มีไอเดียมาฝากครับ สำหรับท่านที่ชอบปลูกผักเลื้อยขึ้นค้างริมรั้วติดกับเพื่อนบ้าน
(โดย แมวพุงพลุ้ย)
ที่บ้านเราชอบทานผักปลูกเองในบริเวณบ้านครับ เพราะรู้สึกว่าหยิบเด็ดเมื่อต้องการได้ตลอดเวลา ถ้าเป็นผักยืนต้นเช่น กระเพรา พริก ฯลฯ พวกนี้ไม่เป็นปัญหาครับ แต่ว่าผักบางชนิดที่เราชอบ มันต้องปลูกให้เลื้อยขึ้นค้างผัก ในที่นี้คือ “ผักปลัง” ครับ ผักที่ออกยอดให้เด็ดทุกสัปดาห์เลย – เนื่องจากพื้นที่ข้างบ้านเราจำกัดครับ มีช่องระหว่างผนังบ้านกับรั้วติดเพื่อนบ้านอยู่ไม่มากนัก คือถ้าจะทำค้างผักให้เดินรอบเพื่อเก็บผักเนื่อที่ไม่กว้างพอให้ทำได้ เราจึงออกแบบค้างผักกันใหม่ครับ
*** ภาพด้านล่าง ผักปลังกำลังออกยอดเปล่งปลั่ง รอให้เก็บครับ
*** ภาพด้านล่าง — ด้านที่ออกยอดติดกับรั้วเพื่อนบ้านครับ
ตอนจะเด็ดยอดผักฝั่งที่ติดกับรั้วเพื่อนบ้านนี่ยากเย็นมากครับ ก่อนหน้านี้ต้องคอยขออนุญาตเพื่อนบ้าน พอบ่อยเข้าเรารู้สึกเกรงใจเขามาก – ถึงแม้จะแบ่งผักให้แล้วก็ไม่รู้สึกดีขึ้นครับ จึงออกแบบค้างผักใหม่ ตามแปลนด้านล่าง โดยใส่บานพับประตูเข้าไปเพื่อให้พับเข้ามาได้
***บานพับติดแบบนี้ครับ
และก็ถึงเวลาเก็บยอดผักจากอีกด้าน เอนมาแบบนี้ครับ – เก็บผักได้สะดวก น้ำหนักตอนประคองเอนลงมาไม่มากครับ ใช้มือเดียว พูดถึงค้างขนาด กว้าง 1.2 x สูง 2 เมตรนะครับ — ถ้ากว้างกว่านี้เป็น 2 หรือ 3 เมตร อาจจะต้องมีผู้ช่วยตอนเอนลงมาและพับเก็บเข้าที่เดิม
***หมายเหตุ ตรงโคนต้น ตอนที่ผักขึ้นแรกๆ อย่าให้ตึงนะครับ ผูกเชือกมัดให้โคนต้นหย่อนเยอะๆ หน่อยครับ – เพราะว่าต้องเผื่อให้ยืดหยุ่นตอนพับค้างลงมา
เพิ่มเติมอีกนิดครับ — ต้องมีตะขอเกี่ยวไว้นะครับ ตามภาพด้านล่าง ไม่งั้นพอลมพัดแรงๆ ค้างผักจะล้มลงแน่นอนเลย
ถ้าท่านชอบลองเอาไปประยุกต์ใช้ดูครับ – นอกจากจะได้ทานผักแล้ว ค้างผักยังให้ประโยชน์ทางอ้อมอีกอย่างเช่น ในกรณีที่รั้วต่ำและเราต้องการบังสายตาเพื่อนบ้านสร้างความรู้สึกส่วนตัวในบริเวณนั้น หรือบางทีหลังบ้านมีพื้นที่นิดหน่อยเราจำเป็นต้องตากผ้า+ชุดชั้นในบริเวณนั้นแต่ไม่อยากให้เป็นที่รบกวนสายตาเพื่อนบ้าน อย่างงี้ก็ได้ครับ
รายการค่าวัสดุ
1)ไม้ค้างผัก ไม้หน้าสาม ยาว 1.20 เมตร ซื้อมาท่อนละ 18 บ. ใช้ 4 ท่อน (จริงๆ แล้วไม้เหลี่ยมใช้ 2 ท่อนก็พอคือส่วนที่ติดบานพับประกบกัน นอกนั้นใช้ไม้อะไรก็ได้ที่หาได้ครับ)
2)ไม้ค้างผัก ไม้ยูคาลิปตัสกลม ได้มาจากข้างทาง เห็นป้ายเก่าล้มอยู่
3)บานพับสแตนเลส อันละ 40 บาท ใช้ 2 อัน
–ใช้เวลาทำ 1 ชั่วโมง–
***จบ รีวิว ครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ ***
ที่มา : แมวพุงพลุ้ย .
