การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังนั้น เป็นความฝันของคนโดยทั่วไป และก็มีคนอีกไม่น้อยที่ต้องการปลูกบ้านของตัวเอง และบ้านของพ่อแม่บนที่ดินผืนเดียวกัน เพื่อรักษาความใกล้ชิดและความอบอุ่นของครอบครัวใหญ่เอาไว้ ทั้งยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองอีกด้วย
วันนี้ ในบ้าน จะพาเพื่อนๆ ชาวเว็บไปชม ปลูกบ้านคอนเทนเนอร์ขนาด 100 ตารางเมตร ด้วยงบ 700,000 บาท ของคุณ สมาชิกหมายเลข 4146180 ที่นอกจากจะสร้างบ้านของตัวเองแล้ว ยังสร้างและตกแต่งบ้านให้คุณแม่อย่างสวยงามอีกด้วย เราไปชมเรื่องราวที่น่ารักเหล่านี้กันได้เลยครับ
รีวิว “ปลูกบ้านคอนเทนเนอร์” พร้อมสวนหน้าบ้านแสนสวย ด้วยงบประมาณ 700,000 บาท
(โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 4146180)
บ้านหลังนี้เริ่มจากความฝันของเราตั้งแต่เด็ก ๆที่อยากจะมีบ้านอยู่กับ แม่ พี่ชาย และน้องสาว ในที่ผืนเดียวกัน เพื่อที่จะได้ช่วยกันดูแลแม่ยามที่แก่เฒ่า และได้ดูแลกันและกันด้วย จนในที่สุดเราก็ได้ที่ผืนนี้มา เนื้อที่ 400 ตารางวา แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ของแม่ ของพี่ชาย ของน้องสาว และของเรา
จากนั้นก้อสั่งดินมาถม
เราอยากจะใช้ประโยชน์จากใต้ถุนบ้าน ไม่อยากจะเว้นว่างไว้ตามแบบ จึงคิดว่าจะทำเป็นที่เก็บของต่างๆ หรืออุปกรณ์ ก่อสร้าง ทำสวน อะไรพวกนี้ จึงลงมือเทพื้นด้วยปูนไว้ก่อน
และเราก็เริ่มหาแบบบ้านที่อยากได้จากอินเตอร์เน็ต และก็ได้แบบบ้านตามรูป
หลังจากเทพื้นเสร็จแล้ว เราใช้วิธี เอาเสาเข็มมาวางเป็นฐานราก
ใช้เสาเข็ม 9 เมตร ทั้งหมด 4 ต้น โดยต้นสุดท้าย จะตัดเสาเข็ม และวางห่างกัน เพื่อเอาไว้ทำบันไดทางขึ้นข้างบ้าน
จากนั้นเราเอาตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ft high cube จำนวน 2 ตู้มาวาง สาเหตุที่ใช้ตู้สูง เพราะว่าไม่อยากให้เพดานเตี้ย กลัวว่าจะทำให้ดูอึดอัด เนื่องจากตู้ขนาดมาตรฐานจะสูงแค่ 2.4 เมตร แต่แบบ high cube จะสูง2.7เมตร ซึ่งเราซื้อตู้คอนเทนเนอร์มือสองจากแถวๆ บางนาตราด ราคาตู้ใบละ 50,000 บาท
เมื่อวางตู้คอนเทนเนอร์เสร็จ ก็รีบขึ้นหลังคาเลย เพราะที่โล่งๆแดดร้อนมวากกก หลังคาเราใช้เมททัลชีท บุโฟมกันร้อนอย่างหนา เพราะไม่อยากใช้หลังคากระเบื้อง เนื่องจากน้ำหนักจะหนักมาก
.
.
