บ้านหลังเล็กๆ กลางทุ่งนา ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนร่มรื่นของสายลมและแสงแดด ในบ้าน เชื่อว่าจะต้องเป็นความฝันของชาวเว็บหลายๆ คนอย่างแน่นอน คงจะดีไม่น้อยหากเราได้มีชีวิตอยู่ในบ้านที่ให้ความผ่อนคลายกับเรา แถมยังมีวิวสวยๆ ไว้คอยชมให้สบายใจอีกต่างหาก
สำหรับคราวนี้ จะพาไปชมรีวิวบ้านของคุณ อริยะ สมาชิกเว็บไซต์ Pantip.com ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างกลางธรรมชาติของวิวทุ่งนาและป่าเขาและตั้งชื่อให้ว่า “Treehome” โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมดราว 400,000 บาทเท่านั้น เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ในงบประมาณเท่านี้ จะได้ออกมาเป็นบ้านที่น่าอยู่แค่ไหนกันนะ
Review : สร้างบ้านสีขาวหลังเล็กกลางธรรมชาติ ในงบประมาณราว 400,000 บาท
(โดย อริยะ)
บ้านหลังนี้สร้างที่บ้านเกิดจังหวัดลำปาง ใช้เงินไปประมาณ 3 แสนบาทในการก่อสร้างทั้งหมด รวมงานรั้ว และงานสวน และใช้เงินตกแต่งกับงานแอร์ ม่าน ปั๊มน้ำ ก็เพิ่มไปอีก 1 แสนบาท แต่ได้บ้านหลังกะทัดรัดมาหลังนึงกับวัสดุที่ผมเองดันมีวิญญาณนักออกแบบเข้าสิงเลยเลือกของราคากลางๆไม่ถูกแต่ไม่แพงมากมาสร้าง พร้อมกับข้อจำกัดในหลายๆเรื่องทั้งจากงบประมาณที่มี วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยจะมีแบบที่ถูกใจเท่าไหร่
ที่มาของบ้านต้นไม้ (Treehome) นั้นมาจากตอนแรกผมชอบที่ๆนึงใกล้ๆบ้านยาย ซึ่งมีต้นไม้คุลมเต็มพื้นที่เลยอยากจะสร้างบ้านที่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้น แต่เจ้าของที่ดันไม่ขาย(ถ้าขายคงเกินงบไปอีก) เลยกลับมาสร้างในที่บ้านพี่สาวดีกว่า ประหยัดค่าที่ด้วย แต่ก็เอาพื้นที่พอสร้างบ้านหลังเล็กๆได้ก็พอ
จากรูปจะเห็นเถียงนาอยู่ไกลๆ นั้นละครับที่ซึ่งผมหมายตาไว้งบตั้งต้นไม่เกิน 2 แสนบาท
บ้านเวอร์ชั่นแรกๆ ขนาดใหญ่มาก ราคาเกินงบไปพอสมควร คือผู้รับเหมาตีราคามาเกือบ 3 แสน แต่ผมรู้ว่าราคายังขาดรายละเอียดอีกเยอะเลย ถ้ารวมทั้งหมด น่าจะทะลุ 4-5 แสนแน่ๆ เลยปรับแบบบ้านให้ขนาดเล็กลงอีก 2 เวอร์ชั่น แต่ก็ยังเกินงบ 2 แสนอยุ่ดี สุดท้ายคิดการจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านให้เล็กที่สุด ด้วยความที่ผมเคยอยู่แต่ห้องเล็กๆ หยิบจับอะไรใกล้ตัว ห้องที่ space ไม่ต้องใหญ่นัก ผมเลยชอบบ้านที่ใช้พื้นที่เล็กๆแต่ลงตัวมากๆ
เลยมาสรูปที่แบบบ้านขนาด 3.50×7.00 เมตร บ้านทั้งหลังของผมขนาดเล็กกว่าคอนโดใครหลายๆคน บางทีอาจจะเล็กกว่าห้องนอนบ้านบางหลังด้วยซ้ำ หะหะ อาศัยว่าเรียนมาก็ตัดสิ่งไม่จำเป็นออก คือครัวกับเตาแก๊ส ผมไม่เอาเลย เพราะผมทำกับข้าวจริงจังไม่เป็นและพี่สาวผมทำกับข้าวเหนือได้ลำแต๊ๆ(อร่อยจริงๆ) เลยไม่จำเป็นต้องมีเตา เอาแค่ sink ล้างจานเล็กๆก็พอแล้ว
