หากจะพูดถึงหลายท่านที่อาศัยในครอบครัวใหญ่ สมาชิกในบ้านหนึ่งในนั้นก็อาจจะเป็นผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษทั้งร่างกายและจิตใจ การให้ความรักความเอาใจใส่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่น้อย และที่สำคัญเรายังสามารถออกแบบบ้านเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการในด้านต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
เช่นเดียวกับคุณ Neverstops ที่ได้ทำการออกแบบบ้านบ้านและปรับเปลี่ยนพื้นที่บ้าน ให้คุณแม่ได้อย่างเก๋ไก๋ ทันสมัย ใช้งานได้จริง และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากเพื่อนๆ ชาวเว็บกำลังอยากจะหาไอเดียสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุอยู่ล่ะก็ ลองตามไปชมกันได้เลยค่ะ
สร้างบ้านผู้สูงอายุให้คุณแม่ สวยเก๋ และปลอดภัย เพื่อความสบายใจของทุกคนในครอบครัว
(โดย Neverstops)
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการสร้างบ้านชั้นเดียวให้กับผู้สูงอายุ เนื่องจากดิฉันมีแม่อายุ 59 ปี ที่ป่วยและไม่สามารถเดินได้ปกติต้องมีคนช่วยพยุงและดูแล และในอนาคตอาจได้นั่งรถเข็น คุณแม่ป่วยมาประมาณ 2 ปีแล้วและอาศัยอยู่ที่ กทม. แต่ดิฉันอยากให้แม่มาอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัดเพี่ออากาศและสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า ติดตรงแม่เป็นคนขี้เกรงใจไม่อยากมาเป็นภาระลูกและแม่ก็เกรงใจแฟนของดิฉันมาก กลัวว่าจะเป็นการรบกวนต่างๆ นานาๆ แม่ดิฉันเป็นคนที่ไม่ชอบไปอยู่อาศัยบ้านใครหรือเป็นภาระของใคร ดิฉันจึงบอกแม่ว่าจะสร้างบ้านชั้นเดียวให้แม่อยู่แยกต่างหาก ไม่ได้อยู่รวมกันหรอก เพียงแต่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเพื่อให้ท่านรู้สึกว่าเป็นบ้านของท่านเองและไม่ได้มาอาศัยอยู่กับดิฉัน เราจะเป็นแค่เพียงเพื่อนบ้านกันเท่านั้น 5555
หลังจากกล่อมแม่อยู่นานกว่าจะตกลงมา ดิฉันกับแฟนก็ได้ดำเนินการออกแบบบ้านให้แม่ บ้านที่ดิฉันอยู่อาศัยที่ต่างจังหวัดมีเนี้อที่ 200 ตารางวา ตัวบ้านเดิมที่อาศัยอยู่ก็ปลูกอยู่ในพื้นที่ 100 ตารางวา ส่วนอีก 100 ตารางวาก็เป็นสระว่ายน้ำและสวน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ดิฉันวางแผนจะสร้างบ้านชั้นเดียวให้แม่
และนี่ก็คือแบบบ้านชั้นเดียวที่ออกแบบให้แม่ เป็นลักษณะ L shape ประกอบด้วย 1 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว ถัดมาก็เป็นครัว และ ส่วนของ ห้องนั่งเล่น ซึ่งจะเป็น Open plan ด้านหน้าของห้องนั่งเล่นและห้องครัวก็จะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ เนื่องจากแม่ชอบนั่งนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ สระว่ายน้ำก็ย้ายจากตรงกลางที่ดินมาทางด้านซ้ายเกือบชิดกำแพง พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 52.5 ตร.ม และระเบียง 25.5 ตร.ม รวมเป็น 78 ตร.ม
