เฟอร์นิเจอร์ไม้ ได้รับความนิยมในการนำมาตกแต่ง หรือประดับบ้านกันอย่างมากมาย เนื่องจากมีเสน่ห์ และลักษณะเฉพาะของเส้นสายในตัวของมัน เพิ่มความคลาสสิคให้แก่บ้านได้เป็นอย่างดีทีเดียว แต่บางทีหากเรามีงบจำกัด การทำเฟอร์นิเจอร์ใช้เองก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่น้อย
วันนี้ ในบ้าน จึงได้นำไอเดียการ DIY ไม้พาเลท และลังไม้ จากคุณ สมาชิกหมายเลข 3343959 เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ครัว และเคาน์เตอร์เอง ใช้ตกแต่งร้านเบเกอรี่สุดคลาสสิค โชว์งานเฟอร์นิเจอร์พื้นผิวไม้ธรรมชาติ ซึ่งเป็นร้านของแฟนสาวของเขา ไม่รอช้า ลองตามไปชมกันเลย
ทำเองใช้เอง DIY ครัว & เคาน์เตอร์ ด้วยไม้พาเลทและไม้ลัง ดูดีได้แบบไม่ต้องแพง
(โดย สมาชิกหมายเลข 3343959 )
สวัสดีชาวพันทิปครับ เนื่องด้วยที่ผมใช้พันทิปในการหาความรู้ หาแรงบันดาลใจมามากมาย ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนโดยการส่งต่อประสบการณ์ของตนเอง แชร์ให้คนอื่นนำไปประยุคต์ใช้ หรือนำไปเป็นแรงบันดาลใจ เหมือนกับที่ผมได้รับไปบ้างนะครับ
ที่มาของการทำครัวและเคาน์เตอร์ จากไม้พาเลท ไม้ลัง ของผมมาจากการที่ผมกับแฟนต้องการ เปิดร้านเบเกอร์รี่ แต่ด้วยที่มีทุนไม่มากนักจึงเลือกที่จะทำเฟอร์นิเจอร์เอง เพราะจะได้เลือกใช้วัสดุรวมถึงกำหนดงบประมาณได้ตลอดการทำครับ
เริ่มเลยนะครับ ด้วยตึกที่เช่ามีสภาพเป็นแบบนี้
ชอบที่เป็นตึกห้องริม มีประตูทั้งด้านหน้าและด้านข้าง และแต่ละตึกแยกไม่ได้ใช้ผนังร่วมกัน จึงตัดสินใจวางมัดจำ โดยที่เจ้าของก็อนุญาติให้เข้ามาทำร้านได้ก่อน 1 เดือนโดยยังไม่คิดค่าเช่า
ด้วยสภาพตึกอย่างที่เห็น ผมเลือกที่จะทำร้านให้ออกแนวดิบให้เหมาะกับสภาพพื้น ที่เป็นปูนดิบ บวกกับรู้อยู่แล้วด้วยว่า การที่ทำเฟอร์นิเจอร์เองนั้นงานที่ออกมาคงจะไม่เนี๊ยบ เหมือนมืออาชีพ ดังนั้นแนวดิบไม่ต้องเรียบร้อย ตอบโจทย์ผมที่สุด
และแล้วก็ถึงวันที่เริ่มลงมือทำ ผมขนไม้บวกเครื่องมือมาทำที่ตึกเลยครับ โดยระหว่างลงมือทำมีคุณแฟนคอยเป็นกำลังใจ ส่งข้าว ส่งน้ำอยู่ตลอด
จริงๆงานทาสี กั้นห้องก็ทำกันเอง (งบน้อยก็อย่างนี้แหละ 555) แต่ในที่นี้ขอพูดถึงเฉพาะในส่วนของการทำเฟอร์นิเจอร์นะครับ
ในส่วนของงานเฟอร์ ผมใช้ไม้แบ่งเป็น 4 กลุ่มประมานนี้
1. ไม้พาเลทเก่า อันนี้ขอมาฟรีจากโรงงานที่เค้าไม่ใช้แล้ว (ส่วนนี้ต้องมารื้อแยกไม้เอง)
2. ไม้พาเลทตามร้านข้างทางที่เค้าแยกขาย ส่วนนี้ซื้อมาเป็นมัดๆมัดละ 10 ท่อน ราคาประมาน 125 – 150 บ. ขึ้นอยู่กับความหนา และหน้าไม้
3. ไม้ยางอัดประสาน อันนี้ซื้อจากไทยวัสดุ เลือกเกรด CC (ขนาดจะมาแผ่นใหญ่เลย 1.2 x 2.4 m.) อย่างที่บอกงานดิบๆ ไม่ต้องเน้นไม้สวยมากครับ
4. ไม้อัด (เป็นไม้อัดที่ใช้บรรจุสินค้าส่งของ) ขอจากโรงงานมาเช่นกัน
