สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเว็บที่น่ารักทุกท่าน สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อคอนโดมิเนียมใหม่ หรือว่ามีคอนโดมิเนียมเก่าที่อยากจะปรับปรุง และตกแต่งกันอยู่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกแบบ และตกแต่งอย่างไรดี และมีค่าใช้จ่ายสักเท่าไหร่
วันนี้ ในบ้าน มีมีเรื่องราว การตกแต่งคอนโดฯ แบบ Less is More ด้วยงบน้อย จากคุณ สมาชิกหมายเลข 2030228 ที่สามารถเนรมิตภายในคอนโดฯ ให้สวยงามหรูหราด้วยงบไม่ถึงแสนบาท เราไปชมเรื่องราวกันได้เลยครับ
แชร์ไอเดียแต่งคอนโด Less is More งบน้อย แต่งน้อย แต่อิมแพ็คมาก
(โดย สมาชิกหมายเลข 2030228)
วันหนึ่งแฟนบอกว่า มีคอนโด 72 ตร.ม. เป็นแบบ 2 Bedrooms ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก แม่ให้ช่วยรีโนเวทใหม่ให้หน่อย ก่อนที่จะหาผู้เช่ารายใหม่ เราตกลงรับปากทันที เพราะเป็นงานถนัดของตัวเองอยู่แล้ว งานหมูๆ แบบนี้ จัดมาเลยค่า แต่มันไม่หมูขึ้นมาทันที เมื่อแม่แฟนบอกว่า “มีงบให้แค่ 5 หมื่นนะ”…
งานหมูๆ ก็ไม่หมูซะแล้ว ปกติออกแบบบ้านราคาหลักล้าน เหลืองบแค่นี้ คิดหนักเลยจ้า ด้วยความที่เป็นคอนโดปล่อยเช่า จึงไม่อยากลงทุนสูงมาก เข้าใจได้ ดังนั้นคอนเส็ป Less is More เลยจ้า (Less นี่หมายถึงเงินนะ ฮ่าๆๆ)
มาดูโซนของห้องกันก่อน
ในห้อง 72 ตร.ม. ประกอบไปด้วย
1.โซนนั่งเล่นกินข้าว
2.ห้องครัว
3.ห้องน้ำ 2 ห้อง
4.ห้องนอนใหญ่
5.ห้องนอนเล็ก
หลังจากวิเคราะห์พื้นที่ เพื่อมาแยกว่า อะไรที่ “จำเป็น” ต้องทำ และ อะไรที่ “ไม่จำเป็น” ต้องทำ
พบว่า ทุกโซนสภาพยังดีอยู่
1. ห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก เพราะโดยรวมบรรยากาศห้อง มีหน้าต่างใหญ่ แต่มันมืด เพราะสีของม่าน จึงคิดว่าเปลี่ยนแค่ม่านก็น่าจะพอ
2. ห้องน้ำ มีน้ำรัวนิดหน่อย ฝักบัวเสีย กระจกบิ่น ให้ช่างมาซ่อมก็น่าจะจบ เรื่องการเปลี่ยนสีกระเบื้อง ตอนแรกก็มีคิดไว้ แต่การปูกระเบื้องเป็นงานเปียก มีความยุ่งยาก จึงไม่อยากทำ และจากสภาพห้องน้ำเดิม มันไม่ได้แย่ ดูสะอาดสะอ้าน ก็ถือว่าโอเค สรุปว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไร
3. ห้องครัว สภาพดีมาก บวกกับคนที่มาเช่า มองเป็นกลุ่มคนต่างชาติ ไม่คิดว่าจะทำครัวจริงจัง จึงแค่ทำความสะอาด ขัดสนิมอะไรนิดหน่อยก็พอ
4. โซนนั่งเล่นและกินข้าว ถือว่าเป็นโซนหลักของห้อง มีพื้นที่ใหญ่สุด (ประมาณ 27 ตร.ม.) คิดว่าถ้าจะลงงบในโซนนี้ น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อภาพรวมของห้องทั้งหมดได้ดีที่สุด เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับห้อง จึงเลือกที่จะแต่งโซนนั่งเล่นและกินข้าวเป็นหลัก
“แค่ 1 ผนัง” เปลี่ยนความรู้สึก
ด้วยความที่งบจำกัด เราจึงเลือกตกแต่งแค่ 1 ผนัง ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแบบอิมแพ็คที่สุด
แล้วจะผนังไหนดี?