เมื่อแก้ไขแบบและทุกอย่างลงตัวหมดแล้วก็ได้เวลาดำเนินการก่อสร้าง อันดับแรกเลยก็คือการรื้อสระว่ายน้ำ
พอสร้างบ้านให้แม่เสร็จก็ถือโอกาสจัดสวนใหม่เลย เชิญชมกันเลยค่ะ นี่คือทางเดินที่สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อระหว่างที่จอดรถของบ้านหลังเดิมไปหาบ้านชั้นเดียวของแม่ ทางเดินนี้ดิฉันก็ได้ออกแบบความกว้างมาเพื่อสำหรับรถเข็นของแม่ด้วย ในอนาคตหากแม่ต้องนั่งรถเข็นก็จะเพิ่มความสะดวกตรงจุดนี้ ทางเดินเป็นทรายล้าง
เดินตามกันมาเลยนะคะ
ก็มาถึงตรงที่เป็นระเบียงของบ้านหลังเดิม จะเห็นได้ว่าทางเดินที่เชื่อมต่อกับระเบียงสามารถเข็นรถเข็นขึ้นได้เพราะทำเป็นสโลป พร้อมที่กลับรถเข็น แม่อาจจะได้รับเชิญมารับประทานอาหารที่บ้านกับเพื่อนบ้านอย่างลูกเป็นครั้งคราว
และนี่ก็คือหน้าตาบ้านชั้นเดียวที่ดิฉันและแฟนได้สร้างให้แม่ ก็เป็นแค่บ้านชั้นเดียวหน้าตาธรรมดาๆ เราออกแบบให้คล้ายบ้านหลังใหญ่ ไม่อยากให้มันดูแตกต่างกันจนเกินไป เราไม่รู้หรอกว่าในอนาคตเราอาจจะต้องขายบ้าน ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรต่อเติมอะไรที่มันดูแตกต่างจากบ้านหลังเดิมมากนัก มันควรที่จะเป็นไปในทิศทางหรือสไตล์เดียวกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของเรา เจ้าของบ้านบางคนต่อเติมบ้านซะจนเสียสไตล์เดิมๆ หาความลงตัวไม่เจอ แทนที่จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ทรัพย์สินกับเป็นการลดมูลค่า
ตอนแรกแอบกังวลว่าสร้างบ้านเสร็จจะไม่เหลือพื้นที่สีเขียวของสวนเลย แต่ผิดคาด สวนก็ยังคงอยู่ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป สระว่ายน้ำที่เชื่อมระหว่างระเบียงบ้านหลังใหญ่กับระเบียงบ้านของแม่ทำให้มีความรู้สึกว่าบ้านทั้งสองหลังมีความเกี่ยวข้องกัน มีสิ่งที่ต้องใช้ร่วมกัน เป็นสังคมเล็กๆ ของครอบครัวเรา และบ่งบอกว่าแม่ไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้วนะ
และนี่ก็คือวิวจากระเบียงบ้านแม่ แม่คงจะมีความสุขมากกว่าเดิมที่ได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้ทุกวัน แทนราวตากผ้าของเพื่อนบ้านที่ กทม.
แม่ยังมีที่จอดรถและทางเข้าบ้านส่วนตัวด้วยนะคะ ตามมาดูเลยค่ะ
และนี่ก็คือทางเข้าบ้านของแม่ บ้านหลังนี้ดิฉันได้ขออนุญาติปลูกสร้าง และขอบ้านเลขที่ให้แม่ เพื่อให้แม่มีความรู้สึกว่ามันคือบ้านแม่จริงๆ มีถังขยะ ตู้จดหมาย น้ำประปาและ ไฟฟ้าก็แยกมิเตอร์กัน