เมื่อบ้านมีหลังคาแล้ว จากนั้นเราก็เริ่มเจาะ และตัดผนังตู้คอนเทนเนอร์ด้านในบ้านออก เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 ตู้ จะทำให้บ้านกว้างขึ้น เจาะช่องสำหรับหน้าต่าง และเราก็เอาผนังเหล็กของตู้ที่ตัดออก ไปทำผนังบ้าน ผนังห้องน้ำและผนังห้องนั่งเล่น ที่ตอนแรกได้วางคอนเทนเนอร์เหลื่อมกันเอาไว้ และเว้นพื้นที่เอาไว้สำหรับ 2 ห้องนี้
.
ลืมบอกไป ระหว่างตู้ทั้ง 2 ตู้ เราใช้พื้นสมาร์ทบอร์ดยิงกับโครงเหล็กเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้าน
กั้นโครงเหล็ก เพื่อกั้นสัดส่วนระหว่างห้องนอน กับ ห้องรับแขก
เมื่อทำโครงเหล็กเพื่อกำหนดสัดส่วนของห้องต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มกรุผนังห้อง วัสดุที่เราเลือกใช้คือสมาร์ทบอร์ทแผ่นเรียบ และติดฉนวนกันร้อนด้วย เพื่อป้องกันผนังบ้านร้อน แต่สำหรับห้องครัวเราเลือกใช้สมาร์ทบอร์ทแบบเซาะร่อง เพื่อให้ดู soft และ vintage มากขึ้น รูปนี้คือกรุผนังห้องครัว ช่องที่เจาะไว้ เรากะว่าจะทำหน้าต่างบานกระทุ้งเพราะจะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวตรงนั้น ลมและแสงแดดจะได้ส่องเข้ามาถึงตรงอ่างล้างจานได้
ในรูปนี้สุดทางคือห้องน้ำสำหรับแขก ซ้ายมือคือห้องเก็บของ และตรงที่ยืนถ่ายรูปอยู่คือตำแหน่งห้องครัว ซึ่งในขั้นตอนนี้ช่างก็จะเดินท่อน้ำ และสายไฟไปด้วยเลย
.
ติดไฟในห้องนอน
ปูกระเบื้อง
ติดตั้งอ่างอาบน้ำในห้องน้ำและปูกระเบื้องห้องน้ำ
พอทำภายในเสร็จเรียบร้อย เราก็เกิดเปลี่ยนใจอยากกรุผนังภายนอกบ้านด้วยไม้เชอร่า อยากได้อารมณ์แบบบ้านเมืองนอกนิดๆ อีกอย่างเรากลัวว่าถ้าผนังตู้คอนเทนเนอร์สัมผัสกับแดดโดยตรงอาจจะร้อนก้อได้ คิดว่าถ้ากรุผนังภายนอก ก็น่าจะทำให้ร้อนน้อยลงได้อีกพอกรุผนังภายนอก และติดประตูหน้าต่างเสร็จก็จะได้หน้าตาประมาณนี้
แต่เราว่ามันดูขาดๆอะไรบางอย่างไป ก็เลยซื้อไม้เชอร่ามาตัดทำเป็นบัวประตู และหน้าต่าง
ดูดีขึ้นมาทันทีเลย
บ้านเราไม่มีประตูหลังบ้าน
เมื่อตัวบ้านเสร็จ ก็จัดการต่อท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง ด้านหลังบ้าน และวางแผ่นพื้นรอบบ้าน
วางแผ่นพื้นหน้าบ้าน
พอทำมาขั้นตอนนี้ รู้สึกตัวว่าหลังคาบ้านสั้นๆ แบบนี้ไม่เหมาะกับเราเลย เพราะบ้านหันหน้าทางทิศตะวันออก ช่วงเช้าถึงช่วงสายแดดเข้ามาถึงกลางบ้านเลย ก็เลยต้องต่อเติมระเบียงหน้าบ้านทำหลังคายาวออกไป และสำหรับทำเป็นที่จอดรถด้วย
ทำระเบียงและที่จอดรถเสร็จหน้าตาเป็นแบบนี้ เริ่มดูเป็นบ้านจริงๆ ขึ้นมาแล้ว
พอบ้านจะเสร็จ ก้อมีไอเดีย บ้านเราชอบปิ้งย่าง ก็เลยอยากได้พื้นที่หน้าบ้านนั่งกินปิ้งย่างกัน ก็เลยทำศาลากล้วยไม้ เอาไว้นั่งกินปิ้งย่าง ส่วนนี้ค่าแรงช่าง 20,000 ซื้อของอีกประมาณ 10,000
มีระแนงแขวนกล้วยไม้
ชิงช้าสำหรับเด็กๆ
งานจัดสวนก็มา
.
