สัตว์เลี้ยงทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย สุนัข หรือแมว ย่อมต้องการการดูแลเอาใจใส่ให้และมีพื้นที่ให้พวกมันได้ใช้ชีวิต ไม่ต่างกับมนุษย์ หลายคนจึงเลือกที่จะเลี้ยงแบบปล่อย เพื่อให้อิสระแก่พวกมันได้อย่างเต็มที่ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ มันอาจจะต้องไปเผชิญกับอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากสัตว์ใหญ่ อุบัติเหตุ หรือไข้วัดที่เกิดจากฝนและยุง
แต่ใช่ว่าปัญหาเหล่านี้จะเป็นอุปสรรค์ต่อการเลี้ยงดูเสมอไป แค่เราสร้างกรงให้มันได้นอนพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน เท่านี้เราก็ไม่ต้องกังวลว่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเราจะโดนรบกวนจากยุงหรือโดนแมลงกัดต่อยได้
และถ้าหากใครยังคิดไม่ออกว่าจะสร้างกรงแบบไหนให้กับพวกมัน ลองมาชม ไอเดีย ‘สร้างเรือนแมวดีไซน์ร่วมสมัย’ หลังนี้ดูก่อนได้นะคะ เป็นไอเดียดีๆ จากคุณ Apple Devil ทั้งสวยและน่าอยู่ รับรองว่าน้องแมวของเราต้องชอบแน่ๆ ค่ะ ลองไปชมกันเลยดีกว่า
รีวิว เรือนแมวหลังน้อย
(โดย Apple Devil)
วันนี้มารีวิวเรือนแมวหลังน้อย ๆ นะครับ
สืบเนื่องจากว่าหลังจากที่ปลูกบ้านเสร็จแล้ว ผมก็คิดที่จะย้ายแมวจำนวน 10 ตัวในกรงใต้ถุนบ้านหลังเก่ามาอยู่เรือนใหม่ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้หูใกล้ตา แมวก็จะได้ไม่เครียด ไม่ป่วย เพราะแมวที่บ้านเป็นแมวพันธุ์ดีสองสายพันธุ์ คือพันธุ์สคูลติสโฟร์ (School Tishfold) และอารามชอร์ตแฮร์ (Temple Short hair) เดี๋ยวจะเครียดเอา ไหนจะมีหมาสายพันธุ์ ทบ.ไทยอีกหกตัว (น้องชายเอาลูกหมาจรกลับมาจากกองพันทหารปืนใหญ่) ไว้คอยเฝ้าบ้านอีก นกโดนคนยิงหางเสียบินไม่ได้มาตกลงในเขตบ้านน้องชายก็ช่วยไว้อีก สมาชิกเยอะมาก
ที่บ้านปกติจะอยู่กันตอนกลางวันที่กรงใหญ่ขนาด 2.3 x 2 เมตร พอกลางคืนก็ต้องย้ายเข้าไปนอนในกรงเหล็กที่มีมุ้งเอาไว้กันยุง ก็แออัดหน่อยแบบนี้
ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะกั้นห้องทำกรงไว้ใต้ถุนบ้านเหมือนบ้านหลังเดิม แต่คิดไปคิดมา ทำสไตล์เรือนโคราชดีกว่าให้เข้ากับบรรยากาศของบ้าน ตั้งใจให้มองผ่าน ๆ ดูเป็นยุ้งข้าวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ บ้านของคนอีสาน อีกทั้งวัสดุบางอย่างก็เก็บมาจากปลูกบ้านผมเลยออกแบบเรือนแมวน้อยนี้ขึ้นมาครับ
แนวทางจัดบ้านนี่ลอกจิมทอมป์สันมาเลยทีเดียว 555
ทีมช่าง