ไม้ท่อนที่เรียงติดๆกันคือ ไม้พาเลทเก่า ไม้ท่อนสีสวยๆคือ ไม้พาเลทตามร้านข้างทาง ไม้แผ่นที่มีเขียนตัวหนังสือ คือไม้อัดที่ใช้ขนสินค้า ส่วนหน้าสุดคือไม้ยางพาราครับ
ขอเริ่มถึงระหว่างที่ทำ และหาข้อมูลไปด้วยนั้น ผมก็ได้เห็นได้อ่านมาจากหลายๆ ที่ ถึงเรื่องความกังวนของไม้ว่า จะปลวกกิน จะขึ้นเชื้อรา หรือเรื่องอายุการใช้งานของไม้ บอกตรงๆ ว่าก็เป็นกังวนพอสมควรครับ แต่พอมานั่งคิดและประเมินดูแล้ว ผมสรุปและ บอกตัวเองให้เดินต่อด้วยเหตุผลดังนี้
– ผมมองว่าถ้าเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้นมา ยังไงเราก็ทำเอง ก็ซ่อมเองเปลี่ยนเองได้
– ลองประเมินราคาแล้วให้ผมซื้อครัวสำเร็จรูป หรือจ้างช่างมาทำครัวปูน ยังไงราคา ก็สูงกว่าที่จะทำเองหลายเท่าตัว ที่สำคัญผมอยากได้ความดิบของพาเลทเพื่อให้เข้า กับพื้นของตึกที่เป็นปูนดิบอยู่แล้วด้วย
– สุดท้ายผมสามารถปรับเปลี่ยน แต่งเติมเองได้ตลอดการใช้งาน ตามสไตล์เราเลย
เมื่อบอกตัวเองได้อย่างนี้แล้วก็ลุยต่อ ทำเสร็จให้ทันก่อนที่เจ้าของจะเริ่มเก็บค่าเช่า ทั้งนี้ผมมีเวลา 4 อาทิตย์ (เฉพาะวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เพราะผมยังทำงานประจำอยู่) ผมเริ่มทำที่เคาน์เตอร์ก่อนครับ
ในส่วนของเคาน์เตอร์ ไม้หลักๆที่ใช้คือไม้พาเลทเก่าที่ขอมาฟรี โดยส่วนนี้ไม่ต้องแยกชิ้น ทั้งหมดแค่เลือกส่วนที่จะใช้และตัดตามขนาดที่ต้องการ แล้วขัดด้วยกระดาษทราย
ส่วนท็อปซึ่งเป็นส่วนที่ต้องใช้งานตลอด ผมเลือกใช้ไม้ยางเพราะต้องการให้ท็อปเรียบ เมื่อใช้งานจะได้ไม่สะดุด
เนื่องด้วยไม้มีขนาดใหญ่กว่าโต๊ะเลื่อยมาก จึงต้องจับโต๊ะเลื่อยคว่ำและเข็นตัดไม้แทน (youtube มีประโยชน์มากผมเรียนรู้การตัดจากในนั้น) ส่วนการประกอบเข้าหากันง่ายๆ เลยครับใช้สกรูยิง โชว์หัวสกรูดิบๆ ให้เห็นกันไปเลย
จบจากเคาน์เตอร์ มาต่อที่ตู้ครัวกันครับ ก่อนจะขึ้นโครงตู้ ผมต้องมาแยกชิ้นพาเลทเก่าเพื่อเอาไม้มาทำโครงสร้างครับ
ไม้พาเลทที่ขอมาต่างจากไม้พาเลทที่ซื้อครับ พาเลทที่ขอมาเป็นไม้เนื้อแข็ง มีน้ำหนัก ส่วนที่ซื้อมาเป็นไม้เนื้ออ่อนน้ำหนักเบา ผมจึงเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง สำหรับทำโครงสร้างตู้ครัวครับ
การแยกชิ้นพาเลทเป็นอะไรที่โหดสำหรับผมมากครับ ยึดตะปูมาเหนียวมาก บางที ต้องใช้เครื่องเจียช่วยกันเลยทีเดียว งานนี้เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ หลังจากแยกชิ้นพาเลทได้จำนวนพอกับที่ต้องการแล้วก็มาขึ้นโครงสร้างตู้ครัวต่อครับ
หลักการเดียวกันกับเคาน์เตอร์ครับ เรื่องการเลือกไม้และการยึดประกอบตู้ มีส่วนที่เพิ่มมาคือแผ่นพื้นตู้ ผมใช้ไม้อัด (เป็นไม้อัดที่ใช้บรรจุสินค้าส่งของ) มาทำในส่วนนี้ครับ แต่ที่ชอบในส่วนของตู้ครัว
