เวลาที่ไปซื้อผักที่ตลาด บางครั้งเราก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่ามีสารปนเปื้อนอะไรมากับผักบ้าง
คงไม่ดีแน่หากเราต้องบริโภคผักที่มีแต่สารปนเปื้อน เพราะสารเคมีอาจจะไปสะสมในร่างกาย ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถปลูกผักไว้กินเองที่บ้านเพราะจะได้มั่นใจว่าเป็นผลผลิตที่ปลอดภัย 100% จริงๆ
สำหรับคนรักสุขภาพที่อยากมีผักสดๆ ไว้ทานกันที่บ้าน วันนี้ ในบ้าน ก็มี 7 ผักสลีดที่ปลูกเองได้ที่บ้าน มาฝากชาวเว็บกันครับ โดยผักแต่ละชนิดจะมีวิธีเพาะเมล็ดง่ายๆ พร้อมทั้งวิธีเอาไปปลูกลงบนดินด้วย ตามมาดูกันเลยว่ามีวิธีอย่างไรบ้างครับ
1. ผักกาดคอส (Cos Lettuce)
หนึ่งในผักสลัดยอดนิยมของคนรักสุขภาพ ลักษณะลำต้นเป็นกอ มีทั้งใบเรียวยาวและใบกลมบาง ออกใบเรียงซ้อนสลับกันเป็นช่อ
ปลูกโดยนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาเพาะในกระถางต้นกล้าที่มีดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ผสมปุ๋ย และวัตถุอินทรีต่างๆ โดยฝังเมล็ดลงในดินให้ลึก 1/8 นิ้ว ลำต้นจะงอกขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ จากนั้นก็ทำการย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถางใหญ่ แต่ก่อนย้ายแนะนำให้ลดปริมาณน้ำและอุณหภูมิโดยรอบลงเล็กน้อยเป็นเวลา 3 วันก่อนย้ายลงกระถางใหญ่ เพื่อให้ต้นกล้านั้นสมบูรณ์แข็งแรง
หลังย้ายเสร็จควรตั้งกระถางให้อยู่ในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ดินแห้งจนเกินไป และบำรุงด้วยปุ๋ยไนโตรเจนผสมน้ำให้ผลผลิตงอกงาม หลังจากเพาะเมล็ดแล้วนับไปอีก 70-75 วัน ก็สามารถเก็บมากินได้
2. ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce)
ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด มีลักษณะเป็นหัว ออกใบเรียงซ้อนสลับกัน และมีเนื้อสัมผัสนุ่มนวล
วิธีปลูกเริ่มจากเพาะเมล็ดในกระถางเพาะกล้าให้ต้นเจริญเติบโตแข็งแรงและมีความสูงประมาณ 4 นิ้ว ซึ่งในระหว่างที่เพาะควรตั้งกระถางไว้ในที่ร่ม หลังจากนั้นก็ย้ายมาปลูกในกระถางใบใหญ่ที่มีดินร่วนระบายน้ำได้ดีผสมกับปุ๋ยคอกและใบไม้
ตั้งกระถางให้อยู่ในที่ที่มีแดดส่องถึงหรือมีแดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นแต่อย่าแฉะจนมีน้ำขัง สามารถเก็บเกี่ยวผลิตได้ภายใน 65-80 วัน หลังเพาะเมล็ด
3. ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce) crisphead
แม้ว่าผักกาดแก้วจะเป็นผักสลัดเมืองหนาว แต่ถ้าเราดูแลเป็นอย่างดีก็จะงอกงามได้เหมือนกัน
วิธีปลูกเริ่มจากนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาเพาะลงในถาดเพาะกล้า หลุมละประมาณ 2-3 เมล็ด ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งถาดไว้ในที่ร่ม ต้นอ่อนจะเริ่มเจริญเติบโตขึ้นมาภายใน 5-10 วัน ตัดต้นอ่อนที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป ให้เหลือแต่ต้นที่แข็งแรงที่สุดของแต่ละหลุม แล้วนำมาปลูกในกระถางใบใหญ่ใส่ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เศษใบไม้แห้ง และเศษอินทรีอื่นๆ
ตั้งกระถางอยู่ในที่ร่ม อย่าปล่อยให้ตากแดดมากไป ไม่เช่นนั้นใบจะไหม้เอาได้ ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องไม่แฉะจนเกินไป หมั่นบำรุงด้วยปุ๋ยไนโตรเจนผสมน้ำเพื่อให้ผลผลิตงอกงาม เมื่อผักกาดมีขนาดหัวที่ใหญ่ หนา และใบขึ้นซ้อนแน่นเต็มที่ก็สามารถเก็บกินได้เลย
4. ผักกาดคอรัล (Red Leaf Lettuce)