ระหว่างจัดสวน เราก้อตกแต่งภายในไปด้วย เนื่องจากภายในกรุด้วยสมาร์ทบอร์ด เราจึงติดวอลล์เปเปอร์เพื่อเพิ่มความสวยงาม มาดูห้องนอนกัน
.
ห้องรับแขก
.
.
.
บานประตู ตรงหลังคานั่นเป็นช่องserviceระบบไฟ เปิดขึ้นไปสามารถเข้าไป service ระบบไฟที่อยู่บนหลังคาตู้ได้ เราให้ช่างเดินไฟส่องสว่างเอาไว้ในนั้นด้วย เวลาขึ้นไปจะได้ไม่ต้องถือไฟฉาย
.
.
.
.
.
.
ห้องน้ำแขก
ห้องอาบน้ำ ในห้องนอน
ห้องนอนแขก
หลังที่เห็นในรูปคือบ้านของแม่ ปลูกอยู่ในที่ผืนเดียวกัน
พอบ้านของเราสร้างเสร็จ บ้านของแม่ก็ปลูกไปได้ 40%
สวนที่เพิ่งทำเสร็จ ณ ขณะนั้น
ตอนนี้บ้านปลูกเสร็จแล้ว และได้อาศัยในบ้านหลังนี้มาแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี มาดูสภาพบ้านกัน
ฝรั่งต้นเล็กๆ ที่ปลูกตอนนั้น ก็ออกผลเยอะแยะ หวานมากซะด้วย
บ้านแม่ก็จะเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานนิดหน่อย ก็จะส่งมอบได้ แล้วก็ปรับแต่งสวนนิดหน่อย
เอาโต๊ะม้าหินมาวางในสวน จะได้มีการใช้งานพื้นที่ในสวนมากขึ้น
.
สุดท้ายนี้สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะมีบ้านในฝัน แต่กำลังทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ ก็อาจจะลองปลูกบ้านคอนเทนเนอร์แบบนี้ดูก็ได้ สำหรับเราบ้านหลังใหญ่ๆสวยๆ เราก็อยากจะมี แต่กลัวดูแลไม่ไหว อีกอย่างก็ไม่มีเงินสร้างบ้านแพงๆ แบบนั้นด้วย
พอลองได้อยู่บ้านคอนเทนเนอร์แบบนี้มาแล้ว 1 ปี ก็รู้สึกว่ามีความสุขเหมือนอยู่บ้านมาตรฐานทั่วๆ ไปเลยแหละ ไม่ต้องเครียดกับการผ่อนบ้านราคาแพงๆ อยากไปเที่ยวไหน อยากกินอะไร ก็สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องเครียดเพราะจะต้องเก็บเงินเอาไว้ผ่อนบ้านอย่างเดียว
สรุปค่าใช้จ่ายปลูกบ้านคอนเทนเนอร์ ค่าแรง + ค่าตู้ + ค่าอุปกรณ์ก่อสร้าง 500,000 บาท
ค่าติดวอลเปเปอร์ + ค่าแอร์ 4 ตัว + ค่าผ้าม่าน + ค่าเฟอร์นิเจอร์ 200,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 700,000 บาท
สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุขกับการสร้างบ้านในฝันของตัวเอง
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 4146180 .