กลิ่นควันจากการเผาไหม้ จากควันรถ หรือแม้แต่ควันบุหรี่ ล้วนแต่สร้างความน่าลำคาญให้แก้พื้นที่ภายในบ้าน และวัสดุจำพวกผ้าภายในบ้าน โดยส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน จึงทำให้เกิดบรรยากาศที่ไม่น่าอยู่ภายในบ้านของเรา
วันนี้ ในบ้าน จึงได้นำเอา 5 ขั้นตอน กำจัดกลิ่นควันออกจากบ้าน เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ชาวเว็บได้ลองนำเอาวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้ยังบ้านของตนเองให้ดีที่สุด เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์และสดชื่นให้แก่บ้าน
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมดับกลิ่นในบ้าน
1. กำจัดทุกแหล่งที่ทำให้เกิดกลิ่นควัน กำจัดก้นบุหรี่ ก้นซิการ์ ที่เขี่ยบุหรี่ ฯลฯ จากในบ้านและบริเวณด้านนอก การปล่อยให้มีของแบบนี้อยู่ในบ้านก็จะยิ่งเป็นการซึมซับกลิ่นของควันต่อไปเรื่อยๆ ให้ทิ้งของเหล่านี้หลังจากที่ไฟมันดับไปแล้ว โดยทิ้งในถุงพลาสติกแล้วผูกปากถุงให้แน่นก่อนจะเอาไปทิ้งที่ถังขยะด้านนอกอีกทีหนึ่ง
2. เปิดหน้าต่างและประตูทั้งหมดเพื่อระบายอากาศออกไปด้านนอก ทำบ่อยๆ ขณะที่กำลังทำความสะอาดหรือกำลังกำจัดกลิ่นให้บ้านอยู่
3. ซื้อผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่น ผลิตภัณฑ์บางตัวก็โฆษณาว่าตัวเองมีฤทธิ์ในการควบคุมหรือกำจัดกลิ่นได้ อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญคือคุณต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ทำความสะอาดรวมอยู่ได้ พวกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดับกลิ่นได้นั้นไม่สามารถกำจัดกลิ่นควันได้หรอก ให้ลองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสิ่งต่อไปนี้ดูจะดีกว่า
ขั้นตอนที่ 2 กำจัดกลิ่นออกจากพรม เสื้อผ้า และผ้าลินิน
1. รวบรวมเสื้อผ้า ผ้านวม หมอน และผ้าม่าน ทุกอย่างที่เป็นผ้าหรือลินินและสามารถซักได้ ก็ควรนำมารวมกันในกองที่จะซัก
2. รวบรวมเสื้อผ้า ผ้านวม หมอน และผ้าม่าน ทุกอย่างที่เป็นผ้าหรือลินินและสามารถซักได้ ก็ควรนำมารวมกันในกองที่จะซัก
3. สำรวจพรม ถ้ามันสกปรกมากๆ และมีกลิ่นควันแรงจริงๆ ก็เปลี่ยนมันซะ แต่ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็ทำความสะอาด
4. โรยเบกกิ้งโซดาใส่เฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าหุ้มและพรม หรือจะใช้สารเคมีทำความสะอาดที่เข้มข้น ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญมักจะใช้ช่วยดับกลิ่นในบ้านหลังจากถูกไฟไหม้นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3 กำจัดกลิ่นควันออกจากบริเวณพื้นผิวอื่นๆ ภายในบ้าน
1. ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฟอกขาวเจือจางในการทำความสะอาดผิวที่ไม่ใช่ผ้า น้ำยาฟอกขาว และยิ่งน้ำส้มสายชูนั้น สามารถแตกน้ำมันทาร์และเรซินในควันบุหรี่ได้ดีเชียวล่ะ กลิ่นของน้ำยาฟอกขาวกับน้ำส้มสายชูอาจออกมาในตอนแรก แต่เดี๋ยวเวลาผ่านไปมันก็จะหายไปเอง ไม่เหมือนกับกลิ่นควันที่จะติดอยู่ไปตลอด
2. ล้างพื้น ฝ้าผนัง กรอบหน้าต่าง กำแพง และอุปกรณ์อื่นๆ
3. เช็ดเฟอร์นิเจอร์ไม้ พลาสติก และโลหะและข้าวของเครื่องใช้ด้วยน้ำส้มสายชูใส เทน้ำส้มสายชูใสลงในขวดสเปรย์และเช็ดมันให้สะอาดด้วยผ้า จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดและใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง ถ้าหากว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นค่อนข้างจะบอบบาง
4. ดูดฝุ่นหรือล้างพวกของเล็กๆ น้อยๆ เช็ดมันหรือล้างมันด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือจะเอาออกไปไว้ด้านนอกจนกว่าจะทำความสะอาดและดับกลิ่นบ้านได้ทั้งหมดแล้วก็ได้
ขั้นที่ 4 ทาสีกำแพงใหม่
- ล้างกำแพง คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์หรือสารละลายทำความสะอาดหลายๆ ตัวในการล้างกำแพงและกำจัดฝุ่น คราบมัน รวมถึงกลิ่นออกได้
2. ใช้สีรองพื้นแบบดับกลิ่นกับกำแพงที่ล้างแล้ว พวกผลิตภัณฑ์อย่างยี่ห้อ Zinsser Bullseye และ Kilz ถือเป็นสิ่งสำคัญในการนำมาดับกลิ่นที่ติดอยู่เป็นเวลานานเลยล่ะ เพียงแค่ทาสีใหม่ไม่ทำให้กลิ่นหายไปหรอก และมันยังเป็นการกักกลิ่นเอาไว้ในสีอีกด้วย
3. พิจารณาในการทาสีใหม่ในส่วนอื่นๆ ของบ้าน ตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ มีกลิ่นควัน คุณก็สามารถล้างมัน ทาสีรองพื้นใหม่ และทาสีเพื่อกำจัดกลิ่นไปก็ได้
ขั้นที่ 5 ปรับกลิ่นในอากาศ
1. เปลี่ยนอุปกรณ์กรองอากาศ กรองเตา และกรองแอร์ อากาศที่พัดในบ้านอาจยังมีกลิ่นควันอยู่ ฉะนั้นให้เปลี่ยนอุปกรณ์กรองอากาศต่างๆ ทั้งหมดเพื่อชำระอากาศให้สะอาด และทำให้อากาศในบ้านบริสุทธิ์
2. ซื้อเครื่องฟอกอากาศ คุณสามารถเลือกว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศมาติดตั้งกับระบบที่กรองอากาศเข้าบ้านเลย หรือจะซื้อแบบที่ฟอกอากาศในห้องๆ หนึ่งก็ได้ โดยให้คำนึงถึงขนาดของห้องและบ้าน และซื้ออุปกรณ์ให้ได้ขนาดและความคงทนเหมาะกับพื้นที่ที่ใช้
3. วางชามที่มีถ่านกัมมันต์เอาไว้รอบบ้าน ถ่านกัมมันต์สามารถใช้ดูดซับกลิ่นได้ ให้วางชามที่ใส่ถ่านเอาไว้ในบ้านบริเวณที่อากาศไม่ไหลเวียน อย่างห้องที่ไม่มีหน้าต่าง หรือตู้เก็บของ เมื่อเวลาผ่านไป ถ่านก็จะดูดกลิ่นเหล่านั้นเข้าไปนั่นเอง
ที่มา: wikihow .