คงจะดีไม่น้อยหากพื้นที่ในเขตรั้วบ้านของเราจะมีน้ำตกจำลองสวยๆ ไว้คอยชื่นชมให้เย็นตาสบายใจ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างจะแพง ทำให้ความฝันที่อยากเป็นเจ้าของน้ำตกของใครหลายๆ คนต้องถูกลบไป แต่หากเราทำการวางแผนและออกแบบดีๆ และลงทุนลงแรงด้วยตัวเอง ก็อาจจะได้น้ำตกมาเชยชมในราคาที่ไม่เจ็บหนักก็เป็นได้นะ
วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาเพื่อนๆ ชาวเว็บไปชม น้ำตกหินกาบแสนสวย ของคุณ zanymph ที่ได้ลงมือลงแรงช่วยกันทำเองภายในครอบครัว ได้มาเป็นมุมแสนสดชื่นประจำบ้านที่ทุกคนต้องหลงรัก แถมงานนี้ยังใช้งบประมาณไปไม่ถึง 8,000 บาทเท่านั้น (ไม่รวมระแนงไม้) จะคุ้มค่าหรือไม่นั้น ต้องตามมาดูกันครับ
น้ำตกหินกาบแบบฉบับช่วยกันทำเองในครอบครัว เย็นสดชื่นสบายตา ค่าเสียหายไม่เกิน 8,000 บาท
(รีวิวโดย zanymph)
แรงบันดาลใจของใหกรรมน้ำตกแห่งชาติ ได้กำเนิดเกิดขึ้นเมื่อไปเดินดูต้นไม้แถวคลอง 16 แลวเจอร้านน้ำตกหินกาบ อันเล็กกระทัดรัด (1×1.5m) พอไปถามราคาเท่านั้นละคะ แม่คุณเอ้ย!! เหยียบหมื่นทุกอันเลย ถูกที่สุดรู้สึกว่า 9,500 บาท (แบบประมาณในรูปน่าจะราคาประมาณ หมื่นต้นๆ) ไปแอบจิ๊กรูปในเน็ตมา กลัวไม่เห็นภาพกัน
หลังจากดูต้นไม้เสร็จ พอกลับถีงบ้านเท่านั้นละคะ ผี google ประทับทรงทันทีเลยคะ หาข้อมูลการทำทุกอย่างเกี่ยวกับ การทำน้ำตกหินกาบ และแอบไปเห็น มีพี่คนนึงที่เคยรีวิวใน Pantip ไว้ด้วย ก็เลยเกิดแรงบัลดาลใจลมๆแล้งๆ ว่า (คนอื่นยังทำได้เลย ทำไมเราจะทำไม่ได้)
(แรงบัลดาลใจในวงเล็บ หลายๆครั้ง ก็ทำออกมาไม่ค่อยได้เรื่องนะคะ 5555)
พอกลับถึงบ้านและได้หาข้อมูลเรียบร้อย จากน้ำตกหินกาบเล็กๆ มันได้เปลี่ยนเป็นมหกรรมน้ำตกหินกาบแห่งชาติ ไปแล้ว
เสิร์ชดูในเน็ต แบบนั้นก็ดีแบบนี้ก็สวย โอ๊ย…หลากหลายมากมายเกินจินตนาการ เลยรวบรวมสถาปนึกในบ้าน เพื่อมาช่วยกันวางแผน ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ที่บ้านเป็นครอบครัวสถาปนึก (ไม่ใช่สถาปนิค) นะคะ
* ครอบครัวเรานึกอะไรได้ก็ทำเอา หาข้อมูลในเน็ตเป็นแบบอย่างถ้าทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ เดี๋ยวค่อยนึกเอา
* การสร้างครั้งนี้ไม่ได้อิงหลักวิศวกรรมใดๆทั้งสิ้น แรกๆก็ว่าจะอิงตามหลักแต่หลังๆทำไปทำมารู้สึกว่ามันซับซ้อนซ่อนเงื่อนไป ก็เลยเอาตามความเข้าใจและหลักความน่าจะเป็นของตัวเองดีกว่า 5555
* คนงานในโปรเจคนี้ประกอบไปด้วยอาชีพ นักฟุตบอล , Pt -Mc , พนักงาน ป.ต.ท , พยาบาล , และแม่ค้าขายเคทไอโฟน
พื้นที่หน้าบ้านแรกเริ่มเดิมที่เป็นสนามหญ้าเขียว ชะอุ่ม แต่บังเอิฐเจอเจ้าน้องหมาโกลเด้นทั้ง 2 รุมขุด จนเป็น สภาพตามที่เห็น
หลังจากทนสภาพสนามหน้าบ้านที่ไม่ต่างอะไรจากหลุมอวกาศ จึงจัดสินใจปูหินซะเลยยย
และหลังจากปูหินได้ 3 วัน โปรเจคหินกาบจึงได้กำเนิดขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าหินปูพื้นเกือบทั้งหมดที่เพิ่งปูไป ต้องรื้อออก OMG. (โอวว มายก๊อดด) ถ้าใครเคยปูพื้นหินทรายแดง จะพอรู้ว่าน้ำหนักนี่ไม่ใช้น้อยเลย ซึ่งแต่ละแผ่นความหนา + บาง ก็ต่างกัน …. น้ำหนักของหินบางแผ่น จึงทำให้แทบทรุดได้เช่นกัน
หลังจากยกหินออกก็เริ่มลงมือขุดดินกันเลยยย !!!!
