หนึ่งในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมก็คือ โฮมสเตย์ แม้ว่ามันจะเป็นธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่ารีสอร์ท แต่ก็มีจุดเด่นคือมักจะเน้นให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสกับบรรยากาศของชุมชนในโฮมสเตย์นั้นๆ ให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าได้พักผ่อนอยู่ในบ้านตากอากาศของตัวเอง
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาเพื่อนๆ ชาวเว็บไปชม บ้านสวนตะวันใส (ลุงม่อยโฮมสเตย์) โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย รายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติของป่าไม้ และมนต์เสน่ห์ของลุ่มน้ำแม่ลาวที่ไหลผ่านตลอดแทบทุกช่วงฤดูกาล สร้างความสดชื่น สงบนิ่ง เย็นสบาย แก่ผู้พักอาศัยในละแวกนั้น ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศแห่งการพักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ตามมาชมกันเลยค่ะ
เริ่มจากบรรยากาศโดยรวมของโฮมสเตย์ “บ้านสวนตะวันใส” กันก่อนเลยค่ะ
บ้านสวนตะวันใส มีบรรยากาศของวิถีชีวิตชนบทที่เรียบง่าย มีความเข้ากับธรรมชาติรอบๆ อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น สะท้อนลงบนผืนลำธารที่มีสะพานไม้วางพาด หรือแปลงผักริมแม่น้ำ ให้เพื่อนๆ ได้ออกมาเดินสัมผัสพื้นที่โดยรอบอย่างเพลิดเพลิน ท่ามกลางความงดงามของพื้นที่สีเขียวทุกจุดของที่นี่
บรรยากาศแบบชนบท ปลูกผักริมแม่น้ำ
ริมแม่น้ำข้างโฮมสเตย์
สะพานไม้เก่าๆ ชวนให้ระลึกถึงบรรยากาศแบบชนบทอันแสนอบอุ่น
หากเพื่อนๆ ได้ลองเดินมายังพื้นที่ลำธารของน้ำแม่ลาว จะพบกับบรรยากาศที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วในเมืองใหญ่ๆ ทุกอย่างเหมือนถูกหยุดนิ่งไว้ เหลือเพียงแต่เสียงของน้ำที่ไหลเอื่อย และเสียงใบหญ้าที่กระทบกันจากลมที่พัดผ่าน
ชมบรรยากาศโดยรอบแล้ว มาชมที่พักกันบ้างค่ะ
บ้านสวนตะวันใสแห่งนี้มีบ้านพักสไตล์เรือนไม้ให้เลือกถึง 5 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กาแลริมน้ำ, บ้านต้นไม้, บ้านอินทรีย์, ห้องชบา และหากเพื่อนๆ อยากจะพักผ่อนแบบนอนกินลมชมดาว ที่นี่ก็มีเรือนเปิดโล่งอย่าง บ้านหลองข้าว ไว้เป็นอีกตัวเลือก พร้อมแล้วตามไปชมแต่ละหลังกับ ในบ้าน กันเลยค่ะ
1. กาแลริมน้ำ – บ้านริมน้ำดีไซน์เล่นระดับ
มาชมบ้านหลังแรกกันเลยค่ะ กาแลริมน้ำ ภายนอกเน้นการออกแบบเป็นเรือนไม้ โดดเด่นด้วยผนังฝาไม้สีเข้ม และบานหน้าต่างกระจกผสมกับบานหน้าต่างไม้แบบเรือนไทยสมัยก่อน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการออกแบบตัวเรือนให้มีลักษณะเหมือนสี่เหลี่ยมคางหมู สอดรับกับธรรมชาติรอบๆ เป็นอย่างดี
.
ด้านหน้าบ้านกาแลริมน้ำหันหน้าไปทางลำแม่น้ำสายเล็กๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นของต้นไม้ ใบหญ้า และลำธารที่นิ่งสงบ พร้อมชานพักด้านนอก ให้คนที่พักบนเรือนนี้ได้ออกมานั่งชิลจิบชากาแฟ รับบรรยากาศดีๆ ในตอนเช้า
พื้นที่ภายในห้องโถง สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างทั่วถึง ด้วยบานกระจกขนาดกว้าง ช่วยเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ค่ะ
.
.
จากห้องโถง เชื่อมสู่ห้องนอนที่อยู่บนพื้นที่สูงกว่า
การตกแต่งภายในห้องนอน ถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย มีการเลือกใช้ห้องเป็นโทนสีขาวสว่างตา โชว์เสาไม้แบบดิบๆ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น นอกจากนั้นยังมีเครื่องใช้ไว้อำนวยความสะดวกอย่างครบครันภายในห้อง
.
.
2. บ้านต้นไม้ – เรือนไม้ริมน้ำ มีระเบียงพักผ่อน
บ้านพักหลังถัดไปน่าจะถูกใจสำหรับใครที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบเอาท์ดอร์ค่ะ เพราะ บ้านต้นไม้ หลังนี้มีพื้นที่ไว้นั่งเล่นผ่อนคลายด้านนอก โดยออกแบบที่นั่งเป็นชานตาข่ายยื่นออกไปจากเรือนพัก เพื่อให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้แบบเต็มๆ
.
บริเวณทางเข้าข้างบ้าน
พื้นที่ระเบียงพักด้านข้างตัวบ้านต้นไม้มีขนาดค่อนข้างกว้าง เหมาะออกมานั่งชิล หรือจะทำปิ้งย่างกินง่ายๆ สำหรับมื้อค่ำก็ยังได้ รับรองว่าพอหน้าหนาวเพื่อนๆ จะยิ่งได้บรรยากาศสุดเย็นสบายอย่างแน่นอนค่ะ
.