เวลาเรานั่งอยู่โซนกินข้าว มองไปส่วนนั่งเล่น ก็ให้ความรู้สึกดี เพราะมีหน้าต่างมองเห็นวิวภายนอก แค่เปลี่ยนสีม่านนิดหน่อย ก็น่าจะโอเคแล้ว แต่พอเวลานั่งที่โซฟาแล้วมองไปโซนกินข้าว มันช่างรู้สึกเหี่ยวเฉา
เราจึงเลือกที่จะแต่งผนังด้านสั้น ฝั่งโซนกินข้าว โดยการเน้นเป็นโทนสีดำ เพราะในห้องมีแต่สีขาวและไม้ สีดำจะทำให้ผนังมีลูกเล่นมากขึ้น บวกกับเฟอร์นิเจอร์ในท้องตลาด ถ้าเป็นสีขาวหรือสีดำจะมีราคาถูกกว่าสีอื่นๆ ด้วย
แรกสุดของการออกแบบเราอยากใช้กระจกเปลือยติดผนังไปเลย เพราะเป็นสิ่งที่เอฟเฟคที่สุดที่จะทำให้ห้องดูมีลูกเล่นมากกว่าการทาสีดำ แต่ด้วยกระจกเปลือยขนาดใหญ่จะมีราคาแพง จึงเปลี่ยนมาใช้เป็นกระจกสำเร็จรูปของอิเกียแทน นำมาติดต่อๆ กันเป็นผืนใหญ่ ส่วนด้านล่าง แบ่งเป็นชั้นวางของโครงเหล็กและตู้รองเท้า ของอิเกียเช่นกัน
หาความเชื่อมโยงของ “เฟอร์เก่า” และ “เฟอร์ใหม่”
หลังจากเน้นที่ผนังหลังโต๊ะกินข้าวแล้ว เราจะมีโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ 4 ตัวของเดิม เป็นไม้อย่างดี จะขายทิ้งแล้วซื้อใหม่ก็เสียดาย แต่มีความรู้สึกที่ไม่เข้าพวกอยู่ ตอนแรกจะเก็บไว้แค่โต๊ะ ส่วนเก้าอี้จะขายทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ เพื่อให้เข้ากับสีดำด้านหลัง
แต่พอลองไปเดินหาเก้าอี้ใหม่ พบว่าแพงมาก เลยเลือกที่จะเปลี่ยนแค่เบาะของเก้าอี้ เบาะสีเหลืองหม่นของเก้าอี้ที่ดูเก่า จนไม่น่านั่ง และดูแปลกแยกจากผนังด้านหลัง จึงเปลี่ยนสีเบาะเป็นสีเทาแทน
เพิ่มโคมไฟห้อยแบบเหล็กเส้น ๆ สีดำ เพื่อให้สอดคล้องกับด้านหลัง ซึ่งจะก็เป็นการช่วยโยงความสัมพันธ์ของผนังและโต๊ะกินข้าวให้เข้ากัน ซึ่งบริเวณเหนือโต๊ะกินข้าว มีดาวไลท์อยู่ 1 ดวงพอดี เราจึงเปลี่ยนดาวไลท์นี้ ให้เป็นโคมห้อย โดยใช้วงจรสวิทซ์เดิม
โคมห้อยซื้อจากร้านในเฟสบุ๊คตอนลดราคามา ถูกมากๆ ถึงแม้จะแถมหลอดมาให้ด้วย แต่เปิดทีเดียวหลอดขาดจ้า เลยไปหาซื้อหลอดแบบ LED ในโฮมโปรมาใส่แทน เลือกแสงแบบ Warmwhite สามารถให้พนักงานทดลองหลอดไฟก่อนได้ด้วย
เพียงเท่านี้บรรยากาศของห้องก็เปลี่ยนไปจากเหี่ยวเฉา แห้งแล้ง กลายมาเป็นอยากกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาขึ้นมาทันทีแล้ว
