วิถีชีวิตที่เรียบง่ายในบ้านไม้แบบดั้งเดิม กับบรรยากาศท้องทุ่งอันสวยงาม อาจจะเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนกำลังมองหา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สวนกระแสกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คงจะดีไม่น้อยหากเราจะมีบ้านหลังเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติแสนสดชื่น เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ หลีกหนีจากความวุ่นวายจำเจในเมือง
เช่นเดียวกับคุณ salinee44 ที่ได้ทำการสร้างบ้านไม้ที่ปลายทุ่งนากับคุณพ่อ ทำไปเรื่อยๆ แบบไม่เร่งรีบ ใช้เวลาทั้งหมด 5 ปี กลายมาเป็นบ้านโครงสร้างกึ่งปูนกึ่งไม้ ดีไซน์เรือนไทยยกพื้น สวยงามแบบคลาสสิค ที่สำคัญก็คือรายล้อมไปด้วยวิวทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งการพักผ่อนครับ ลองมาชมกันได้เลย
ปลูกบ้านหลังน้อยปลายนา จากพื้นที่รกร้างว่างเปล่า กลายเป็นบ้านเรือนไทยยกพื้นสุดคลาสสิค!!
(รีวิวโดย salinee44)
หลังจากที่แม่ผมได้ดูหนัง 2012 เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน เราจึงคิดกันว่า น่าจะมีบ้านอีกสักหลัง เผื่อโลกแตก ดูเป็นจุดเริ่มต้นที่ขำๆ แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ครับ
กระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวที่มีระยะเวลาในการรีวิวยาวนานกว่า 5 ปี ใช่ครับ มันเป็นการเปลี่ยนที่นาที่ไม่มีใครคิดจะไปอยู่ ให้มันสามารถอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง
เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พ่อผมได้ย้ายกลับบ้านเกิดที่ อ.วาปีปทุม เพื่อจะเตรียมเกษียณอายุราชการที่นั่นครับ พร้อมกับไปดูแลที่ดินกว่า 40 ไร่ หลังจากปล่อยมันอยู่อย่างเหงาๆ มานาน
อันที่จริง ตอนที่พ่อของผมกลับไปที่บ้านเกิด ท่านได้รีโนเวทบ้านของคุณย่า ไว้แล้วเพื่อใช้อยู่อาศัย
แต่จนแล้วจนรอด เราก็คิดกันว่า เราคงต้องมีบ้านอีกสักหลังที่นาของพ่อ
แต่การจะสร้างบ้านกลางนา…มันเป็นเรื่องที่ยากมากมายมหาศาล มันไม่มีไฟฟ้า แล้วเครื่องมือช่างมันจะใช้งานได้ยังไง!!! พ่อผมเลยไปขอยืมเครื่องไปไฟที่วัดมาครับ กะว่าจะขอยืมแค่เดือนเดียว และก็ได้จริงๆ ครับ เรามีไฟใช้แล้ว ไชโย!!!
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น เมื่อพ่อไปเจอบ้านหลังนี้โดยบังเอิญ บ้านใครก็ม่ายรู้ ตั้งอยู่ริมถนน จึงขอเจ้าของบ้านถ่ายรูป หลังจากนั้น สถาปนิกถอยไป…สถาปนึกล้วนๆ
โธ่พ่อ!!! ใครเขาใส่ที่จับกับลูกบิดไว้ด้วยกันล่ะเนี่ยยย!