พื้นที่ส่วนกลางนั้นก็ต้องการพื้นที่ทำงาน ดูทีวี ทานอาหาร และอีกส่วนนึงคือพื้นที่นอนพักผ่อนเล็กๆ(เล็กจริงๆ) เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับการอยุ่คนเดียว ถ้าอนาคตจะมีศรีภรรยาก็อบอุ่นดี เพราะอยู่ตรงไหนในบ้านก็มองเห็นกันตลอด คงไม่เหงาแน่ๆเลย ^^ เกริ่นซะยาวเลย มาดูการสร้างบ้านหลังนี้กันดีกว่าครับ
ผมเรียนทางด้านสถาปัตยกรรมภายใน มาก็จริงแต่ก็ออกแบบบ้านไม่เก่งนัก อาศัยรูปทรงไม่ยากมาก เน้นการใช้พื้นที่ภายในบ้านมากกว่าตัวบ้านเลยออกมาเป็นทรงกล่องๆ ให้ความรู้สึก modern หน่อย
หลังคาตอนแรกก็อยากได้เป็น slab (หลังคาแบบเป็นดาดฟ้า) แต่กลัวเรื่องรั่วซึมในระยะยาวและการแก้ปัญหาคงยากน่าดู หลังแรกขอแบบไม่เสี่ยงแล้วกันหลังคาเลยเป็นแบบเพิงหมาแหงนแทน
อยากได้กระจกรอบบ้านก็จะรับแดดมาเพิ่มความร้อนอีก เลยเอาช่องกระจกให้มากที่สุดในด้านตะวันออกแล้วกันแดดตอนเช้าไม่ร้อนเท่าแดดตอนบ่าย เพราะขนาดของพื้นที่ไม่เอื้อให้วางตามแนวแกนตะวันออก-ตะวันตกเท่าไหร่ เลยวางตามแนวแกน เหนือ-ใต้ แทน ซึ่งก็โอเคครับไม่ร้อนในตอนเข้า แต่แดดแรงเหมือนกันดีว่าม่านกรองได้ ตอนบ่ายแดดร่มสบาย นั่งเล่นหน้าบ้านได้ชิลๆเลย
การสร้างบ้านนั้น ขั้นตอนแรกต้องดูสภาพที่ดินก่อนครับ ทิศทาง แดด ลม เพื่อจัดวางพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ต่อมาก็จัดวางพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต และการใช้งาน ถึงตรงนี้ก็จะได้แปลนบ้านออกมาแล้ว
สำหรับท่านทั่วๆไปควรจะมีแบบรูปด้าน รูปตัดของบ้านด้วยครับ รวมถึงรายละเอียดประกอบแบบเพื่อใช้ก่อสร้างครับ และความโชคดีว่าสร้างนอกเขตเศบาลเลยไม่ต้องยื่นขออนุญาตให้ยุ่งยากนัก เลยเน้นแบบลูกทุ่งเลยมี 3d อยู่แผ่นนึงและแปลนอีกแผ่นนึงผมก็จัดหนักเลยครับ อาศัยว่าคุมงานเอง แต่เอาเข้าจริงก็ต้องกลับมาเคลียงานที่กรุงเทพบ่อยๆเลยขาดตอนไปบ้าง ช่างก็ทำผิดไปบ้าง หยวนๆไปทำไงได้ต้องหาเงินมาทำบ้านด้วย
ให้ช่างแถวบ้านตีราคาค่าแรงมารวมทั้งหมดปาเข้าไป 8 หมื่นบาท ลมแทบจับ จะสร้างบ้านสองแสน ค่าแรงกินไป 40% งานนี้มีเหนื่อยแน่ๆ แววว่าจะเกินงบลอยมาแต่ไกล แต่ผมก็ไม่อยากจ้างช่างที่อื่นเพราะอยากให้เงินหมุนวียนในหมู่บ้านเกิด เลยต่อรองได้นิดนึงและรวมงานรั้วเพิ่มไป
ซึ่งค่าแรงจะแบ่งคร่าวๆเป็น ค่าแรงงานโครงสร้าง งานหลังคา งานก่อฉาบ งานปูกระเบื้อง งานระบบไฟฟ้า งานสุขาภิบาล งานฝ้าเพดาน และงานรั้ว ผมคิดว่าในส่วนค่าแรงนี้ถ้าเพิ่มขนาดบ้านให้ยาวอีกช่วงเสานึงก็ไม่น่าจะแพงขึ้นเท่าไหร่