ใช้เวลาขุดหลุดกันอยู่ประมาณ 3 วันน่าจะได้คะ ดินที่บ้านเหนียวมากๆ และระหว่างที่ขุด ก็จะแอบเจออุปสรรคในชั้นดินเป็นด่านๆไป อาทิเช่น กระสอบปุ๋ย ซึ่งจะดึงออกก็ไม่ๆได้เพราะโผล่มาแค่นิดเดียว และหน้าดินเหนียวก็ทับเอาไว้อย่างแน่นหนา
นอกจากนั้นยังมีก้อนหิน ก้อนใหญ่ – ใหญ่มากประปราย ทำให้เสียเวลาพอสมควร เพราะแต่ละวันกว่าจะเริ่มลงมือกันได้ก็ช่วง 16.00 เพราะแดดเริ่มหมด ประมาณ 1 ทุ่มก็ต้องรีบเสร็จ เพราะพี่ยุงเค้าจะมาปาตี้ บุฟเฟ่ เลือดกัน (ที่หมู่บ้านยุงเยอะมาก)
ในรูปที่พื้นแฉะ ขนาดนั้น เพราะคุณนายแม่ ฉีดน้ำลงไป กะให้ขุดง่ายขึ้น แต่ผลที่ออกมาคือ ขุดยากกว่าเดิม เพราะพื้นลื่น และเวลาเดินย่ำไปดินเหนียวก็รักกันเหนียวแน่นขึ้น
พอขุดเสร็จคุณนายแม่สั่งให้เอาหินลง และเตรียมเทปูน ซึ่งแรกๆคุยไว้ว่าจะวางเหล็กเส้นเป็นโครง ก่อนเทปูน แต่ไปๆ มาๆ คุณนายแม่เปลี่ยนเป็นเป็นไม้ไผ่ซะงั้นจ้า
หลังจากที่คุณนายแม่ เอาไม้ไผ่มาสานๆ ทำโครงแบบตามมีตามเกิดแล้ว ลองสังเกตุหลุมสีฟ้าๆ คุณนายแม่เรียกมันว่า สะดือบ่อ 55555 (ช่างกล้า) เสียนี่กระไรคุณนายแม่ขาา (สะดือบ่อสีฟ้าๆที่เห็นคุณนาย) ไปเอาถังขยะในห้องน้ำมา ทำเป็นสะดือ ( โอวววว…มายก๊อด ) ทำไปได้
หลังจากนั้นก็ใช้แรงงานพี่ชาย ให้ผสมปูนซ้าาาา … (แอบมีคนให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ)
พอเทปูนเสร็จแล้ว ก็ออกมาตามสภาพที่เห็น 5555 (เอาน่า … แค่ไม่รั่ว ไม่ซึมก็ดีแล้ว)
* ทฤษฏีของคุณนายแม่คือ ให้พิ้นเทลงไปทางสะดือบ่อ แต่ไม่ได้วางระบบท่ออะไรเลย แล้วจะมีสือดือบ่อไปเพื่อ ? อะไรคุณแม่ขาาา
ความลึกของบ่อ เท่าไหร่ไม่รู้ (สถาปนึกไม่ได้วัด) ที่ความลึกได้เท่านี้ ทั้งที่จริงอยากได้ลึกกว่านี้อีก เพราะสถาปนึกและทีมงาน เหนื่อยกันมากแล้ว (และมือพอง มือแตก) กันเป็นแทบๆ เลยลงมติว่า (ลึกแค่นี้ก็ได้เนอะ)