ประมาณ พฤษภาคม 2553 เราก็เริ่มสร้างบ้าน โดยพ่อเป็นคนคุมงานทั้งหมดครับ เราไม่ได้มีเงินขนาดนั้น เท่าที่เรามีคือที่ดินและสวนป่า 4 ไร่ ใช่ครับ ไม้ทั้งหมดเอามาจากสวนป่าของพ่อ
ช่างสร้างบ้านก็หามาจากในหมู่บ้าน เขาไม่เคยสร้างบ้านสไตล์นี้มาก่อนครับ แต่เขาก็อยากสร้าง เขาอยากได้เป็น Portfolio เผื่อมีใครอยากจ้างไปสร้างอีก เขาคิดค่าสร้างบ้านถูกมากครับ 60,000 แค่นั้นเอง จริงๆ ครับ
ตัวบ้าน ตั้งอยู่กลางทุ่งนาจริงๆ ครับ วิเวกวังเวง ตกดึกมืดตึ๊ดดื๋อ มีเพียงแสงจันทร์กับแสงดาวเท่านั้นที่ทำให้เรายังมองเห็นตัวบ้านรำไร
โอ…และแล้ว ตัวบ้านเวอร์ชั่นที่ 1 ก็เสร็จพร้อมอยู่จนได้ครับ ทำไมต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ 1 ก็เพราะพ่อของผมจะมีการเปลี่ยนอีกประมาณ 88 รอบนี่แหละครับ ตอนนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้นะครับ
เอ่อ…ไปหาเสาจากไหนมาก็ไม่รู้ครับ
และนี่ครับ เวอร์ชั่น 1.1
แต่เราก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
คืนนี้กางเต็นท์นอนไปก่อนครับ ดาวสวยจริงๆ ครับ
เราไปขอไฟฟ้าที่ การไฟฟ้า ขอเป็นปีครับไม่ได้ซะที เพราะเขาบอกว่า บ้านเราอยู่ไกลเกินไป สุดท้าย เราเลยขอเจรจา เราจะเอาหม้อมิเตอร์ห่างเสา 300 เมตร แล้วเราจะเดินต่อเองอีกประมาณ 100 เมตรครับ พูดง่ายๆ เลยค่าใช้จ่าย เราออกเองทั้งหมดครับ รวมทั้งค่าเสาค่าสายไฟ ประมาณ 50,000 บาทครับ
พอมีไฟฟ้าเท่านั้นแหละครับ ไชโย้!!!! อะไรๆ ก็เริ่มจากจุดนี้
แต่ไหนแต่ไรมา หน้าแล้งทุกปี เป็นแบบนี้ครับ อิสานตอนกลางก็งี้แหละครับ สู้อิสานเหนือกับอิสานใต้ไม่ได้ บริเวณนั้นฝนดีกว่านี้
ความโชคดีของที่ผืนนี้คือ มีคลองชลประทาน และมีบ่อน้ำไว้ใช้ตลอดปี
เราเริ่มเจาะน้ำใต้ดิน ไม่ใช่น้ำบาดาลนะครับ เพราะสายน้ำบาดาลไม่ผ่านบ้านผม
เราพยายามต่อสู้กับความแห้งแล้ง ด้วยเทคโนโลยี…แต่ดูเหมือนว่า มันไม่คุ้มกันเลยจริงๆ
พืชไร่ไม่เหมาะกับดินที่นี่…ใช้ปุ๋ยมากไป ต้นไม้ที่ตอนกิ่ง ก็ไม่เหมาะกับที่นี่ เพราะสุดท้ายก็ตายอยู่ดี พืชที่ปลูกด้วยเมล็ดต่างหาก ที่ทนทุกสภาวะ เพราะสุดท้ายแล้ว เราต้องการต้นไม้ที่หยั่งรากลึก ใต้ดินนั้นมีธาตุอาหารมากมาย ถ้ารอแต่ให้ปุ๋ย มันก็เหมือนต้นไม้ที่คอยอาหาร ต้องการมากขึ้นๆ และสุดท้ายก็เป็นต้นไม้ติดปุ๋ย รากมาออกันที่ผิวดิน
เราเริ่มปลูกต้นไม้ยืนต้น…ต้นแล้วต้นเล่า ตายบ้าง รอดบ้าง ปนๆ กันไป
หน้าฝนกลับมาอีกครั้ง ความชุ่มชื้นก็กลับมาด้วย
พ่อผมก็ต่อเติมบ้านเพิ่ม
เปลี่ยนสีอีก -_-”
สุดท้ายแล้วครับ สำหรับรีวิวบ้านนาของผม 5 ปีที่ผ่านมา
ที่มา : salinee44