ช่างที่สร้างบ้านที่เป็นช่างฝีมือทางเหนือจะเรียก “สล่า” 2 คน และลูกมืออีก 2 คน รวมเป็น 4 คนนอกจากนี้จะเป็นช่างรับเหมาช่วง มีงานไฟฟ้า และงานฝ้าเพดาน งานอลูมิเนียม
ขั้นตอนแรก เริ่มลงมือสร้างเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553 ก็วัดระยะเพื่อหาตำแน่งเสาที่ลงกับขนาดของที่ดิน และทำพิธีลงเสาเอก
เนื่องด้วยดินทางบ้านผมเป็นดินแข็งเลยไม่ต้องลงเสาเข็มลึกๆ แค่ทำฐานรากลึกลงไปเมตรนึงก็พอ(อันนี้ดูจากบ้านพี่สาวสร้างก่อน 10 ปีแล้ววิธีเดียวกันไม่มีปัญหาทรุดร้าว เลยคิดว่าน่าจะชัวร์) และแบบบ้านจะเป็นการยกพื้นมาเมตรนึงเลยต้องผูกเหล็ก-เทคานให้ได้ระดับที่จะยกพื้นด้วย
จากนั้นก็เทเสาตัวบ้านต่อไป ดีว่าเสาบ้านใช้เหล็กแบบ ไม่งั้นอาจจะขนาดไม่เท่ากันได้ เมื่อได้คานแล้วจึงเทพื้นต่อไป โดยให้ระดับห้องน้ำต่ำกว่าพื้นห้องทั่วไป และอย่าลืมวางตำแหน่งท่อส้วม ท่อน้ำดี และท่อน้ำทิ้ง ขั้นตอนที่สอง สั่งเหล็กเพื่อมาทำโครงหลังคา สั่งกระเบื้องใช้ลอนคู่สีหมากสุก(สีเทาก็สวย แต่กลัวจะจืด) สั่งอิฐมอญเพื่อใช้ก่อผนัง งานไฟเข้ามาก่อนงานก่อ เพราะต้องสรุปอุปกรณ์เนื่องจากต้องวางท่อร้อยสายไฟระหว่างงานก่อไปพร้อมกัน ซึ่งช่วงนี้ช่างจะขึ้นโครงหลังคาและเริ่มมุงกระเบื้อง
นอกเรื่องนิดนึง เนื่องจากสถานที่สร้างบ้านอยู่นอกตัวเมืองไปราว 30 กม.ดังนั้นจึงสั่งซื้อกับร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่อยู่ห่างไปราว 20 กม.ซึ่งมีบริการส่งของด้วย แต่ข้อจำกัดคือไม่ค่อยมีให้เลือกเหมือนที่กรุงเทพมากนัก เลยหยวนๆไปอีกครั้งตามระเบียบ
ขั้นตอนที่สาม หลังจากมุงหลังคาเสร็จแล้ว ช่างก็เริ่มงานก่อฉาบต่อซึ่งก็ทำให้เห็น space ภายในบ้านกันบ้างแล้ว ช่างไฟก็จะมาเจาะผนังเพื่อวางบลอคไฟและท่อสายไฟ
แต่ยังไม่ร้อยสายไฟ จากนั้นก็วางเสาเพื่อรับระเบียงหน้าบ้านและห้องนอนต่อไป สั่งไม้จริงเพื่อปูระเบียงทั้งสองส่วนด้วย ระหว่างนี้ก็สั่งช่างอลูมิเนียมให้มาวัดขนาดหน้าต่างและประตู พร้อมเลือกวัสดุ โดยตกลงเอาเป็นอลูมิเนียมอบขาว(ลังเลระหว่างสีดำกับอบขาว) ราคาจะกลางๆระหว่างสีอลูมิเนียมทั่วไปกับสีดำ ตกลงราคากันที่สามหมื่นปลายๆ(บานสวิงจะแพงกว่าบานเลื่อน)
ภาพตัวบ้านภายนอกครับ เห็นถึงบรรยากาศช่วงหนาวๆของทางเหนือบ้างไหมครับ ขั้นตอนที่สี่ งานฉาบจนแล้วเสร็จ พร้อมขัดมันบางผนัง งานระเบียงและขั้นบันไดทางเข้า ก่อบ่อปลา ขุดหลุมทำบ่อเกรอะ-บ่อซึม(ใช้อิฐก่อ ไม่ได้ใช้ถังแซก) ติดไม้ปิดนก เดินงานระบบสุขาภิบาลบางส่วน