และถูกใจคุณแฟนก็คือ ผมนำเอาเตาอบแบบ ธรรมดามาใส่ไว้ในตู้นี้ด้วย โดยทำให้ออกมาลักษณะเดียวกันกับเตาอบแบบบิ้วอินครับ งบยังไม่มีซื้อเตาอบแบบบิ้วอิน ก็ทำให้มันใกล้เคียงไปก่อนแล้วกันนะ 555
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมตัดสินใจใส่ซิงค์ไปในตู้ด้วยเลยครับ จะความชื้น จะเชื้อราเดี๋ยวคงได้รู้กัน แต่ทั้งนี้ตู้ครัวใบนี้ผมไม่มีผนังหลังครับ เพราะจะได้ช่วยระบายอากาศได้เต็มที่ ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกสนุกไปกับมัน บอกกับตัวเองว่าคิดถูกแล้วที่ทำเอง ได้เรียนรู้อะไร ตั้งมากมาย
เคาน์เตอร์แล้ว ตู้ครัวแล้ว ต่อมาเป็นตู้แขวน การทำยังคงหลักการเดิมครับ แต่ในส่วนตู้แขวนที่แผ่นพื้น และแผ่นล่างเลือกใช้ไม้ยางเพื่อช่วยโครงสร้างให้แข็งครับ เพราะไม้ยางมีความหนาและเหนียวกว่าไม้อัดครับ
จากนั้นจับทั้งสองตู้มายึดติดกัน หลังจากนั้นขัดและทาเคลือบผิวไม้ พอแห้งก็เอาโครงสร้างแขวน ขั้นตอนนี้ต้องให้พ่อแฟนมาช่วยยกขึ้นผนังและมาร์ค รูเพื่อยึดตู้ครับ ผมแขวนตู้โดยยิงสกรูผ่านโครงสร้างไม้เข้าผนังเลย ขั้นตอนนี้ต้องแม่น ตอนมาร์ค รูและเจาะฝังพุก กว่าจะตรงรูยกขึ้นลงอยู่หลายรอบเหมือนกัน
พอแขวนโครงสร้างแล้วจากนั้นก็มาทำหน้าบานต่อ ในส่วนของขั้นตอน ทำหน้าบานผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ (เวลาเริ่มบีบเร่งให้เสร็จจนลืมถ่าย) ไม้ที่ใช้ทำหน้าบานในส่วนกรอบใช้ไม้พาเลทใหม่ กลางบานใช้ไม้อัด ทำสีกระดานดำ
ผมดูการทำกระดานดำจากรายการกระจกหกด้านใน youtube (รายการเก่าโครต) แต่ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะกระดานค่อนข้าง หยาบมากเกินไปเขียนชอล์กคงลบได้ยาก เพราะคราบจะฝังลึกมากไป
แขวนตู้เสร็จก็มาทำหน้าบานของตู้ล่างต่อครับ จากนั้นทดลองเข็นตู้ล่างมาวางใต้ตู้แขวน ว้าว เป็นรูปเป็นร่าง
กำลังใจมา สู้ต่อๆ
สังเกตุผนังตึก ผมใช้ช่วงเวลากลางคืนทาสีตึกไปด้วย เลือกผนังสีขาว ก็เพราะกลัวว่าร้านจะดิบเกินไป เอาสีขาวมาช่วยให้ดูสะอาดและสว่าง มากขึ้นครับ
ร้านยังไม่เสร็จถึงไหนเลย ที่บ้านแฟนขอให้ทำบุญร้านก่อนผมพร้อมเสมอ ทุกสถานการณ์ ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน
ขอบคุณเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับผมและแฟน หลายๆ คน เห็นสภาพร้านตอนนั้นคงงงๆ ว่าร้านจะออกมายังไง 555
ส่วนโต๊ะกับเก้าอี้ที่เห็นผมทำจากไม้พาเลทแบบซื้อมาครับ ไม้จะดูสวยสะอาดกว่าแบบขอมา โต๊ะกับเก้าอี้นี้ผมทำตั้งแต่ ยังไม่ได้เช่าตึกเลย เป็นช่วงสั่งสม อุปกรณ์ และทักษะช่างไม้ ตอนนั้นทำในบ้านเลยครับ
เรียกได้ว่าลองมั่ว ผิดๆ ถูกๆ มาก่อน เหนื่อยมาเยอะ เจ็บมาเยอะ อยากให้ทุกคนสู้อย่างผม (คำนี้คุ้นๆนะ 555)
หลังจากทำบุญร้านเสร็จ ลองเอาตู้เย็นเคาน์เตอร์มาจัดวางครับ