ผัดกาดเรดคอรัล มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม ใบหยัก และมีสีน้ำตาลอมแดง เนื้อสัมผัสนุ่ม ส่วนวิธีการปลูกจะคล้ายกับการปลูกผักกาดคอส
การเพาะเมล็ดในกระถางหรือถาดเพาะกล้า ที่มีดินร่วนผสมเศษใบไม้และวัตถุอินทรีต่าง ๆ ต้นอ่อนจะเจริญเติบโตสูง 1 นิ้ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ ก่อนย้ายกระถางอย่าลืมลดน้ำและอุณหภูมิโดยรอบเพื่อให้ต้นแข็งแรงซะก่อน แล้วค่อยย้ายมาปลูกในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ใบไม้ หรือเศษอินทรี
ตั้งกระถางเอาไว้ในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำแบบให้ดินชุ่มชื่นและฉีดพ่นน้ำเพื่อลดอุณหภูมิโดยรอบ เลือกใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนปานกลางจะได้ไม่รุนแรงจนเกินไป หลังจากเพาะเมล็ดและนับไปอีก 45-55 วัน ก็ถึงเวลาเก็บผักมากินได้
5. ชิโครรี (Chicory)
ชิโครรี มีลักษณะลำต้นเรียวยาว ออกใบยาว ขอบใบหยับ และมีรสขมเล็กน้อย
ปลูกโดยนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาฝังในกระถางเพาะกล้าใส่ดินร่วนผสมปุ๋ยคอกและวัตถุอินทรีต่าง ๆ ตั้งเอาไว้ในที่แดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่ม รวมทั้งให้ปุ๋ยละลายน้ำทุก 2 สัปดาห์ ต้นอ่อนจะเจริญเติบโตสูงประมาณ 7-11 นิ้ว จากนั้นนำไปปลูกในกระถางใบใหญ่ที่มีดินร่วน ปุ๋ยคอก และอินทรีวัตถุอื่นๆ
ดูแลรดน้ำตามปกติ หลังจากลงเมล็ดปลูกได้สัก 60-70 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
6. เรดิชิโอ (Radicchio)
เรดิชิโอ เป็นผักในตระกูลผักกาด มีลักษณะคล้ายหัวกะหล่ำ ออกใบสีม่วงอมแดง มีเส้นใบสีขาว
วิธีปลูกให้นำเมล็ดมาเพาะต้นอ่อนในกระถางเพาะ ที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยและวัตถุอินทรีต่างๆ อย่าฝังเมล็ดให้ลึกจนเจอไป รดน้ำให้หน้าดินชุ่มชื่นอยู่เสมอ เมื่อต้นอ่อนงอกขึ้นมา 1 นิ้ว ให้ตัดต้นอ่อนที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป ให้เหลือแต่ต้นที่แข็งแรงที่สุดไว้ แล้วย้ายลงมาปลูกในกระถางใหญ่ที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยและวัตถุอินทรีเหมือนเดิม
ตั้งกระถางในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำอย่าปล่อยให้ดินแห้ง ให้ดินมีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ หลังจากเพาะเมล็ดเรียบร้อยแล้ว ก็นับไปอีก 80-90 วัน จึงจะเก็บกินได
7. เรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค (Red Oak, Green Oak)
เรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค เป็นผักสลัดยอดนิยมอีกหนึ่งชนิด ที่มีทั้งใบสีแดงและใบสีเขียว ออกใบซ้อนกัน ขอบใบหยัก ลำต้นอวบสั้น และเนื้อสัมผัสนุ่ม
สามารถเจริญเติบโตในดินที่มีค่าความเป็นกรดอยู่ที่ 6.0-6.5 หากจะปลูกให้นำเมล็ดที่สมบูรณ์มาปลูกลงในกระถางธรรมดา หรือจะแยกปลูกในกระถางเพาะกล้าก่อนก็ได้ ฝังเมล็ดลงในดินร่วนที่ผสมปุ๋ยและอินทรีย์ต่างๆ ให้ลึกประมาณ 4 นิ้ว กลบดินทับบางๆ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ ตั้งในที่แดดรำไร เมื่อต้นอ่อนงอกสูง 1-2 นิ้ว
ถ้าเลือกวิธีเพาะต้นกล้าก็สามารถย้ายมาปลูกในกระถางใหญ่ในตอนนี้ได้เลย แล้วตั้งกระถางให้ในที่ที่มีแดดส่องถึง หมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มชื่น และให้สารอาหารแก่พืชด้วยปุ๋ยละลายน้ำ ผักสลัดชนิดนี้เจริญเติบโตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากเพาะเมล็ด ภายใน 10-14 วัน
ที่มา : Kapook