เอารูปตอนหัวค่ำมาให้ดูเพิ่มค่ะ ช่วงหน้าฝนอากาศสดชื่นมาก ตอนเช้าและเย็น นกนานาชนิดก็เต็มสวน จนบางครั้งนึกว่าสวนนกซะอีก ส่วนข้างในรออีกนิดนะคะ พอดียังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
ไม่คิดว่าจะได้รับเสียงชื่นชมและคำอวยพรมากขนาดนี้ ขอบคุณมากๆค่ะ จริงๆแล้วภายในบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์เลยคงต้องรออีกอาทิตย์ ดิฉันเองก็อยากให้ได้ชมกันเร็วๆ อย่ารอเลยดีกว่า มาชมกันเลยค่ะ
เริ่มที่ห้องนอน ดิฉันเลือกใส่ sliding door ระวางระเบียงกับห้องนอน ล่องประตูก็จะถูกฝังเรียบลงพื้น ไม่มีโผล่มาให้คุณแม่เดินสะดุด ผ้าม่านก็สีเขียวสดใสและมีกันแสง ราวม่านก็สีไม้แมทกับสีประตู ประตูด้านขวาที่ติดกำแพงคือประตูห้องน้ำ และประตูอีกบานคือเชื่อมไปห้องครัวและห้องนั่งเล่น
ห้องนอนดิฉันเลือกใส่ 2 single beds สำหรับแม่และคนดูแลนอนด้วยกัน แม่ต้องมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชม. ตู้เสื้อผ้าเลือกค่อนข้างใหญ่เพราะสำหรับสองคน ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ folding door ไม่ต้องเปิดที่ละบานหาของให้เหนื่อย ภายในออกแบบมาค่อนข้างตอบสนองความต้องการ มีชั้นเหนือราวแขวนผ้าสามารถเก็บชุดเครื่องนอน หมอน ผ้าเช็ดตัว เซ็ตสำรองได้อย่างลงตัว ตู้และเตียงจาก SB Furniture หัวเตียงดิฉันเลือกทาสีเขียวเพื่อความสดชื่นอยู่ตลอดเวลาของแม่ 555 ผ้าม่านก็เลือกโทนเดียวกัน เขียวตัดขาว เตียงที่ชิดกำแพงทางด้านซ้ายจะเป็นเตียงของแม่ และมีราวจับสำหรับเดินไปห้องน้ำ
ถัดจากราวก็จะเป็นประตูห้องน้ำซึ่งไม่มีทางต่างระดับเหมือนห้องน้ำทั่วๆไป และขนาดของประตูสามารถนำรถเข็นเข้าไปในห้องน้ำได้ เปิดประตูห้องน้ำเข้ามาก็จะเจออ่างล้างมือ ชักโครกดิฉันใช้เป็นแบบอัตโนมัติเพื่อความสะดวกของแม่ แต่ก็ยังติดแบบ Manual ไว้ด้วยเผื่อระบบอัตโนมัติขัดข้อง ใต้อ่างล้างมือจะเป็นเครื่องทำน้ำร้อน
ระบบน้ำภายในบ้านจะเป็น 2 ระบบ ร้อนกับเย็น เครื่องเดียวสามารถใช้ได้ทั้ง อ่างล้างมือ shower และซิ้งล้างจานในห้องครัว การเดินท่อน้ำร้อนก็ไม่ได้ยาวมากเพราะห้องครัวอยู่ติดกับห้องน้ำ เหนืออ่างล้างมือด้านบนก็จะเป็นตู้เก็บของใช้ภายในห้องน้ำซึ่งหน้าบานเป็นกระจก ซื้อมาจาก Index Living Mall พื้นห้องน้ำดิฉันก็เลือกแบบกันลื่น มีคลื่นที่กระเบื้อง
ภายในห้องน้ำจะไม่มีทางต่างระดับใดๆ แม้แต่ทางเข้าห้องอาบน้ำ พื้นห้องอาบน้ำก็สโลปนิดหน่อย
ในห้องน้ำก็จะมีราวจับทางด้านขวามือ ให้แม่เดินเกาะไปที่โถส้วมและห้องอาบน้ำ ราวจับตรงชักโครกทั้งสองข้างยังไม่ได้ติดค่ะ พอดีรอช่างอยู่
