หลายคนคงเคยเห็นการตกแต่งห้องแนวอบอุ่น ผ่อนคลายกันไปเยอะแล้ว จนคุณอาจเบื่ออะไรซ้ำๆ เดิมๆ เราลองมาเพิ่มสีสันสุดคัลเลอร์ฟูลให้คอนโดขนาดกระทัดรัดกันดู เพื่อเพิ่มความสดใส และความมีชีวิตชีวาให้ผู้อาศัย
ครั้งนี้ ในบ้าน จึงได้มาพร้อมกับไอเดียแต่งคอนโดแนวคัลเลอร์ฟูลสุดจี๊ด จากคุณ Dr.Manta ที่ได้ทำการเนรมิตห้องเปล่า ให้กลายเป็นห้องนอนที่โดดเด่นด้วยงานศิลปะชิคๆ น่านอนที่สุด หากเพื่อนๆ สนใจ ตามไปชมกันเลย
แต่งคอนโดแนวคัลเลอร์ฟูล สดใสโดดเด่น ด้วยงานศิลปะ ชิคๆ คูลๆ เอาใจวัยรุ่น
(โดย Dr.Manta)
คอนเซปต์ที่ผมคิดเอาไว้ในการตกแต่งครั้งนี้คือ ให้ดูมีสีสันสดใสเข้ากับวัยรุ่น (เดอะ) อย่างผมอยู่แล้วไม่อึมครึม
เฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องมากชิ้น เนื่องจากไม่ต้องการให้อึดอัดมาก พวกตู้เสื้อผ้ากะว่าจะไม่เอามาใส่แล้ว เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด นานๆ เข้ามาพักทีนึงคงไม่ได้ใช้ตู้ใส่เสื้อผ้าสักเท่าไหร่
กะว่าจะไปหาซื้อแท่นที่เค้าแขวนเสื้อมาวางเอาไว้แทน แต่คงไว้หาซื้อมาใส่คราวหน้าก็แล้วกันส่วนพวกเสื้อกางเกงบางอย่างก็พับๆใส่ตู้ซึ่งผมคิดว่ามีเหลือเฟือแล้วครับ
คอนโดที่ซื้อ(ศุภาลัยริเวอร์เพลสเจริญนคร) เค้ามีแค่ห้องเปล่าๆให้ ขนาด 35 ตรม. แถมชุดครัวตรงทางเข้าให้หน่อยนึง ที่เหลือก็แล้วแต่เจ้าของจะหาอะไรมาใส่เอง กระทู้นี้จะบอกงบประมาณว่าของแต่ละอย่างราคาเท่าไหร่ก็แล้วกัน เผื่อใครสนใจจะไปหามาใส่ห้องตัวเองจะได้กะงบประมาณถูกครับ
เก้าอี้ Egg chair สีแดงแปร๊ดสองตัวนี้ซื้อมาจากแถวลาดพร้าว ในราคาตัวละ 4500 บาท ตอนแรกกะว่าจะเอา Ball Chair แต่มาดูแล้วขนาดมันใหญ่ไป และลองนั่งแล้วไม่สบาย เนื่องจากติดหัว โต๊ะกลางสีขาวระหว่างเก้าอี้ก็เอามาจากที่เดียวกัน ซื้อมา 2200 บาท
ส่วนเชิงเทียนนั้นเป็นของ Habitat แต่ซื้อมาในช่วงทีเค้าลดราคากระหน่ำ ในโปรโมชั่น Every item must go ว่ากันง่ายๆคือขายโล๊ะทิ้งนั้นเอง ของที่เค้าเอามาขายก็จะเป็นของมีตำหนิ เชิงเทียนอันนี้ซื้อมา 900 บาท(ราคาของสมบูรณ์อยู่ที่หลายพันบาท) โคมไฟใหญ่ซื้อมาจากลาดพร้าว ร้านเดียวกับที่ซื้อเก้าอี้ ผลิตในจีนแต่สวยเหมือนของแท้ ราคา 4500 บาท
เตียงอันนี้คงเป็นของชิ้นที่แพงที่สุดในห้องแล้วมั้้ง เพราะคิดว่าเราใช้เวลาบนเตียงหลายชั่วโมง เลยกะเอาให้มันนอนสบายๆ หน่อย ไปซื้อมาจากงานโฮมโปรมา ยี่ห้อ Omazz รุ่น Florian Hill ราคา 38,000 บาท
