เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่กระทบกับผู้คนนับหมื่นคน โดยปรากฏว่ามีการเคลื่อนไหวทางธุรกรรมอย่างผิดปกติในบัญชีทั้งที่ผูกกับระบบออนไลน์ แม้กระทั่งบางคนก็ไม่ได้ผูกกับระบบออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะการถูกถอนเงินครั้งละไม่มาก แต่มีจำนวนหลายร้อยครั้ง บางคนสูญเงินไปนับหมื่นบาทเลยทีเดียว
ต่อมาทางแบงก์ชาติได้ให้ข้อมูลว่า เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการ กับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารเจ้าของบัตรได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติและติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้แล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น
ในบ้าน จึงได้รวบรวม 5 ขั้นตอนการปฏิบัติ เมื่อเกิดปัญหาเงินหายจากบัญชีบัตรเครดิต บัตรเดบิตและบัญชีเงินฝาก ดังนี้
1. แจ้งอายัดบัตรเครดิต และบัตรเดบิตทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเลขหน้าบัตร และบัตรเดบิต 16 หลัก รวมถึง เลข CVV หรือ CVC 3 ตัวหลังไปใช้
2. แจ้งคอลเซ็นเตอร์ว่า ปฏิเสธการจ่ายรายการ หรือธุรกรรมต่าง ๆ จากต่างประเทศ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นจะต้องซื้อ หรือใช้บริการ ให้โทรศัพท์กลับไปเปิดใช้บริการอีกครั้ง
3. เก็บหลักฐานทั้งหมดไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ
4. ตรวจสอบใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต และบัญชีที่มีบัตรเดบิตอยู่เสมอ ซึ่งทางธนาคารจะใช้เวลาในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้น จากนั้นจะคืนเงิน หรือวงเงินบัตรเครดิตให้ตามเดิม
5. ควรตั้งลิมิตการใช้จ่ายบัตรเครดิต และบัตรเดบิต หรือที่เรียกว่า จำกัดวงเงินในการใช้จ่าย และหมั่นตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตอยู่เสมอ
ทั้งนั้นทั้งนี้ ในบ้าน อยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีเอาไว้อยู่เสมอ เผื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เราจะได้สามารถจัดการปัญหาได้ทันท่วงที ความเสียหายทางการเงินจะได้น้อยลงตามไปด้วย
หมายเลข Call center ของแต่ละสถาบันการเงิน
ที่มา: thairath, ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน