บ้าน คำเดียวที่ให้ความหมาย และความรู้สึกอบอุ่นได้โดยไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว เพราะมันคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่เราสามารถอิงกายยามเหนื่อยจากปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา ดังนั้นถ้าจะมีบ้านสักหลัง ก็ควรจะเป็นบ้านที่สวยงาม อบอุ่น และอยู่ได้อย่างสบายใจ
วันนี้ ในบ้าน จึงได้นำแบบบ้านไม้สวยๆ จากคุณ supreya มาฝากให้ชมกัน ที่ตั้งใจสร้างบ้านหลังนี้เพื่อคุณแม่สุดที่รัก มีเอกลักษณ์ดั้งเดิม แลดูอบอุ่น น่าอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นการเอาใจคุณแม่ที่ชื่นชอบบ้านไม้เป็นทุนเดิมด้วย หากเพื่อนๆ สนใจ ลองตามไปชมกันเลยค่ะ
ปลูกบ้านไม้ยกพื้นสูงสไตล์ไทยดั้งเดิม บรรยากาศอบอุ่น เรียบง่ายแบบชนบท
(โดย supreya)
มีแต่คนชมว่าบ้านฉันสวย ฉันก็จะตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ไปว่าลูกสาวเขาสร้างให้อยู่ เป็นคำตอบทุกครั้งที่มีคนชมบ้านคุณแม่ จขกท.เองค่ะ คนอื่นเขาเปิดกระทู้ด้วยบ้านสวย แต่เราอยากเปิดกระทู้ด้วยแม่ฉัน แรงบันดาลใจที่ทำให้ได้บ้านหลังนี้มาค่ะ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัดค่ะ อยู่จังหวัดที่ไปไม่ถึงซะที มีแต่เลยไปแล้ว วันนี้คิดว่าได้เวลาพามาชมบ้านหลังน้อยของเราแล้วค่ะ
สาเหตุที่ได้บ้านหลังนี้มาเนื่องจากบ้านหลังเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายโน้นแหละ จริงๆ แล้วเราอยากได้บ้านปูนนะ แต่แม่ไม่ยอมเพราะแม่ชอบบ้านไม้มากแม่บอกทุกวันนี้ไม่ค่อยมีคนสร้างบ้านไม้หรอกมันแพง เข้าใจคิดนะเหตุผลนี้นะ
แต่ก็มีอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจสร้างบ้านไม้ยกพื้นสูง เพราะเคยมีแผ่นดินไหวเมื่อไม่นานมานี้ บ้านไม้อาจจะเสียหายน้อยกว่าบ้านปูนจึงเป็นที่มาของการสร้างบ้านหลังนี้ รูปบ้านเก่าตอนกำลังรื้อ
ถมที่หมดไปเยอะและใช้เวลานานพอควรกว่าจะได้ขนาดนี้
มาถึงขั้นตอนการหารูปตัวอย่างบ้านแบบ รูปนี้เป็นบ้านในฝันแบบที่อยากได้มาก แต่ก็ต้องเอามาดัดแปลงให้มันเหมาะกับการใช้งานของเรา ขออนุญาตเจ้าของรูปภาพนะค่ะ
เราก็เอารูปบ้านพร้อมกับแบบร่างที่วาดขึ้นมาแบบงูๆ ปลาๆ ไปให้สถาปนิกเขียนแบบบ้านให้ เสียเงินไป 3 รอบ แต่ไม่เป็นไรเราต่อทุกรอบ เพราะคนเขียนแบบทำงานที่เดียวกัน ออกมาครั้งแรกใหญ่ไปหมดทุกอย่างแม้กระทั่งห้องน้ำ มานั่งนึกใครจะขัด (เรา) ใครจะกวาดจะถูก (ก็เราอีก) ก็เลยค่อยๆ ลดสเปกลงมาจนได้แบบนี้
แปลนหลังคาบ้าน
แปลนด้านหน้า และด้านข้าง
พอสร้างจริง เพิ่มห้องด้านหลังอีก 1 ห้อง และทำโรงรถด้วยเลย รูปนี้เป็นรูปผังที่จะวางระบบไฟฟ้าเขียนเอาเองเลย เพราะเราจะรู้ว่าจะจัดห้อง วางเตียง ตู้ ทีวี ฯลฯ ไว้ตรงไหน ระบบไฟฟ้าที่บ้านค่อนข้างสมบูรณ์ได้ใช้งานแทบทุกจุด ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรเลย
ฤกษ์ตั้งเสาเอก วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ตอนนั้นหน้าหนาวพอดี อากาศเย็นสบาย บางวันหมอกลงจัดมาก
เทเสาบ้าน
เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
เบรกนิดหนึ่ง 3 ตัวนี้เอามาเลี้ยงตอนเริ่มสร้างบ้านพอดี เพราะบ้านเราคงไม่ทำรั้วเนื่องจากรอบบ้านเป็นญาติพี่น้องกันหมด ก็เลยต้องหาผู้คุ้มครองความปลอดภัย หมูตุ๋น หมูเค็ม หมูหวาน บางทีขี้เกียจเรียกชื่อทั้ง 3 ตัว เรียกหมูฉึก ๆ มันก็มานั่งหน้าสลอนกันครบเลย
กลับมาที่บ้านต่อตั้งเสาแล้ว หมอกลงจัดเลยทีเดียว
ด้านหลังเป็นงานปูน ห้องครัวกับห้องน้ำทำควบคู่กันไป
ขึ้นโครงหลังคา
มาแล้วหลังคาบ้านของช้าง สีเขียวประกายมุกแม่ชอบมาก แม่บอกว่าสีเขียวมันเป็นสีต้นไม้ใบหญ้าดูร่มรื่นเย็นสบายตาดี
เริ่มตั้งวงกลบประตูหน้าต่าง ตกแต่งหยดน้ำรอบบ้าน
ห้องครัว กับห้องน้ำ
ห้องที่เพิ่มนอกแบบ และโรงรถ
ลงสี สีนี้ใช่เลย คงนานหลายปีถึงจะซีด
มองระยะไกล
มองระยะใกล้
เสร็จเสียที เหนื่อยสุดๆ เลยค่ะ เพราะเราเดินเรื่อง ซื้อวัสดุก่อสร้างเองทุกอย่าง ใช้เวลาในการสร้าง 6 เดือน จริงๆ แล้วสร้างเกินสัญญามา 2 เดือน แต่ไม่เป็นไรผู้รับเหมาทำงานดีไม่ค่อยมีปัญหา เราก็เลยหยวนๆ ไม่ปรับเขาตามสัญญาหรอก
หน้าต่างค่ะ ชอบมากกำหนดขนาดเองแล้วสั่งทำเป็นไม้สักค่ะ
ด้านข้าง
ด้านหลัง
เริ่มปลูกต้นไม้ ต้นไม้ยอดนิยมต้องมีไว้หน้าบ้าน
เอาต้นเทียนทองมาปลูกเป็นรั้วบ้านไปก่อน
ลีลาวดี ต้นไม้ของแม่ แม่ชอบมากปลูกรอบบ้านเลยมีครบทุกสี
ดอกแก้ว ชอบกลิ่นมันหอมดี
ต้นโมก ปลูกบังสายตา
หูกระจง อาศัยเป็นร่มเงา
ต้นนี้เลยห้ามตัด แต่ขอเจอกันครึ่งทางตัดกิ่งที่ชี้ไปทางหลังคาบ้านออก ตอนถมที่ตัดต้นไม้ใหญ่ไปเยอะมาก ยกเว้นต้นนี้ “ต้นกระท้อน” เหตุผลเพราะแม่ได้เงินกะมันทุกปี เอาลูกมันมาดองขายหน้าบ้านขายดิบขายดีเชียว ตอนนี้ก็ลงเพิ่มให้แม่ละ 5 ต้น สงสัยจะรวยกันละคราวนี้
สนามหญ้าข้างบ้าน
บรรยากาศตอนกลางคืน
เวลาเปิดไฟรอบบ้านมีแต่คนบอกว่าสวย
บรรยากาศต้นไม้หน้าบ้านริมทุ่งนา วันพระจันทร์เต็มดวง
บ้านเสร็จ หมูฉึก ๆ ก็โตพอใช้งานได้ละ
ได้เวลาพาชมในบ้านแล้วค่ะ เชิญค่ะ
ห้องรับแขก
ของตกแต่งชิ้นโปรด จริงๆ แล้วไม่ค่อยแต่งบ้านค่ะ มีอะไรอยู่เดิมก็เอามาใส่ ของเก่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซื้อเพิ่มแค่เตียงและชุดรับแขกเท่านั้น
บนบ้านมีห้องนอน 3 ห้อง
ห้องนอน 1
ห้องนอน 2 ห้องนอนที่ 3 ไม่ได้ถ่ายรูป เนื่องจากยังไม่ได้จัดของเลยรกมาก
เหล็กดัด ผ้าม่าน (สีเขียวชอบจริงๆ จังๆ)
ส่วนของห้องครัว และห้องน้ำ
ครัวเล็ก ๆ โปร่งดีค่ะ เคาท์เตอร์ไม่ทำบานปิดค่ะ มันทำความสะอาดยาก ปล่อยโล่งอย่างนี้แหละดูแลง่ายดี น้ำรั่ว น้ำซึม จะได้เห็นชัดเจน
ห้องน้ำ 2 ห้องทำเหมือนกันค่ะ อ่างล้างหน้าก็ไม่ติดขี้เกียจขัด
ที่มา : supreya