มหาวิหาร คือสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญกับชาวคริสต์ทุกคน เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนา เช่น พิธีการรับศีลล้างบาป พิธีแต่งงานของราชวงศ์ ไปจนถึงงานศพของสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นต้น
เมื่อพูดถึงมหาวิหารแล้ว สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นออกมา คือ รูปแบบทางสถาปัตยกรรม ที่มีขนาดโครงสร้างใหญ่โตและสูงโปร่ง ตกแต่งอย่างปราณีตด้วยลวดลายที่พิถีพิถันและซับซ้อน สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่อลังการของพลังความศรัทธาได้อย่างเต็มเปี่ยม
มหาวิหารที่โด่งดังอย่าง มหาวิหารนอเทรอดาม อายุ 850 ปี ซึ่งได้ประสบเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา และสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ก็ยากที่ซ่อมแซมให้เหมือนเดิม อีกทั้งต้องใช้เวลาในการบูรณะหลายปี ถือว่าเป็นการสูญเสียในแง่มรดกทางศิลปะของมนุษยชาติอันใหญ่หลวงเลยทีเดียว
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาเพื่อนๆ ลองไปชมกันดูว่า นอกจากมหาวิหารนอเทรอดามแล้ว ในโลกนี้ยังมีมหาวิหารอื่นๆ ตั้งอยู่ที่ไหนอีกบ้าง ขอบอก่อนเลยว่ามีทั้งมหาวิหารแบบยุคเก่าที่ได้รับการรักษาและยังคงความสวยงามแบบดั้งเดิม ไปจนถึงมหาวิหารยุคโมเดิร์นที่ทั้งดูอลังการและทันสมัยสุดๆ ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. Clifton Cathedral, United Kingdom
Clifton Cathedral ถูกออกแบบให้มีความทึบของปูน ใช้ช่องแสงน้อยเพื่อให้แสงลอดเข้ามาน้อยที่สุด อีกทั้งมีสเกลขนาดใหญ่มากของเสาที่สูงชะลูดขึ้นไป ซึ่งเป็นหนึ่งในสไตล์ของการออกแบบของสถาปัตยกรรมแบบ Brutalist ที่มักจะเน้นโครงสร้างอาคารแบบเรขาคณิตบนพื้นผิวปูนเปลือยดิบๆ
2. Royal Basilica of Saint-Denis, France
Royal Basilica of Saint-Denis เรียกได้ว่าถูกสร้างขึ้นในสไตล์แบบโกธิค ด้วยรายละเอียดของผนังหินที่แกะสละเป็นลายของนักบุญ ประตูและหน้าต่างบานแคบแบบทรงโค้ง ไปจนถึงบานหน้าต่างกุหลาบตรงกลางที่ใช้เป็นกระจกสีขนาดใหญ่
3. Sacred Heart Cathedral of Kericho, Kenya
Sacred Heart Cathedral ถูกสร้างขึ้นในสเกลหลังคาขนาดใหญ่ (Over-Scaled) ที่เว้นช่องด้านบนไว้ให้แสงส่องกระจายลงมาภายในได้ พร้อมทั้งผนังทีบของตัวมหาวิหาร ก็ยังทำให้ด้านในดูมีความศักดิ์สิทธิ์ และมีความสงบมากยิ่งขึ้น
4. Cathedral of Créteil Extension, France
Cathedral of Créteil Extension ถือว่าเป็นมหาวิหารที่สะท้อนเอกลักษณ์ของศาสนสถานแห่งยุคโมเดิร์นอย่างแท้จริง ด้วยทรงโค้งของมหาวิหารแบบนี้ที่เปิดช่องแสงด้านบน รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุโครงเหล็ก และลามิเนตเป็นส่วนประกอบของเปลือกของอาคารประกอบเข้าด้วยกัน
5. The Crystal Cathedral, Architecture-Studio, United States
The Crystal Cathedral รูปลักษณ์ภายนอกของมหาวิหารนี้ มีการเลือกใช้กระจกสะท้อนที่ยึดกับโครงเหล็กด้านในเกือบทั้งหมด จนกลายออกมาเป็นทรงเหลี่ยมคม ซึ่งหากมองจากด้านนอกเรามองไม่เห็นภาย แต่หากมองจากด้านในจะเห็นท้องฟ้าและถนนด้านนอก
6. Notre Dame Haiti Cathedral Competition Entry, Haiti
Notre Dame Haiti Cathedral Competition Entry เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่กำลังจะเตรียมสร้างหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้น โดยรูปทรงที่ออกแบบจะเน้นเป็นทรงสี่เหลี่ยมเรียบง่าย และนำไม้รีไคเซิลมาทำเป็นผนัง โดยเว้นช่องแสงไว้เป็นรูปไม้กางเขน
7. Cathedral of the Northern Lights, Norway
Cathedral of the Northern Lights มีการนำวิหารรูปแบบเก่ามาปรับใช้ จากยอดแหลมแบบทรงโกธิคก็เปลี่ยนให้เป็นยอดเกลียวแหลมแทน โดยวัสดุหลักๆ ที่เลือกใช้คือ ไทเทเนียม ซึ่งจะสะท้อนในยามที่เกิดแสงเหนือขึ้น
8. Cathedral of Brasilia, Brazil
Cathedral of Brasilia ถูกออกแบบให้คล้ายกับกระโจมขนาดใหญ่ โดยด้านบนสุดมีสัญลักษณ์ของไม้กางเขนตั้งไว้ รวมถึงมีเสาแบบโค้งงอ 16 ต้นที่คอยรับน้ำหนักของกระจกสีขนาดใหญ่ของมหาวิหารให้ตั้งอยู่ได้
9. The Cathedral of Christ the Light, United States
The Cathedral of Christ the Light ถูกออกแบบให้มีความโค้งมนเป็นทรงวงรี และมีการเลือกใช้วัสดุอย่างไม้และกระจกตามทรงโค้งของอาคาร อีกทั้งตรงกลางของมหาวิหารคือกระจกขนาดใหญ่ที่จะสะท้อนรูปของพระเยซูไว้
ที่มา : Archdaily .