หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังจะสร้างบ้านแล้วทำการจ้างสถาปนิกให้มาออกแบบดีไซน์บ้านในฝันของคุณ แบบบ้านที่ได้มานั้น คุณอาจจะไม่เข้าใจรายละเอียดที่อยู่ในแปลนทั้งหมด ดังนั้น อันดับแรก คุณควรจะศึกษาวิธีเบื้องต้นในการอ่านแบบแปลน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันกับผู้ออกแบบ ให้บ้านที่ได้ไม่ผิดเพี้ยนจากที่เราคิดไว้
วันนี้ ในบ้าน จึงได้แนะนำ 7 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับการอ่านแปลนบ้านเบื้องต้น เพื่อจะได้เข้าในรายละเอียดของผังบ้านที่ได้ทำการออกแบบมา อย่างถูกต้องครบถ้วน ใครที่กำลังจะสร้างบ้าน ลองตามไปชมรายละเอียดด้านล่างนี้กันเลยค่า
1. เส้นบอกระยะ (dimention)
คือ เส้นบอกขนาดความกว้าง-ยาวของแต่ละห้อง ซึ่งเส้นแต่ละแบบก็บอกระยะต่างกัน เช่น เส้น dimention แบบเส้นตั้งและเส้นนอนตัดกัน มีวงกลมทับ ใช้บอกระยะจากศูนย์กลางถึงศูนย์กลาง มักใช้กับเสา บอกระยะห้องจากกลางเสาต้นแรกถึงกลางเสาต้นที่ 2 เป็นต้น
2. สัญลักษณ์รูปด้าน
ถ้าหัวลูกศรหันเข้าหากันจะแสดงรูปด้านรวมภายนอกอาคาร ถ้าหัวลูกศรหันออกทุกทิศทางจะแสดงรูปด้านรวมภายในของห้อง ซึ่งทั้ง 2 แบบมักวางไว้ใกล้ชื่อแปลน หรือมุมขวาล่างของแปลน ส่วนตัวเลขในวงกลมแถวบน หมายถึงแต่ละด้านในแปลน แถวล่าง หมายถึง หน้าที่แสดงรูปด้านนั้นๆ
3. สัญลักษณ์หน้าต่าง
ไม่จำเป็นต้องเป็นหกเหลี่ยม และอาจมีตัวอักษร “W” หรือ “น” แทรกอยู่ข้างหน้าตัวเลขได้เช่นเดียวกับสัญลักษณ์ประตู
4. สัญลักษณ์ บอกรูปด้านตัด และเลขหน้า
5. สัญลักษณ์บอกชื่อห้อง
นอกจากชื่อห้องแล้วยังบอกอีกว่าพื้นห้องนั้นๆใช้วัสดุอะไร และอยู่สูงจากระดับพื้นตั้งต้นเท่าไหร่
6. สัญลักษณ์ประตู
ไม่จำเป็นต้องเป็นวงกลมเสมอไป อาจเป็นหกเหลี่ยม หรือสามเหลี่ยมก็ได้ ตัวเลขภายในอาจเป็นตัวเลขเดี่ยวๆ หรือมีตัวอักษร “D” หรือ “ป” แทรกอยู่หน้าตัวเลขก็ได้ เช่น D1, ป1 เพื่อบอกว่าประตูบานนั้นเป็นประตูลักษณะไหนซึ่งจะเห็นได้แบบขยาย (detail)
7. บันได
เป็นสัญลักษณ์ที่ดูง่ายที่สุด เพราะเป็นเส้นขีดๆเป็นขั้นบันได ซึ่งเราสามารถนับจำนวนขั้นบันไดจริงๆได้จากในแปลน และรู้ความจากของบันไดได้จากเส้นบอกระยะ (dimention) ที่เขียนในแปลน ส่วนทางขึ้น-ลงจะมีคำว่า ‘ขึ้น (UP)’ หรือ ‘ลง (DN)’ พร้อมลูกศรบอกทิศทางการเดินกำกับอยู่เสมอ
นับว่าเป็นความรู้เล็กๆ น้อยที่จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถอ่านแปลนได้เข้าใจกันง่ายขึ้น ซึ่งหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยนะคะ ^_^
ที่มา : Author infinity