ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีการและรูปแบบของการก่อสร้างจะพัฒนาจนทันสมัยแล้ว แต่ สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ก็ยังนับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้
นอกจากจะเป็นภูมิปัญญาการก่อสร้างที่คำนึงถึงความสมดุลของการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นนั้นๆ สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นยังมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงจิตวิญญาณและความรู้ความสามารถของคนรุ่นก่อนได้อย่างชัดเจน
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาเพื่อนๆ ไปชมความงดงามของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นไทยในยุคร่วมสมัย “อาสา ฟาร์มสเตย์” ฟาร์มเกษตรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ตีนดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตามมาชมรายละเอียดกันเลยค่า
อาสา ฟาร์มสเตย์ เป็นผลงานการดีไซน์ของทีมสถาปนิก Creative Crews ที่ออกแบบบ้านฟาร์มเกษตรให้กับคู่สองสามีภรรยา ผู้รักในวิถีชีวิตดั้งเดิม และอยากจะให้คนไทยและคนต่างชาติได้เข้ามาพักผ่อน พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตแบบคนไทยสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การเกษตร และภูมิปัญญาในการสร้างบ้านตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นไทย
พื้นที่ทั้งหมดของฟาร์มแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นเรือนหลักๆ 4 เรือนด้วยกัน ซึ่งแต่ละหลังนั้นก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป คือ เรือนรับรองแขก เรือนหลักของผู้ดูแล และเรือนสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ
แบบบ้านทั้งสี่เรือนที่หันหน้าเข้าหากัน
แน่นอนว่าวัสดุหลักของเรือนใช้ไม้เกือบทั้งหมด พร้อมด้วยหลังคาทุกเรือนจะเป็นทรงหน้าจั่วหมด ซึ่งเหมาะกับสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน ช่วยระบายอากาศและช่วยให้น้ำฝนไหลได้อย่างสะดวก อีกทั้งหลังคาแบบนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะโชว์ให้เห็น อกไก่ และ อะเสไม้ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่สำคัญของเรือนไทย
ใต้ท้องหลังคาที่โชว์ให้เห็น อกไก่ จันทัน อะเส คาน และขื่อไม้
นอกจากนั้นยังมีการใช้ฝาผนังไม้แบบที่ด้านหน้าเรือนคล้าย ฝาปะกน แต่เปลี่ยนเป็นแพทเทิร์นเรียบๆ เป็นฝาไม้ในแนวนอนแทน แสดงถึงกลิ่นอายแบบไทยๆ
และที่สำคัญเลยคือการยกใต้ถุนสูงที่สามารถรองรับในการทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งช่วยให้ลมพัดผ่านใต้บ้านได้สะดวกสบายมากขึ้น
จุดเด่นอีกอย่างของเรือนไทยแบบโบราณคือ การทำเสาไม้ให้เป็นเหมือนข้อต่อขนาดต่างๆ ประกบเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังใช้ตะปูน้อยลงอีกด้วย
เช่นเดียวกับคานไม้คู่ ที่วางประกบกับหัวเสารับน้ำหนักหลังคา
วิธีคล้ายคลึงกันกับข้อต่อ ที่นำมาใช้กับลูกนอนบันไดที่ตอกเข้ากับคาน และเสริมความแข็งแรงด้วยไม้ชิ้นเล็กเสียบเข้าไป
เข้ามาชมบรรยากาศภายในกันบ้างค่ะ เมื่อเดินเข้ามาจะเป็นเรือนรับแขก คุณจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เปิดโล่งสบายๆ รับลมและแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังมีส่วนของพื้นไม้ขัดด้วยเงา บานประตูไม้แบบเลื่อน ซึ่งช่วยบ้านดูมีความทันสมัยมากขึ้น
ในส่วนของห้องนอนนั้นจะให้ความรู้สึกที่โล่งโปร่งสบาย และดูอบอุ่นด้วยผนังไม้ และเตียงของเรือนรับแขกนี้ยังสามารถกางเป็นแบบมุ้งได้ ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนราวกับว่าได้ย้อนกลับไปเรือนพักสมัยก่อน
ห้องน้ำของคนสมัยก่อนมักจะตั้งอยู่นอกตัวบ้านเพราะในอดีตไม่ได้มีระบบการจัดการน้ำและสุขอนามัยที่ดีพอ ในขณะที่ห้องน้ำของบ้านสมัยนี้ก็ถูกเปลี่ยนนำมาไว้ภายในตัวบ้านกันเกือบจะทั้งหมด ทีมสถาปนิกจึงได้ออกแบบห้องน้ำโดยให้มีลักษณะแบบเปิดโล่งอย่างเด่นพิเศษ เพื่อให้มีกลิ่นอายของการใช้ห้องน้ำแบบคนโบราณอยู่ด้วย
หากเพื่อนๆ ชาวเว็บที่สนใจอยากแวะไปเรียนรู้วิถีชีวิตหรือพักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติและบรรยากาศแบบชนบทสมัยก่อน สามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่เพจ Ahsa Farmstay เลยนะคะ ^^
Facebook Page : Ahsa Farmstay
ที่มา : archdaily
ออกแบบ : Creative Crews
ถ่ายภาพ : Baan lae suan, Thitaya Tan, Jirakit Panomphongphaisarn
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.