ภายในห้องอาบน้ำก็จะมีที่นั่งให้แม่นั่งอาบน้ำ แม่ชอบเอาน้ำราดหัวตัวเองเวลาอาบน้ำ จัดไปค่ะ Rain shower
ออกจากห้องนอนก็มาดูห้องครัวและห้องนั่งเล่นกันค่ะ ห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะเป็น Open plan ห้องครัวยังไม่เรียบร้อย ยังรอติดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ สติกเกอร์หน้าบานก็ยังไม่ได้แกะออก รอช่างทำงานเสร็จก่อน เลือกครัวสีเทา และ top สีขาว ดูสะอาดและก็ Modern
ส่วนครัวแม่คงทำอาหารเองไม่ได้ คงจะเป็นคนดูแลแม่ใช้ซะเป็นส่วนใหญ่ ถังแก๊สจะเอาไว้หลังบ้าน ต่อทะลุกำแพงเข้ามาและติดตั้งระบบความปลอดภัย วาวล์อะไรต่างๆ เรียกไม่ถูก อันนี้ต้องให้ช่างแก๊สมาทำให้ เน้นนะคะ ช่างแก๊สไม่ใช่คนส่งแก๊ส ดิฉันมีความรู้สึกว่ามันปลอดภัยมากกว่าที่จะเอาถังแก๊สไว้นอกบ้าน มี 2 ถัง เผื่อสำรองตอนแก๊สหมด เคยอารมณ์เสียตอนกำลังทำกับข้าวแล้วแก๊สหมดไหมค่ะ
เนื่องจากพื้นที่ภายในบ้านที่จำกัด เลยเป็นที่มาของการเพิ่ม Breakfast Bar แทนการใส่โต๊ะกินข้าว เก้าอี้สามตัวนี้ได้มาจาก HomePro ถูกใจมาก นั่งก็สบายมาก นุ่ม เพราะมีเบาะมาในตัว และน้ำหนักเบา แม่สามารถลากออกมานั่งเองได้อย่างสบาย ดีไซด์ถูกใจลูก การใช้งานถูกใจแม่ ส่วนใหญ่แม่คงจะกินข้าวที่ระเบียงมากกว่า เพราะแม่ชอบนั่งนอกบ้าน Breakfast Bar ก็คงได้ใช้ตอนที่ฝนตก แดดแรงๆ อยากนั่งในห้องแอร์
ในส่วนของ Living area ก็ได้จัดไว้แบบง่ายๆ ค่ะ โซฟาสีเทาตัวนี้ได้มาจาก Index Living Mall เป็นโซฟาเบดด้วยค่ะ ไว้ให้แม่เอนหลังตอนกลางวันได้ และก็เผื่อเอาไว้ให้ญาติพี่น้องที่จะมาเยี่ยมแม่นอนค้างคืนได้ ส่วน coffee table ได้มาจาก IKEA ถูกใจสุดๆ ค่ะ เนื่องจากตัวเองหลงไหล Scandinevian style อย่างพวกไม้สีโอ๊กมาก
ที่สำคัญตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทีเดียว เช่นระดับความสูงที่เท่ากันกับโซฟา ทำให้การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่ต้องก้มลงไปมากเพื่อหยิบของหรือแก้วน้ำดื่ม แม่ผ่าตัดหลัง การก้มๆ เงยๆ ค่อนข้างลำบาก coffer table ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเตี้ย coffee table ชุดนี้มีสองชิ้นซึ่งแยกกันได้ หากเรามีแขกมาบ้านและนั่งที่โซฟาหลายๆ คน ก็สะดวกในการใช้เป็นอย่างมาก
านลงตัวที่ม่านม้วนสีเทาตัดขาวค่ะ เพราะใช้ง่าย สวยงามและ Modern ม่านอาจไม่ได้ใช้งานบ่อยคงจะปิดแค่ตอนที่มีคนมานอนค้างคืนที่โซฟา
ม่านม้วนเก็บขึ้นไปแล้วก็ดูเรียบร้อยสวยงาม
ชั้นวางทีวีได้มาจาก IKAE เจ้าเดิม ดีไซด์และสีก็เข้ากันกับ Coffee table ผนังด้านหลังทีวีทาสีเทาค่ะ ห้องขาวๆ สว่างๆ มันก็ดูน่าเบื่อได้ เผื่อความเป็นธีมเดียวกัน Gray House!