ทีมช่างเป็นทีมลุงช่างห้าคนที่มาปลูกเรือนโคราชให้ผมนั่นเอง แต่มาแค่ 4 เพราะงานนี้ไม่มีงานปูน ช่างปูนเลยไม่มา (กระทู้บ้านเดิม https://pantip.com/topic/36599378 ) จองตัวนานหลายเดือนก็ไม่ว่างเสียทีจนสบโอกาสที่บ้านที่แกกำลังทำอยู่มีงานขาวดำ เลยได้พักหยุดงานบ้านเขาวิ่งกลับมาทำให้บ้านผมก่อน มีเวลาให้ผมแค่สี่วันเท่านั้น ก็ต้องทำให้ล่ะนะ เป็นหลานนี่นา อิอิ โดยงานที่ต้องทำให้ผมนั้นคือ ปลูกเรือนแมวหนึ่งหลัง เปลี่ยนกระดานชานแดดที่ผุจากโดนแดดฝนสามแผ่น (ไปเจอแผ่นที่มีกระพี้พอดี โดนฝนมันเลยผุ ตอนไสไม้ปูกระดานกันไม่มีใครรู้เลยทั้งช่างทั้งตัวผมมันมองไม่เห็น) และทาสีห้องน้ำด้านนอกที่ฉาบเปลือย ๆ เอาไว้เมื่อปีก่อน สามงาน คนแก่สี่คน สี่วันจะเสร็จไหม
การออกแบบ
ผมอยากให้ดูเป็นสไตล์ยุ้งข้าวอีสาน ออกสไตล์เรือนโคราชที่มีจั่วและหลังคาทำมุมชั้นราว 40 องศา ผมเอาวัสดุที่เหลือจากการปลูกบ้านเมื่อปีที่แล้วจำพวกไม้ไผ่สานอัด เชิงชาย ไม้หน้าสาม กระดานแผ่นสั้น ๆ ที่ต้องซื้อคือพวกไม้ฝาเก่ามือสองศอกละสิบกว่าบาทที่จะเอามาตีฝา เพราะผมชอบอะไรที่เป็นงานไม้จริง ๆ
ผมออกแบบให้เป็นลักษณะเรือนสี่เหลี่ยมคล้ายยุ้งข้าวเล็ก ๆ ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2.5 เมตร ยกพื้นสูง 60 ซม. เสาที่ใช้เป็นเสาปูนสำเร็จหน้า 4 นิ้ว ยาว 6 ศอก (สามเมตร) คานใช้ไม้หน้าสาม กระดานปูพื้นใช้ฝาไม้ยางเก่าเอามาปู เพราะแมวตัวไม่หนัก ไม่จำเป็นต้องเอากระดานไม้จริงก็ได้ และที่สำคัญ เรือนจะต้องโปร่งเย็นสบายที่สุด รับลมได้ทุกทิศทางในขณะเดียวกันก็ต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันแดดและฝนได้ดีอีกด้วย
โครงคร่าวผมใช้ไม้ขนาด 1.5*1.5 นิ้ว ซึ่งก็ไปซื้อจากร้านไม้มือสองมาในราคาศอกละ 10 บาท ไปรื้อประตูไม้เก่า ๆ ของยายบ้าง เวลาไม่พอก็เอาไม้กระดานเก่า ๆ ผ่าเอาบ้าง ใช้จนพอครับ
เรือนหลังนี้มีหน้าต่าง 4 แห่ง ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกจะเป็นบานกระทุ้ง ส่วนทิศใต้เป็นบานหน้าต่างเก่าแบบเปิดออกที่ซื้อมือสองมาจากร้านไม้เก่า เพราะด้านนี้จะมีชายคายาวเพื่อบังแสงแดดที่ส่องมาจากทิศใต้ ส่วนด้านทิศตะวันตกจะเป็นบานกระทุ้งขนาด 1.30 ม. x 0.60 ม. และประตูอีก 1 บาน ฝาด้านนี้จะไม่ตีไม้ฝาแต่จะขึงตาข่ายลวดแทนเพื่อให้ระบายอากาศมากที่สุด ด้านนี้เป็นด้านที่อยู่ติดครัวไฟของผม ตัวเรือนใหญ่จะบังทั้งแดดและฝนให้เรือนแมวในทิศตะวันตกพอดี มีช่องเปิดปิดสองช่องไว้ใส่อาหารและเปลี่ยนกระบะทราย
เริ่มงาน
ลุงช่างเริ่มตีผัง โดยให้เรือนแมวอยู่ห่างจากเรือนใหญ่ประมาณ 80 ซม. ทีนี้ พื้นที่ด้านทิศตะวันตก มีระดับที่สูงกว่าทิศตะวันออกอยู่ราว 30 ซม. เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าตอนผมปลูกบ้านผมได้ทำการถมที่ดินให้สูงกว่าระดับเดิม 30 ซม. ลุงช่างจัดการขุดหลุมทั้งสี่ โดยด้านทิศตะวันออกหลุมจะลึก 50 ซม. ส่วนด้านทิศตะวันตกนั้นหลุมจะลึกประมาณ 80 ซม. เมื่อได้ระดับบ่าเสาจะเท่ากันพอดี
.