กระดานดำข้างตู้เย็นอันนั้นไม่ได้ทำเองนะครับเป็นของขวัญ ในงานบุญที่เพื่อนซื้อมาให้ ช่างเหมาะเหลือเกิน
ต่อมาส่วนนี้ ผมจำใจต้องจ่ายครับ ไม่ไหวทำเองจริงๆ
งานติดตั้งกระจกอลูมิเนียม หลังจากตกลงราคาได้ช่างมาวัดพื้นที่ และนัดวันมาติดตั้งใช้เวลาแค่วันเดียวเท่านั้น เร็วจนมานั่งคิดว่า หรือจริงๆ แล้วเราก็ทำเองได้ 555 แอบเสียดายตังค์ ช่างอลูเรียบร้อยแล้วเราก็เก็บกวาด เตรียมเปิดร้านเลย
ภาพตอนเช้าหลังจากเก็บกวาดจากเมื่อคืน ยังมีรายละเอียดที่ผมทำเพิ่มเติมตกแต่งอยู่เรื่อยๆ ครับตอนนี้ได้เปิดร้านแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งร้านเลย
มีต่ออีกหลายอย่าง ยังไม่จบแค่นี้นะครับ
เศษไม้ที่ขอมา เหลือพอสมควรผมเอามาทำเป็นที่นั่งยาว พื้นสำหรับนั่งใช้ไม้ยาง ที่เหลือจากการตัดทำท็อปครัว
ตกแต่งต่อด้วยไฟจากร้านทุกอย่าง 20 บาท
คุณแฟนเริ่มเอาสมบัติมาลงแล้ว เยอะ เยอะกว่าที่คิด
หลังจากนั่งสังเกตุการใช้งานครัวของแฟนได้สักระยะ ก็นึกได้ว่าต้องมีที่แขวนอุปกรณ์ ไหนๆก็ดิบโชว์หัวสกรู มาตั้งแต่เริ่มละ เอามาทำที่แขวนอีกจะเป็นไรไป
หลังจากทำไฟตกแต่งแล้วก็มาดู บรรยากาศตอนมืดบ้างนะครับ
มีทำตู้ไปรษณีเพิ่มมาด้วย บางครั้งแฟนมีออเดอร์ต้องทำเค้กตอนมืดแสงไฟในบริเวณ ท็อปครัวจะไม่ค่อยพอเนื่องจากตู้แขวนบังแสงไฟ ก็เลยเป็นที่มาของการติดไฟใต้ตู้เพิ่มครับ ส่วนนี้บังเอิญที่ใต้ตู้แขวนที่ทำไว้ มีหลุมเข้าไปทำให้
ซ่อนไฟได้อย่างเรียบร้อย ลงตัว
เขียนไดอารี่ต่อครับ ในส่วนของเคาน์เตอร์และครัว กับการตกแต่งเพิ่มเติม ก็เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมกับแฟนแล้วพอสมควร ก็เลยหันมาเพิ่มเติมในส่วนของเก้าอี้ต่อครับ หลังจากหน้าร้านเริ่มเป็นร้านก็ต้องย้ายมาทำงานที่ห้องด้านหลังตึก
เก้าอี้ตัวนี้เป็นแบบใช้งาน 2 ด้าน (ได้ไอเดียมาจากตามร้านอาหารในห้างแหละครับ) ที่ตลกก็คือประตูหลังร้านมีขนาดเล็ก ผมทำจนเสร็จจนจะย้ายมาหน้าร้านถึงรู้ว่าออกจากประตูไม่ได้ 555 สุดท้ายต้องแยกเป็น 2 ส่วนและมาประกอบที่หน้าร้านแทน
ตรงกลางระหว่างโต๊ะผมทำเป็นช่องไว้ตกแต่งต้นไม้ หรือไว้วางหนังสือนิตยาสารครับ ต่อมาตามคำเรียกร้องของเพื่อนๆ ที่เข้ามาเยี่ยม หลายคนบอกว่า ควรต้องมีเก้าอี้บาร์ โอเคเพื่อนจัดให้
ตัวนี้การทำใช้หลักการเดียวกับโต๊ะเลย เพียงแค่ลดขนาดลงและต่อความสูงเพิ่มขึ้น
ชื่อหัวเรื่องจะเขียนถึงเคาน์เตอร์กับครัว นั่งเขียนเพลิดเพลิน จนงอกมาอีกหลายตัวเลย 555 ก็คงจะประมานนี้ครับสำหรับการแชร์ประสบการณ์การทำงานเฟอร์นิเจอร์ไม้พาเลทของผม
หวังว่า จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะครับ โอกาสหน้าถ้ามีประสบการณ์อะไรดีๆ สัญญาว่าจะไม่ลืมมาส่งต่อ ข้อมูลให้แก่กันครับ
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 3343959