วอลล์สติ๊กเกอร์รูปต้นไม้สีดำสั่งซื้อทาง Internet มาแปะเอง ชิ้นนี้ราคา 1200 บาท (ถ้าใครสามารถเพนท์ได้เองก็จะประหยัดไปได้เยอะครับ) อ้อ เตียงนอนผมเอาวางกับพื้นเลยครับ เพราะไม่อยากเอาวางบนเดียง เดี๋ยวมันจะทำให้ห้องดูอึดอัดไปครับ
ส่วน Wall sticker ลายนี้ถูกกว่าเยอะ ซื้อมา 430 บาท น่ารักดี เพื่อนเข้ามาดูก็บอกว่าสวย
ผ้าม่านอาจดูไม่ค่อยเข้ากับห้องเท่าไหร่ เพราะผมเอาของเก่าจากบ้านที่เชียงรายมาติดตั้งเอง จะทิ้งก็เสียดายของครับ โชคดีที่วัดออกมาแล้วขนาดพอดีกับหน้าต่างที่คอนโดเป๊ะเลย แต่มันยังกันแสงไม่ค่อยดี เลยกะว่าอาจไปหาซื้อมู่ลี่มาใส่ไว้ข้างในอีกชั้นท่าจะดี
พรมเช็ดเท้าก่อนขึ้นเตียงซื้อมาจาก Index living mall มาบุญครอง 750 บาทมั้ง มีสามชิ้นคือชิ้นใหญ่ (ชิ้นที่เห็น) และอีกชิ้นหนึ่งวางหน้าห้องน้ำ อีกชิ้นวางหน้าชักโครก
มาถึงมุมดูทีวีบ้างดีกว่า ตัวทีวีแอลซีดีผมซื้อมาจากเซ็นทรัลเวิร์ลในราคา 14000 บาท (บางคนหาซื้อได้ในราคา 12000 บาท)
ชั้นวางทีวีผมซื้อจากร้านเฟอร์นิเจอร์หน้าปากทางเข้าคอนโดศุภาลัยเลย สั่งปุ๊บอีกครึ่งชั่วโมงยกมาประกอบพรึ่บพรั่บเสร็จเลย อันนี้ซื้อมาในราคา 3000 บาท (เรียกมา 3500 ต่อได้อีกห้าร้อย)
ส่วนโคมไฟซื้อมาจาก Index ในราคา 1200 บาท
อีกมุมหนึ่งของเตียง พรมยี่ห้อ Guy laroche ที่บอกราคาไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนโคมไฟหัวเตียงซื้อมาจาก Habitat ในโปรโมชั่นลดราคากระหน่ำเช่นกัน คุ้นๆ ว่าราคา 450 บาทมั้ง เพราะว่ามันมีตำหนินิดนึงเค้าเลยเอามาขายทอดตลาด
แต่ว่าขายเฉพาะตัวโคมน่ะครับ ขาตั้งผมไปหาซื้อมาจากสวนจตุจักรต่างหากในราคา 1000 แล้วเอามาประกอบเข้ากันอีกที ผมไปซื้อสวิทซ์ Dimmer มาต่อเข้ากับสายไฟด้วย เพื่อที่ว่าเราจะได้หรี่ไฟให้แรง – อ่อนได้ตามต้องการ ต่อไม่ยากครับ ทำได้เองสบายๆ
อันนี้ถ่ายใกล้ๆ ให้เห็นลวดลายบนโคมไฟหัวเตียงเมื่อกี้ผมชอบเพราะว่ามันเป็นอิริยาบทของมนุษย์ที่หลากหลายถ้าเราหมุนไปก็จะเป็นเงาของคนที่ตกอยู่บนฝาผนังสวยดีครับ
มองจากข้างใต้บ้างให้เห็นว่าการประกอบขาโคมไฟเข้ากับตัวโคมไม่ยุ่งยากครับแค่หมุนเกลียวเข้าเท่านั้น
บรรยากาศ Exotic จนสองสามีภรรยาที่แวะเวียนมาเยี่ยมห้องอดใจไม่ได้ เริ่มพรอดรักกัันให้เราอิจฉาเล่นๆ คริๆๆ (ความจริงไม่ได้พรอดรักกันหรอกครับ ดูดีๆ มือพี่ต๊อกกำลังบีบคอเมียอยู่ต่างหาก 55555+)