ระหว่างที่ลุงขุดหลุม ลุงอีกคนหนึ่งก็ปลีกตัวขึ้นไปเปลี่ยนกระดานที่ผุบนบ้าน แกทำคนเดียวแค่ไม่ถึงสองชั่วโมง ทั้งไสทั้งแต่งกระดานใหม่ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ยกกระดานเก่าลงมาข้างล่างเลื่อยกระพี้ทิ้งไป เอาส่วนที่ยังใช้ได้ มาผ่าเพื่อทำอย่างอื่นต่อไป
.
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ลุงขุดหลุมเสร็จ ตั้งเสาเรียบร้อย ลุงอีกคนก็ปลีกตัวไปทาสีห้องน้ำ !!! แบบว่า ทำงานกันไม่หยุดพักเลย สงสัยได้พลังจากลิโพที่ผมแจกตอนเช้า 555
ช่วงบ่ายทีมงานกลับมาอีกครั้ง ลุงที่ไปทาสีห้องน้ำระหว่างรอให้สีแห้งก็กลับมาช่วยคนอื่น แป๊บเดียวเรือนแมวขึ้นอกไก่ ใส่จันทัน พร้อมที่จะมุงหลังคา ตรงโครงสร้างหลังคา ผมไม่ได้ให้ลุงแกไสไม้ให้สวยนัก เพราะอยากให้แกประหยัดเวลา ผ่านวันแรกไปด้วยงานเท่านี้
.
วันที่สองแกมุงหลังคาครึ่งวันก็เสร็จเรียบร้อย ช่วงบ่ายก็ปูพื้นกระดาน ลุงอีกคนก็ปลีกตัวไปทำวงกบและบานหน้าต่างที่เป็นบานกระทุ้ง หน้าต่างบานกระทุ้งผมกรุด้วยไม้ไผ่สานอัดที่เหลือมาจากทำเรือนใหญ่ บางแผ่นเล็กไปลุงแกก็ทำไม้คั่นกลางต่อให้จนได้
.
วันที่สาม วันนี้ระดมทำโครงคร่าว ตีฝา ติดตั้งหน้าต่างประตู ทำกันสาด ติดเชิงชาย ใส่รางน้ำฝน เป็นรูปเป็นร่างแล้ว
.
วันที่สี่ วันนี้ติดตั้งลูกกรงลวดด้านใน ส่วนด้านนอกจะเป็นมุ้งไนล่อนเพื่อป้องกันยุง ผมก็นึกว่าแกจะเอาตะปูย้ำ ๆ ติด ๆ ไป ที่ไหนได้ แกทำกลับไปเอาไม้มอบที่เหลือ ๆ จากการปลูกบ้านเอามาทำคิ้วหน้าต่างประตูให้ผมอีก จากนั้นก็ทาสีเชลไดรท์กันปลวก ทาสีย้อมไม้ เป็นอันเสร็จครับ ปูเสื่อน้ำมันเอาสมาชิกขึ้นบ้านใหม่ได้ ทีนี้ผมก็จะค่อย ๆ ทำชั้นติดผนังให้พวกเขาได้กระโดดเล่น ยืดเส้นยืดสาย มีที่นอนสูง ๆ ปลีกวิเวกส่วนตัวมองวิวได้รอบทิศทางเสียที
.
.
.
.
.
.
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดส่วนใหญ่จะหมดไปกับค่าไม้ เสาปูน หลังคาเมทัลชีทแบบเคลือบฟลอยด์ รวมแล้วที่ 15700 บ. ค่าแรงช่างทั้งหมดอยู่ที่ 6800 บ. รวมแล้ว 22500 บ. ครับ ช่างพื้นบ้าน ไม่รับงานนอกเขตตำบลที่ตัวเองอยู่ด้วย อินดี้มาก อิอิ (ส่วนกระดานปูพื้นชานแดดสามแผ่นนั่นไม่นับต้องบวกเพิ่มไปอีกสองพัน อิอิ)
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับท่านที่คิดจะทำที่อยู่ให้สัตว์เลี้ยงนะครับ หากท่านพบเจอสัตว์ด้อยโอกาส อย่างน้อยเมตตาพวกเขา หาบ้านให้พวกเขา ทำหมันฉีดวัคซีนให้พวกเขา ปัญหาสัตว์จรจัดก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ครับ สิบปีที่ผมทำเรื่องหมาแมวในโรงเรียนของผมมา ปัญหามันลดลงจริง ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ เพียงแต่เราต้องยอมเหนื่อยเท่านั้นเองครับ ผมและภรรยาไม่ใช่คนมีฐานะอะไรเลยนะครับเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาเท่านั้นเอง
สวัสดีครับ
ที่มา : Apple Devil .