หลังจากได้ความลึกของบ่อเป็นที่พอใจแล้ว ความลึกเท่า (อิฐบล็อกคอนกรีต 2 ก้อน) ก็ได้ฤกษ์งามยามดีในการก่อ กำแพงหินกาบ (ตามที่มโนภาพไว้เบื้องต้น กะความสูงไว้ประมาณต้นโมก)
ก่อไปก่อมากำแพงด้านหลังที่จะเอาไว้ทำน้ำตก ความสูงก็ไม่ได้ตามที่มโนภาพไว้ (แต่ก็ใกล้เคียงที่สุดแล้วละนะ)
วันนี้รับหน้าที่ผสมปูน (พอเอารูปนี้ลงเฟสบุ๊ค) ทุกคนทักว่าระวังปูนกัดมือ อยากบอกทุกคนว่า ไม่ทันแล้วคร้าา
* คือแรกๆ ก็ยังไม่อินกับคำว่าปูนกัดมือ ว่ามันคืออะไรยังไง จนเอามือไปกวนปูนนี่แหละคร้า รู้ซึ้งถึงคำว่าปูนกัดมือเลยจ้า T______T
เมื่อก่อกำแพงได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการฉาบปูน ซึ่งต้องบอกเลยว่าศึกษามาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะการผสมปูน รวมไปถึงการผสมกันซึม วิธีการฉาบ เปิดคลิปดู หาข้อมูลมาอย่างแน่นปึ๊ก เพราะกลัวว่าน้ำจะซึม
แต่พอได้ลองปฏิบัติ เท่านั้นละคุณขาาาา ข้อมูลและทฤษฏีใดๆ ในโลกใบนี้ ก็ใช้ไม่ได้เลย อะไรก็ดูยากเย็นไปหมด
ลองดูฝีมือการฉาบของพี่ชาย (โอวววว..มายก๊อด ) พี่ท่านเค้าฉาบปูนหรือจะสร้างบ้านดิน ให้เนี๊ยะ ทำไมมันไม่ใกล้เคียงกับในคลิปที่ดูมาเลย
มาแอบดูของคุณพ่อบ้าง (ค่อยยังชั่วกว่าของพี่ชายหน่อย) ถึงไม่ได้เรียบเนียนเหมือนในคลิป แต่ก็ยังดีกว่าของพี่ชายที่ทำไว้
สรุปว่า พี่ชายลองฉาบได้อยู่แป๊บเดียว แกก็ยอมแพ้ บอกว่าทำไม่ได้แกไม่ทำแล้ว (เดี๋ยวแกจะวีนแตก) สรุปหญิงสาวคนเดียวในบ้าน ต้องมานั่งฉาบกำแพง จนเกือบ 3 ทุ่ม (ทำไงได้ละ โปรเจคเราหนิ) บ่นมากเดี๋ยวไม่มีคนช่วย จะแย่เอานะ
ฉาบเสร็จแล้วได้ออกมาเป็นสภาพ เช่นนี้คะ ( จับเกรียงครั้งแรกได้แค่นี้ก็บุญและคะ ) หลังจากฉาบเสร็จแล้วจำได้ว่า เค้าให้ฉีดน้ำ (แต่ดั๊นลืม ซะนี่) นอนตื่นมาตี 3 นึกขึ้นได้ (ก็ยังอุตส่าห์นึกได้เนอะ) เลยรีบลงไปลากสายยางมาฉีดโดยด่วน!