นอกจากนี้ยังมีเปลตาข่ายติดริมระเบียง ให้ผู้พักอาศัยได้นอนเล่นชมวิวแม่น้ำชิลๆ อีกด้วย
.
ในส่วนของห้องพักภายในจะเป็นเตียงคู่กัน สำหรับ 2 คน และมีสไตล์การตกแต่งคล้ายกับกาแลริมน้ำแบบแรก แต่ห้องนี้จะใช้เสื่อน้ำมันลายไม้แทน ซึ่งให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เข้ากับวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในห้อง
บริเวณปลายเตียงจะเป็นชั้นวางแบบท่อนไม้ซึ่งถูกวางเรียงกันอย่างสวยงามแทนผนังธรรมดาๆ ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านคอทเทจในต่างประเทศ ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยเพิ่มความรู้สึกแบบที่วางฟืนสำหรับเตาพิงในฤดูหนาวอีกด้วย
ผนังท่อนไม้สุดอบอุ่น
3. บ้านอินทรีย์ – บ้านแนวคอทเทจสุดอบอุ่น
บ้านอินทรีย์ ถือว่าค่อนข้างแตกต่างจากบ้านหลังอื่น แต่ยังคงลักษณะคล้ายเรือนไทย และโดดเด่นด้วยหลังคาแบบมะนิลาทรงสูง เข้ากับสภาพอากาศเมืองไทยได้สบายๆ ส่วนบริเวณหน้าบ้านจะมีชานระเบียงพร้อมที่นั่งด้านนอก เหมาะกับครอบครัวตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ไว้สังสรรค์กันในทุกช่วงฤดูกาล
ชานระเบียงด้านนอกถูกตกแต่งอย่างอบอุ่น ประดับประดาไปด้วยโคมยี่เป็งแบบล้านนา หากจุดไฟด้านในก็จะช่วยให้แสงไฟแบบนวลๆ ดูแล้วน่ารักมากๆ เลยค่ะ
.
พื้นที่ภายในถูกออกแบบไว้อย่างเรียบง่าย มีการเลือกใช้กระจกเป็นสีโบราณ ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดูสดใส และให้ความรู้สึกแบบคลาสสิค นอกจากนั้นในห้องหลักจะมีเตียงทั้งสองฝั่ง ไว้พักกันได้ทั้งครอบครัว
.
.
.
.
4. ห้องชบา : เรือนพักด้านข้างของบ้านพักอินทรีย์
ด้านข้างของบ้านพักอินทรีย์จะมีห้องติดกันเป็นประตูกระจก ซึ่งห้องนี้ คือ ห้องพักชบา ที่แยกออกมาจากห้องหลัก เผื่อว่าเพื่อนๆ มาพักกันหลายคนแล้วเตียงนอนไม่พอ ก็สามารถจองห้องนี้เพิ่มได้นะคะ
ภายในห้องมีเตียงเดี่ยว 4 เตียง พร้อมการตกแต่งเน้นในโทนสีขาวสบาย ดูโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง และบานหน้าต่างหลายบาน เหมาะสำหรับใครที่ชวนกันมาเที่ยวเป็นกลุ่มเพื่อนสุดๆ ค่ะ
.
.
5. บ้านหลองข้าว – บ้านพักที่เหมือนหลองข้าว นอนบนระเบียงกลางแจ้ง
บ้านหลองข้าว เป็นบ้านพักที่เหมือนกับหลองข้าว หรือยุ้งฉางที่มีไว้เก็บข้าวในสมัยก่อน ซึ่งเรือนพักนี้มีความเป็นเรือนไทยไม้ดั้งเดิม ยกใต้ถุนสูงมีพื้นที่ใช้สอยด้านล่าง พร้อมชานบันไดก่อนเดินขึ้นสู่ด้านบน นอกจากนั้นงานโครงสร้างไม้ที่โชว์อย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นโครงหลังคา เสา คานขนาดใหญ่ ก็ช่วยให้บ้านดูโดดเด่นมาก
บริเวณใต้ถุนด้านล่าง เป็นที่นั่งชิลสบายๆ ไว้รับประทานอาหาร หรือดื่มชากาแฟในตอนเช้า พร้อมห้องน้ำในตัวที่ถูกสร้างเป็นผนังแบบฟืนไม้เรียงกัน เข้ากันดีกับบรรยากาศสีเขียวของต้นไม้รอบๆ ตัวบ้านค่ะ
บ้านหลองข้าวนี้ เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้นอนภายในเรือนแบบเปิดโล่งได้ โดยสามารถปูเตียงนอนในมุ้ง เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงใบไม้ เสียงนกร้องเพลง ลมเย็นๆ และอากาศบริสุทธิ์ภายนอก
.
.
.
.
การเดินทางจากบ้านสวนตะวันใส (ลุงม่อยโฮมสเตย์) ใช้เวลาจากสนามบินเชียงรายราวๆ ครึ่งชั่วโมง ถือว่าไม่ไกลมาก ซึ่งระหว่างนั้นเพื่อนๆ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบๆ ระหว่างทางได้ พร้อมการต้อนรับที่เป็นกันเอง และยังมีบริการอาหารเช้า ฟรี Wifi เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มาเป็นคู่ หรือมาเป็นครอบครัวค่ะ ^_^
Facebook : Baan Suan Tawan Sai
แผนที่ Google Map : goo.gl/maps/FnHEZyr4fPbrM2bF7
โทรศัพท์ (สำหรับจองห้องพัก) : 086-193-9096, 081-881-7577
.