ในปัจจุบัน เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็ว ทำให้การทำงานในยุคปัจจุบันจึงเน้นไปทางด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้ผู้ทำงานสามารถทำงานได้จากมุมไหนก็ได้บนโลกใบนี้ก็ได้ ขอแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงเกิดกระแสอาชีพ “ฟรีแลนซ์” ที่เป็นการทำงานแบบอิสระ ไม่มีห้องทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่อย่างไรก็ตามเหล่าฟรีแลนเซอร์จำนวนมาก ก็มักอาศัยบ้านของตัวเองเป็นพื้นที่ในการทำงานเป็นหลัก
วันนี้ ในบ้าน จึงมาเอาใจเหล่าฟรีแลนเซอร์ ที่อาศัยบ้านเป็นโฮมออฟฟิศด้วย 6 แนวทางการออกแบบพื้นที่ทำงาน เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบ ตกแต่ง และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในบ้านให้เหมาะสม สวยงาม และมีประสิทธภาพที่สุด เพื่อการทำอย่างสะดวกและราบรื่น
1. แสงธรรมชาติ
จากการศึกษาพบว่าแสงธรรมชาติมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงาน การทำงานในสภาพแสงที่สลัว หรือทำงานภายใต้แสงนีออนมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น การออกแบบพื้นที่ทำงานควรอยู่ใกล้กับหน้าต่าง แต่ควรติดผ้าม่าน จัดเก้าอี้แบบนั่งหันหลังให้หน้าต่าง หรือวัสดุช่วยกรองแสง เพราะแสงแดดที่จ้าเกินไปก็ไม่เป็นผลดีเช่นเดียวกัน
.
2. พื้นที่ใต้บันได
หากบ้านของคุณเป็นบ้านที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ลองหันไปใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างใต้บันไดดู ด้วยลักษณะพื้นที่ติดกำแพง จึงสามารถใช้ประโยชน์ด้วยการติดตั้งโต๊ะ หรือชั้นติดผนังได้อย่างพอดี ซึ่งโดยปกติแล้ว พื้นที่ใต้บันไดก็มีพื้นที่เพียงพอสำหรับโต๊ะทำงานขนาด 1-2 คน
.
3. ชั้นลอย หรือพื้นที่ยกสูง
บ้านที่ออกแบบด้วยรูปทรงของตัวบ้านและเพดานยกสูง หรือบ้านสไตล์ลอฟท์ มักจะมีพื้นที่ชั้นลอยที่มีขนาดพอดีสำหรับการออกแบบและตกแต่งให้เป็นพื้นที่ทำงานได้อย่างลงตัว แต่อาจจะต้องติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติม เพราะในช่วงกลางวันอุณหภูมิของบ้านเพดานยกสูงอาจจะสูงขึ้นจนรบกวนสมาธิการทำงาน
.
4. ติดตั้งฉากกั้น ผ้าม่าน หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง
ข้อเสียหนึ่งของการทำงานที่บ้าน คือ มักจะถูกรบกวนได้ง่ายจากสมาชิกภายในบ้าน เช่น เด็กๆ หรือแม้แต่จากเพื่อนบ้าน รวมถึงเสียงรบกวนอื่นๆ ดังนั้น การติดตั้งฉากกั้น ผ้าม่าน หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อแบ่งพื้นที่ทำงานให้เป็นสัดส่วน และป้องกันการรบกวนจากภายนอก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การทำงาน
.
5. เพิ่มความสนุก เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
การทำงานภายในบ้าน ในบรรยากาศเดิมๆ อาจจะทำให้ความคิดเราถึงทางตันได้ไม่ยาก ดังนั้น เพื่อกระตุ้นไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ จึงอาจจะต้องเพิ่มความสนุกสนานให้พื้นที่ทำงาน โดย ถ้าหากเป็นบ้านที่มีเพดานยกสูง อาจจะลองหาเปลญวนมาติดตั้งเพื่อเป็นมุมพักผ่อน หรือใครที่ชอบดนตรี อาจจะลองหาเครื่องดนตรีมาติดตั้งเพื่อสร้างความผ่อนคลายและสุนทรียภาพให้แก่การทำงาน
.
6. ทำงานบนพื้นมันนี่แหละ!
ถ้าหาก 5 แนวทางที่ผ่านมาใช้ไม่ได้ผล การทำงานมันบนพื้นง่ายๆ นี่แหละ อาจจะเป็นทางออก เพราะสามารถทำงานได้อย่างสบาย รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ อย่างไรก็ตามอย่าปล่อยให้ตัวเอง “สบายจนเกินไป” ควรหาสิ่งกระตุ้นในการทำงานอยู่ด้วยเสมอ รวมถึงการจัดแสงไฟภายในห้องให้เหมาะสม
.
ที่มา: livingasean .