ผักต่างๆที่เราซื้อมาทำอาหาร จะมีส่วนที่ใช้ไม่ได้นั่นก็คือ ราก นั่นเอง และสิ่งที่เราทำเป็นประจำก็คือทิ้งมันลงถังขยะ
แต่จริงๆแล้วเราสามารถนำมันไปปลูกใหม่ ให้งอกเป็นผลผลิตเพื่อเก็บไว้ใช้ต่อไป วันนี้ ในบ้าน มีตัวอย่างพืชผักต่างๆ ที่เราสามารถคืนชีพให้กับมันได้ ไม่รอช้า ลองไปชมกันเลยดีกว่า!!
1. ต้นหอม
หากกินช่วงลำต้นของมันหมดแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งส่วนที่เป็นราก ให้นำมาใส่แก้วที่มีน้ำเล็กน้อย วางไว้ในที่ที่มีแสงสว่างพอเพียง หรือริมหน้าต่างก็พอได้นะ หลังจากนั้นมันก็จะงอกออกมาเป็นต้นหอมต้นใหม่
2. กระเทียม
นำกระเทียมวางไว้ในภาชนะแล้วเติมน้ำเล็กน้อยให้มันพอชื้นดูนะเหมียว ไม่นานกระเทียมมันก็จะงอกใบขึ้นดังในรูป
3. ผักกวางตุ้งจีน (บ็อคฉ่อย)
ให้นำส่วนที่เป็นโคนของกอผักกวางตุ้งจีน แช่น้ำไว้ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ พอผักเริ่มแตกยอดใหม่ ก็ย้ายไปปลูกในดินต่อได้เลย แค่นี้คุณก็จะได้ผักกวางตุ้งจีน กอใหม่ไว้ทำอาหารโดยที่ไม่ต้องไปซื้อเลยล่ะ
4. แครอท
ส่วนหัวของแครอทที่เรามักจะตัดทิ้งกัน ให้นำไปวางในแก้วที่มีน้ำปริ่มๆ แครอทจะแตกยอดใหม่ สามารถนำไปปรุงอาหารต่อได้
5. ผักคึ่นช่าย
เอาส่วนที่เป็นโคนของคึ่นช่าย ไปวางไว้ในแก้วที่มีน้ำ รอจนคึ่นช่ายแตกยอดใหม่ จากนั้นก็ย้ายไปปลูกในดินต่อได้เลย
6. ผักกาดหวาน
นำส่วนที่เป็นราก วางในจานหรือถ้วยที่มีน้ำสูงประมาณครึ่งนิ้ว รอจนเริ่มแตกยอดใหม่ จากนั้นจึงย้ายลงดินปลูก
7. ผักชี
ใช้ส่วนโคนของต้นผักชีที่มีรากติด แช่ไว้ในแก้วน้ำ ผักชีจะแตกยอดใหม่เรื่อยๆ หากอยากได้ใบที่โตกว่านี้ ก็ให้ย้ายไปปลูกในดินนะ
8. สับปะรด
กินสับปะรดเสร็จแล้ว ให้ตัดส่วนใบของมันออก แล้วเอาไม้จิ้มฟันเสียบไปที่ก้านของมัน จากนั้นก็เอาไปแช่น้ำ แล้วเอาออกตากแดดวันเว้นวัน พอเริ่มเห็นรากที่งอกออกมาแล้ว ก็นำลงปลูกกับดินได้เลย
9. ขิง
ลองนำขิงลงปลูกในดินแบบในรูปดู ใช้เวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น มันก็จะงอกก้านใหม่ออกมาเลย
10. โหระพา
สามารถนำก้านของใบโหระพาไปปลูกต่อได้นะ แต่ต้องมีขนาดยาวประมาณ 4 นิ้วขึ้นไป ให้เอาก้านไปแช่ในน้ำ แต่ห้ามให้ใบจมน้ำ เพียงเท่านี้ไม่กี่วัน มันก็จะงอกรากใหม่ขึ้นมา จากนั้นก็นำไปปลูกต่อในดินได้เลย
11. ตะไคร้
อันนี้เหมาะสำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศ แล้วหาซื้อตะไคร้ไม่ค่อยได้ โดยเราจะใช้ส่วนก้านมาแช่ไว้ในน้ำ แล้วเอาไปตากแดด ภายใน 7 วัน มันก็จะงอกออกมาใหม่ เสร็จแล้วก็นำไปลงดิน
อีกแนวทางในการประหยัด แถมยังปลอดสารพิษอีกด้วย คุณพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายลองเอาไปทำกันดูนะจ๊ะ ^_^
ที่มา : thaiinfonet ,pooyingnaka