เมื่อเช้าแอบลงไปส่องผลงาน (ไม่ทีรอยร้าว รอยแตกใดๆ) ถือว่าเป็นสบความสำเร็จไปอีกก้าวนึง 5555+
หลังจากที่หายไป 3 วัน งานยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่เลย เนื่องจากคนงานที่บ้าน ชอบมีอีเว้น ไปลั่ลล่ากันช่วงวันหยุด แต่ประเด็นหลักคือคนงานเริ่มปวดเมื่อยตามเนื้อตัว (โดยเฉพาะ) เจ้าของกระทู้นี่ตัวดีเลย ปวดเมื่อยกว่าใครเค้าเพื่อนเลย ทำเป็นคนแก่ไปเลย 5555+
หลังจากที่ก่ออิฐและฉาบเสร็จ ก็ได้โครงสร้างน้ำตกคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ
และเพื่อความชัวร์ของมือสมัครเล่น เราเลยลงมติว่า เราควรฉาบอีกรอบนึงเพื่อความสบายใจ 555+
แบ่งกันฉาบกันคนละมุม คุณพ่อกับคุณลูก เพื่อความรวดเร็วก่อนที่ยุงตัวร้ายจะมาเยี่ยม ฉาบรอบ 2 จะเน้นพวก ขอบ , มุม , ชายบ่อ เป็นพิเศษ (ไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือน้ำยากันซึม) แต่พอเสร็จแล้วกะว่าจะทาสีดำข้างในบ่อเป็นสีที่ช่วยเรื่องรั่วซึมของน้ำ
* ไปอ่านเจอในเว็บบอร์ดคนที่เค้าเลี้ยงปลาคาร์ฟ เลยขอเจริญรอยตามพี่เค้าดีกว่า (ถ้าทำขนาดนี้ลูกพี่ยังจะรั่ว) ก็ยอมละคร๊าฟฟฟ
แล้วก็ฉาบเก็บขอบนิดนึง (อี๋!! พี่ชาย นั่งไม่เซฟพุงเลยอ่า 5555)
แล้วก็ได้ฤกษ์ก่อฐานน้ำตกกันคาดว่าอีกไม่เลย 2 วันน่าจะแปะหินกาบได้แล้ว
อีก 1 ขั้นตอนที่เปลืองปูนมากที่สุดคือการกรอกปูนใสช่องว่าง คิดเอาเองว่าจะทำให้แข็งแรงขึ้น และทำให้รองรับน้ำหนักหินกาบดีกว่าเดิม
วัยรุ่นแอบใจร้อน โครงน้ำตกยังเสร็จ แอบแว๊บไปสอยหินกาบมาลองฝีมือเล่น 555+ ไปเสริชเจอร้านในเน็ตขายแถวรังสิตโลละ 3-4 บาท แต่เค้าปิดวันอาทิตย์ ไม่ทันใจวัยรุ่นอีกละ วัยรุ่นเลย
ขับไปซื้อหินที่ร้านลุงสิทธิ์ เห็นแกโพสไว้หลายเว็บ ร้านอยู่แถวเส้นเชื่อมทางระหว่าง มีนบุรี – ลำลูกกา แกขายโล 5 บาท แพงกว่านิดหน่อย ไม่เป็นไร ร้านลุงแกมีหินหลายประเภท ใครสนใจลองเสิร์ชอากู๋เกิลดูได้คะ ลุงแกให้ตะกร้ามาแล้วเชิญตะกายกองหินเลือกตามสบายเลย ถึงเวลาก็เอาชั่งกิโลแล้วจ่ายเงิน
แต่เจ้าของกระทู้ดันไปซื้อช่วงเที่ยง ช่วงที่แสงแดดกำลังไม่มีคำว่าปราณีใครหน้าไหนทั้งสิ้น ตะกายกองหิน ลุกๆ นั่งๆ เงยๆ จะหงายเอาคะ หน้ามืดมาก (ถ้าใครจะไปแนะนำให้ไปช่วงเย็นๆหน่อย น่าจะเลือกสบายกว่าคะ)
วันนี้เจ้าของกระทู้ขอแอบเลือกงานสบาย นั่งแปะหินกาบ แล้วคอยนั่งสั่งการว่าต้องการให้ก่อบล็อกแบบไหน 555+ ชิวดีจริงๆ
ขอลองเริ่มลองฝีมือจากปูขอบก่อน ที่แหว่งๆ หายๆ ไป คือยังหาเนื้อคู่ลงไม่ได้คะ คาดว่าคงต้องตัดหินอ่าคะ
หลังจากแปะหินเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมีน้ำยาเคลือบเงา แวก็กันคราบน้ำ คราบตะไคร่ ทาทับอีก คาดว่าถ้าเสร็จแล้ว หน้าตาน่าจะออกมาดูดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อ่าค่ะ ฮ่าๆๆๆ
หลังจากนี้เราจะเริ่มก่อฐานน้ำตกกันนะคะ
ค่อยๆ ก่อฐานวางหินกาบทีละแถวคะ