เปรียบเทียบภาพ Before & After
“เฟอร์เก่า” แปลงโฉมใหม่
ถึงแม้จะเลือกให้ผนังเด่นด้านเดียวเป็นสีดำ แต่จุดอื่นๆ ของห้อง ถ้ายังเป็นสีเดิมอยู่ก็จะมีความไม่เข้ากัน เมื่อสำรวจเฟอร์เก่าในห้องพบว่า มีโต๊ะอยู่ตัวนึงในห้องนอนใหญ่ ที่ไม่ได้ใช้ทำอะไร เป็นโต๊ะไม้ มีรูปร่างสวย แต่สีดูแก่ ไม่เข้าพวก เลยเอามาทาสีใหม่เป็นสีดำ ดูคลาสสิคขึ้นมาเลย
ส่วนโซฟา ยาว 2.3 เมตร จากเดิมเป็นสีครีมๆ ดูเก่าและโทรมมาก จะซื้อใหม่ราคาก็น่าจะเกือบ 5หมื่นแล้ว จึงเลือกที่จะเปลี่ยนสีเบาะในราคาหมื่นเดียว (ส่งไปร้านเดียวกันกับที่ทำเบาะเก้าอี้กินข้าวเลย)
ส่วนโต๊ะทีวี กับโต๊ะกลาง คุณภาพของไม้เป็นคนละเกรดกับโต๊ะกินข้าว เป็นแค่ไม้อัด เลยเลือกที่จะไม่เก็บไว้ และซื้อใหม่เป็นเฟอร์นิเจอร์อิเกียแทน ซึ่งเป็นทรงขาวดำเรียบๆ เพราะผนังฝั่งทีวีนี้ เรามีการทาสีดำที่ประตูเข้าห้องครัว ที่จะเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว ของอย่างอื่นจึงไม่จำเป็นต้องมาแข่งกันเด่น
แอร์ของเดิม พลาสติกขึ้นเหลืองไปตามกาลเวลา แต่ยังใช้งานได้ดีอยู่ จึงทำสีพ่นสีขาวแทน
เปลี่ยนแค่ผ้าม่าน บรรยากาศห้องก็เปลี่ยน
จากที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า โซนนั่งเล่นนี้เปลี่ยนแค่ผ้าม่าน บรรยากาศโดยรวมก็จะเปลี่ยนได้ เพราะจากเดิมผ้าม่านเป็นสีส้ม แสงที่เข้ามาเมื่อสะท้อนกับผนัง ก็จะยิ่งส้มเข้าไปอีก จึงเปลี่ยนสีผ้าม่านเป็นสีเทา ส่วนม่านโปร่ง ช่างทำม่านแนะนำว่า แค่เอาไปซักก็จะสวยเหมือนใหม่แล้ว เลยสั่งตัดม่านและส่งซักม่านโปร่งไปพร้อม ๆ กัน
ส่วนห้องนอนทั้งสองห้องก็แค่เปลี่ยนสีผ้าม่านจากสีเขียวเป็นสีเทา ห้องดูสว่างขึ้นเยอะเลย
สรุปงบประมาณ
สรุปจากตอนแรกตั้งงบไว้ 50,000 ก็เกินมา 29,000 บาท ซึ่งจริงๆ ก็พอจะลดตรงส่วนค่าอุปกรณ์ช่างได้ เพราะเราซื้อสีให้ช่างเอง แล้วดันซื้อมาถังใหญ่เกินไป เหลือเยอะมากๆ อีกอย่างที่น่าจะลดได้ คือเฟอร์นิเจอร์อิเกีย น่าจะหาถูกกว่าได้ แต่พอดีไม่มีเวลาเท่าไร เอาสะดวกก็อิเกียอะแหละ แต่โดยรวมแล้ว แม่แฟนก็บอกว่า โอเค!
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 2030228 .