อันนี้เป็นวิวจากห้องมองออกไป เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้านสะพานสาธร ตึกสูงๆนั้นเป็นย่านสาธรครับ ตอนนี้คงได้แค่มองตึกราคาแพงแถวนั้นไปก่อน เนื่องจากเห็นราคาแล้วซื้อไม่ไหวครับราคาสี่ห้าล้านเป็นอย่างตำนู่นแหละ
คอนโดผมซื้อมา 1.77 ล้าน แต่ทำเลผมว่าโอเคเลยครับ ยิ่งตอนนี้มีส่วนขยายรถไฟฟ้ามาที่สถานีกรุงธนบุรียิ่งเดินทางสบายเข้าไปอีก เย๊ๆ
ถ่ายย้อนไปให้เห็นตรงประตูทางเข้าห้อง และห้องน้ำกับเคาท์เตอร์ครัว ตอนแรกผมกะว่าอาจจะรื้อเคาท์เตอร์ครัวออกครึ่งหนึ่งแล้วทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อินติดผนัง เหมือนเวลาที่เราไปโรงแรมแล้วมีตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงประตูทางเข้า แต่ตอนนี้คงชะลอโครงการเอาไปก่อน เพราะว่าเงินหมดแล้วครับ 5555+
ให้เห็นโคมไฟตั้งพื้นขนาดใหญ่ชัดๆอีกครั้งหนึ่ง ผมชอบโคมอันนี้ที่สุดครับ ราคาโดนใจด้วย ไม่แพง (เคยไปดูบางที่ 18,000 เห็นแล้วเหงื่อตกเลย)
ดอกไม้ตั้งโต๊ะเป็นดอกไม้เทียม ซื้อมา 99 บาท เพราะถ้าเอาดอกไม้จริงมันคงเหี่ยวตายไปแล้ว เนื่องจากผมนานๆจะเข้ามารดน้ำให้มันทีนึงครับ
นาฬิกาพวกนี้ซื้อมาจาก Index ในราคาเรือนละ 99 บาท ตอนแรกจะซื้อมาเรือนเดียวแต่กลัวมันเหงา เลยซื้อมาซะสามเรือนเลย ให้เข้ากับคอนเซปต์สีสันวัยสะรุ่นอย่างเราซะหน่อย เอามาตั้งเป็นเวลาที่เชียงราย เวลาที่กรุงเทพ และเวลาในหัวใจเธอ (แหวะๆๆๆ)
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณพี่รี่ พี่ต๊อกที่อาสามาเป็นเบ๊แบกของเข้าห้อง เลยตอบแทนด้วยการให้นอนพักที่คอนโดหนึ่งคืน ให้พี่เค้านอนบนเตียงเลยน่ะ ส่วนเรานอนต๊อกต๋อยข้างเตียง แอบชำเลืองตาขึ้นไปบนเตียงเห็นเค้าจู๋จี๋กันแล้วอิจฉา 5555+
แต่งห้องเองเหนื่อยแต่มีความสุขครับ
ลืมบอกราคาสินค้าไปอีกอย่างนึงครับ ภาพก่อนๆหน้านี้จะมีพรมชิ้นสีน้ำตาลเข้มหนึ่งผืน ซื้อมาในราคา 2490 บาทจากอินเด็กซ์เช่นกัน แต่ภาพนี้เป็นภาพในคืนก่อนที่จะไปซื้อพรมกับชั้นวางทีวีครับ เลยเอาผ้าอย่างอื่นปูๆนอนไปก่อน
ส่วนชั้นวางทีวีก็แก้ขัดโดยเอาวางบนกระเป๋าอุปกรณ์ดำน้ำ ดูแล้วอนาถาดีครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมครับ ใครมีคำแนะนำบอกได้น่ะครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเลย
ที่มา : Dr.Manta