และก็หยอดปูนตามรูอิฐบล็อค เผื่ออะไรไม่รู้ (มโน) ส่วนตัวเอาเองว่าถ้าฐานมันตันจะแข็งแรงและกันซึมได้มากกว่า ฐานแบบโปร่งๆ กลวงๆ
ก่อขึ้นไปเรื่อยๆ ตามความสูงที่เราต้องการค่ะ ช่วงการก่อก็ประสบปัญหากับการ ก่อแล้วเบี้ยวบ้าง ประปรายตามประสา แต่เราจะมาแก้เอาช่วงฉาบทับขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะแปะหินกาบ
แปะหินกาบออกมาแล้วเป็นสภาพนี้คะ อีก 1 ปัญหาที่เราพบคือ เราไม่มีความสามารถพอที่จะฉาบทางน้ำที่จะไหลลงให้เรียบตรงกันได้
ผลออกมาก็คือ เวลาลองน้ำไหล น้ำจะไหลไปในทางที่ฉาบต่ำกว่าเท่านั้น (ไม่ทราบว่าอธิบายแล้วเข้าใจหรือเปล่า555) ถ้าไม่เข้าใจ ช้ามไปภาพต่อไปเลยดีกว่าค่ะ
เวลาแปะหินออกมาจะออกมาเป็นแบบนี้คร้า (ภาพค่อนข้างข้ามขั้นตอนไปนิดนึงนะคะ เพราะว่าช่วงหลังมีแต่เจ้าของกระทู้ทำคนเดียว เลยไม่มีใครถ่ายรูปให้
จะถ้ายเองมือก็เละเทะไปหมด )
ในบ่อน้ำที่ทาเป็นสีดำๆ เพราะว่าเจ้าของกระทู้ลองเทสน้ำซึมและมีอาการซึมเล็กน้อย เจ้าของกระทู้เลยฉาบปูทับไปอีก 3 ชั้น และทา ฟริ้นโค๊ดแบบสำหรับบ่อน้ำโดยเฉพาะ ยี่ห้อเชลล์ กระป๋องสีเขียว (พนักงานที่โฮมโปรแนะนำ) ซึ่งต้องบอกว่าขั้นตอนนี้เละเทะเป็นที่สุดในมหกรรมครั้งนี้
เริ่มแรกจะไปซื้อกระป๋องในรูปเพราะไปอ่านเจอในมาในเน็ท ที่เค้ามีปัญหาซึม แต่พนักงานบอกว่า ตัวฟริ้นโค๊ทกระป๋องเขียวมันยืดหยุ่นกว่า
เลยจัดมา 1 กระป๋องก่อน กระป๋องละ 480 บาท แต่ไม่พอ เลยไปจัดมาอีก 2 คือทาทั้งหมด 3 ชั้น แต่ข้างกระป๋องแนะนำแค่ 2 แต่ด้วยความเชี่ยวชาญอันน้อยนิดของเจ้าของกระทู้เลยจีดไปซัก 3 ชั้น เผื่อเหลือ เผื่อขาด
* เวลาทาแรกๆจะไม่ค่อยเหนียวมาก แต่ทาๆไปสักพักจะเหยียวเหมือนยางมะตอย ติดขาติดแขนเละเทะไปหมด เวลาแห้งสีจะเหมือนกับยางเคลือบบ่อไว้อีกชั้นนึง
เพื่อความสวยงามเจ้าของกระทู้เลยไปจ้างช่างมาทำระแนง ซึ่งช่างทำแค่ 2 วันเองคะ ไวมากๆ (ไปเจอช่างทำระแนงทำบ้านในหมู่บ้านเดีบงกัน) เลยขอเบอร์มาค่ะ โปรเจคต่อไป เดี๋ยวจะมีต่อห้องพระเดี๋ยวไว้มาอัพเดทให้ดูอีกทีนะคะ
อีกรูปค่ะ ถ่ายจากด้านหน้าค่ะ
ในรูป หินยังไม่ได้มาเคลือบเงาค่ะ แต่ถ้าทาแล้วจะเงาๆ สวยไปอีกแบบค่ะ ไว้ถ้าเสร็จสมบูรณ์แบบ 100% จะเอามาลงให้ดูอีกทีนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามค่ะ ^^
ปล. ค่าเสียหาบโดยประมาณคร่าวๆแบบเกินๆนะคะ
– ค่าอิฐบล็อค 500 บาท
– ปูนฉาบ + ก่อ สำเร็จรูป 20 ลูก (ตีแบบเกินๆ ซึ่งไม่ถึง20ลูกหลอกค่ะ) 95×20 = 1,900 บาท
– กันซึม 4 แกรอน 120×4 = 480 บาท
– ไม้ไผ่ 120 บาท
– ฟริ้นโค้ต 480×3=1440
– ค่าหินกาบ โลละ 5 บาท แต่ไปซื้อทีละ 80 โล บ้าง 90 โล บ้างเลยจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ตีราคาแบบแพงๆเลยประมาณ 3,000 บาทคะ
– รวมค่าเสียหาย 7440 บาทคะ
ส่วนระแนงเป็นทรงตัวแอลขนาด 4.1×1.7 ม ราคา 15,000 บาท (โครงเหล็ก)
ที่มา : zanymph