และที่ทำให้บ้านแคบๆ หลังนี้ไม่แคบก็คือ Folding door ระหว่างระเบียงกับห้องรับแขกและห้องครัวนี้แหล่ะค่ะ ถ้าเปิดประตูจนสุดแล้วบ้านกว้างขึ้นมาทันทีค่ะ การถ่ายเทอากาศก็ดี อีกอย่างแม่ก็จะได้รับชมวิวสวนขณะนั่งอยู่ภายในบ้านผ่านประตูกระจก ประตูอาจจะไม่ได้เปิดบ่อยๆ อาจได้เปิดช่วงทำความสะอาดเพื่อถ่ายเทอากาศหรือช่วงไหนมีปาร์ตี้ หรือถ้าคุณแม่อยากรับลมเย็นๆ ก็คงจะได้เปิด
ที่สำคัญล่องประตูจะถูกฝังลงไปในพื้น ไม่มีโผล่มาให้แม่เดินสะดุดหัวทิ่มเหมือนบ้านของ ดิฉันแน่นอนค่ะ ประตูและหน้าต่างของ Sun Paradise ระบบไฟใช้ดิมเมอร์ทั้งหลังค่ะ ยกเว้นห้องน้ำ พัดลมเพดานทุกห้องค่ะ เผื่อคุณแม่ไม่อยากเปิดแอร์ โดยเฉพาะหน้าฝนอากาศเย็นสบาย ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ พัดลมก็เอาอยู่ ติดพัดลมเพดานที่ระเบียงค่อนข้างมีประโยชน์มาก คลายร้อนได้เยอะ แล้วก็ไม่ต้องลากพัดลมตั้งพื้นมาใช้ให้เกะกะ ช่วงหน้าร้อนที่จังหวัดของดิฉันร้อนตับแตกเลยค่ะ
ประสบการณ์ในการสร้างบ้านหลังแรกในชีวิตค่อนข้างราบรื่น ได้คนออกแบบมืออาชีพ ผู้รับเหมามืออาชีพ เข้าใจความต้องการของเรา ตอนที่บ้านเสร็จสมบูรณ์น้ำตาเราสองคนแทบจะไหล ปลาบปลื้มในความสำเร็จครั้งนี้ เพราะเราทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับมันเยอะมาก แฟนของดิฉันขับรถไปร้านขายกระเบี้อง ไปร้านหลอดไฟ ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านครัว ร้านสุขภัณฑ์และอีกหลายๆ ร้าน แล้วไม่ได้ไปรอบเดียวนะคะ ไม่ต่ำกว่าสี่รอบแต่ละร้าน เพราะเราต้องการสิ่งที่ดี สิ่งที่เหมาะสม และสะดวกสบายมากที่สุดสำหรับคุณแม่
ส่วนตัวดิฉันไม่ค่อยมีเวลาไปตระเวนกับแฟนเพราะงานยุ่ง ดิฉันจะไปแค่ครั้งเดียวตอนที่จะตัดสินใจซื้อ แฟนของดิฉันมีส่วนในการสร้างบ้านหลังนี้มาก มากซะจนดิฉันคิดว่าเค้าสร้างให้แม่ตัวเอง เค้าเป็นคนดูแบบเองทุกอย่าง แก้แบบกับสถาปนิกเอง เพราะเค้าเก่งเรื่อง Detail ดิวกับผู้รับเหมาแฟนก็เป็นคนจัดการทุกอย่าง เค้าจะคิดอะไรครอบจักรวาลมาก คิดเผื่อไปหมดทุกอย่าง Folding door ก็เป็นไอเดียของแฟน แก๊ส 2 ถังก็ไอเดียเค้า เพราะเค้าเป็นคนทำกับข้าว รู้ดีค่ะ 55 แต่เวลาจะตัดสินใจเค้าจะมาปรึกษาดิฉันก่อนแล้วเราก็จะตัดสินใจร่วมกัน
ดิฉันกับแฟนไม่เคยไปดูแบบบ้านพักผู้สูงอายุที่ไหนเพราะแบบมันอยู่ในหัวใจเราทั้งสองอยู่แล้วค่ะ นิยามของบ้านหลังนี้ดิฉันคิดว่ามันคือ Simple, stylish and practical ☺ หรือภาษาไทยก็ประมาณว่า ออกแบบง่ายๆ แต่ดูมีรสนิยมและใช้งานได้จริง ขอบคุณทุกคำชื่นชมและคำอวยพรมากๆนะคะ คุณแม่พึ่งมาดูบ้านเมื่อวานนี้เหมือนน้ำตาจะไหลแต่คงพยายามกลั้นไว้
ที่มา : Neverstops