วิกฤตการณ์ของฝุ่น 2.5 PM กำลังเป็นปัญหาต่อสุขภาพในขณะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก ดังนั้น เราจึงต้องหาทางในการดูแล และป้องกันปัญหานี้ด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องที่ง่าย และใกล้ตัวที่สุดในการรับมือ โดยหลากหลายวิธีด้วยกันที่สามารถรับมือ และป้องกันฝุ่นเหล่านี้ได้
วันนี้ ในบ้าน ก็มีไอเดียดีๆ ในการรับมือกับปัญหาฝุ่น 2.5 PM โดยคุณ Toys Vlogger ที่จะมาชวนเพื่อนๆ DIY เครื่องฟอกอากาศจากพัดลม เพื่อสู้กับวิกฤต ฝุ่น 2.5 PM ด้วยงบ 220 บาท เราไปชมเรื่องราวในครั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางกันได้เลยครับ
[สู้ PM2.5] แปลงพัดลม ให้เป็นเครื่องฟอกอากาศ ด้วยงบ 220บาท
(โดยคุณ Toys Vlogger)
สวัสดีครับ จากที่เคยมานำเสนอ วิธีแปลงแอร์เป็นเครื่องฟอกอากาศไป แต่บางคนบ้านไม่มีแอร์ และบางทีเปิดแอร์ทั้งวันก็เปลืองไฟมาก วันนี้เลยมานำเสนอวิธีแปลงพัดลมเป็นเครื่องฟอกอากาศครับ จะง่ายและดีแค่ไหน ลองชมกันเลยครับ
เอาพัดลมที่ต้องการจะแปลงมา อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนนะ
จากนั้นก็ใช้เตรียมแผ่นกรอง 3m filtrete ซองเล็กขายกัน 220 บาท แต่ถ้าซื้อช่วงโปรมันจะซื้อ 1 แถม 1 นะ (3m มาสปอนเซอร์บ้างนะ โฆษณาให้หลายอันแล้ว ) เพราะกรองได้ 0.1 ไมครอน หรือถ้ามีแผ่นกรอง Hepa ยี่ห้ออื่นก็ใช้ได้ครับ แต่ผมยังไม่เห็นมีใครทำขายนะ
จากนั้นเราก็ถอดพัดลมออกมา เพื่อเอาตะแกรงด้านหลังออกมาถอดออก
ถอดให้หมด
จากนั้นก็เอาแผ่นกรองมาเทียบให้ขนาดเท่ากัน แล้วตัดให้พอดี
.
.
จากนั้นตัดเป็นรูตรงกลาง เอากว้างหน่อยนะ ให้พ้นขอบพลาสติก ของมอเตอร์ด้านหลัง เพื่อกันเส้นใยหลุดรอดเข้าไป
จากนั้นใช้กาว 2 หน้าติดเส้นใยกับตะแกรงเข้าด้วยกัน
จากนั้นก็ประกอบพัดลมกลับ
.
.
รู้สึกเลยว่าอากาศที่ออกมาดีขึ้น สดชื่นเหมือนยืนอยู่บนไหลเขา แต่เดี๋ยวจะหาว่ามโน เราจะทำการเทส ว่ามันรับมือฝุ่นละอองของ PM2.5 ได้ดีแค่ไหน
ต้องขออัญเชิญนักแสดงอีกคนออกมา นั่นคือ เครื่องฟอกอากาศ Mi โดยเราจะนำใส้กรองมันออก เพื่อจะใช้งานเพียงเครื่องวัด PM2.5 ของเขาเท่านั้น
ก่อนทดลองผมได้เปิดประตู เพื่อให้ฝุ่นละออง PM2.5 เข้ามาในบ้าน โดยพื้นที่ที่ทดลองจะประมาณ 60 ตรม. ที่ค่าฝุ่นละอองจะอยู่ที่ 60µg./m3 (ไม่กล้าเอาเข้ามาเยอะกลัวตาย ฮ่า) จริงๆค่าที่ไม่โอเคจะเริ่มที่ 75 µg./m3 ขึ้นไป
ค่าฝุ่นละอองก็ขยับตัวลงมาเรื่อยๆ
.
ผ่านไปประมาณ 1 ชม ค่าก็มาจบที่ 32 µg./m3 เปิดต่อก็ไม่ลดลงแล้วนะ ก็เอาเป็นว่าส่วนตัวผมโอเคกับผลที่มันทำได้นะครับ
ที่มา : Toys Vlogger .