๆที่ได้ไปเจอมา ดูทีวีร่วมกัน ใช้เวลาร่วมกันได้นานๆหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการกรำศึกในการทำงานมาทั้งอาทิตย์ และสุดท้ายแล้วบ้านนี้ทำให้ผมรู้ว่า
“ความฝันที่กระจัดกระจายไปนั้น เราเก็บมันกลับมาทำให้เป็นจริงได้เสมอ”
จบแล้วล่ะครับสำหรับไอเดียการตกแต่งบ้านในฝันหลังนี้ ถ้ามีส่วนไหนเพิ่มเติมจะมาอัพเดตเรื่อยๆ นะครับ หวังว่าบ้านเล็กๆ หลังนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ ท่าน และขอให้ทุกท่านมีความสุขกับบ้านในฝันของทุกท่านนะครับ มาสร้างบ้านด้วยแรงของเราเพื่อตัวเราและครอบครัวเรากันนะครับ
ที่มา : auan klom block