ระหว่างนี้ก็ไปสั่งกระเบื้องปูพื้นบ้านและห้องน้ำ โดยตัวพื้นบ้านใช้แกรนิตโตนาโน เนื่องจากเคยมีน้ำท่วมใหญ่เมื่อหลายปีก่อนเลยเอาแบบกันเหนียวดีกว่า(ใจนึงก็อยากได้ไม้ลามิเนต) ค่าแกรนิตโตตก ตรม.ละ 400 กว่าบาท ส่วนกระเบื้องห้องน้ำใช้แบบ ตรม.ละ 100 กว่าบาทแต่เล่นสลับสีขาวและดำ(กระเบื้องควรจะเป็นแบบไม่ลื่น)
มีผนังกระจกเงาที่ใช้เป็นกระเบื้องโมเสกแก้วไล่สีแผ่นละเกือบ 300 บาทแต่ดีว่าใช้แค่ 6 แผ่น สรุปค่ากระเบื้องทั้งหมดตกอยู่เกือบ 14000- ส่วนชักโครกใช้ของ cotto อันละ 7000 กว่าบาท rain showert 7000 อ่างล้างหน้า+ก๊อกน้ำ สะดือ 6000 ลมแทบจับ
ขั้นตอนที่ห้า ทาสีรองพื้นและสีจริง 1 เที่ยว เป็นสีขาวควันบุหรี่ ภายในบ้านเป็นสีเทาดำ ส่วนผนังขัดมันผมใช้น้ำยาเคลือบแบบด้าน(ชอบส่วนตัว) ส่วนภายในบ้านก็ทำฝ้าเพดานโดยมีการเล่นระดับนิดนึงไม่ให้ดูเรียบไป ในห้องน้ำก็ใช้แบบกันชื้นพร้อมทำช่องเซอวิซ ฝ่าภายในบ้านปูด้วยฉนวนกันความร้อน ส่วนภายนอกบ้านใช้สมาร์ทบอร์ด
ส่วนช่างก่อสร้างระหว่างนี้ก็ไปทำรั้วภายนอกบ้าน โดยของเดิมผนังทำ texture ไว้จัดการแซะแล้วทำขัดมันซะ
สังเกตรั้วของเดิมจะเป็นรั้วเหล็กสีฟ้า น่าจะไม่เข้ากับบ้านจัดการเปลี่ยนให้ดู modern ขึ้นโดยการใช้ไม้มาทำรั้วแทน แต่มีข่าวดีว่าช่างเคยไปรื้อบ้านเก่าเหลือเศษบันไดที่ทำจากไม้สักมาหลายอัน เลยลองไปดูแล้วพบว่า สามารถนำมาตัดครึงและซอยแบ่งครึ่งอีกรอบจากไม้บันได 24 แผ่นก็ซอยได้เป็น 70 กว่าแผ่นเพียงพอต่อรั้วด้านหน้าบ้านทั้งหมด
ในราคาค่าไม้ 1000- กับค่าสีย้อมไม้อีกพันกว่าบาท อิอิ ผนังช่องนึงทุบออกเพื่อทำรั้วเข้าบ้านต่างหาก เผื่อไว้ในอนาคตจะแยกรั้วบ้าน โดยซื้อเหล็กมาเชื่อมวางสลับลายตามแบบทาสีน้ำมันสีดำใช้งบประมาณ 2000 บาท รั้วเราก็สวยอย่างที่เห็น
ตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่หก ก่อผนังกั้นส่วนในห้องน้ำและปูกระเบื้องในห้องน้ำ รวมถึงพื้นแกรนิตโตด้านนอกด้วย จากนั้นก็ทาสีฝ้าเพดานพร้อมกับติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลท์ เดินสายไฟและติดตั้ง ปลั๊กไฟ สวิตซ์ ระหว่างนี้ช่างอลูมิเนียมเข้ามาติดตั้งหน้าต่างบางส่วนแล้ว
ขั้นตอนสุดท้าย เป็นขั้นตอนเก็บงานทั้งหมด ก็คือทาสีภายนอกบ้านอีก 2 รอบสีที่ใช้ก็เป็นแบบเช็ดล้างได้กึ่งเงา
ทาสีปิดนกด้วยสีเทาดำ ติดตั้งบานประตูห้องน้ำโดยเลือกเป็นบานประตูpvc ทนน้ำสบายไม่ผุ ส่วนประตูระเบียงห้องนอนเลือกบานลูกฟักเล็ก จะได้มีสีไม้ไว้ตัดกับผนังปูนขัดมัน สวยนักแล
ติดตั้งงานสุขภัณฑ์ในห้องน้ำและแพนทรี่ พร้อมกับเทสระบบน้ำและการรั่วซึม ด้านนอกสวนก็มาลงตามนัดกับค่าสวนอีก 7000 บาทบ้านเราก็มีสวนเขียวๆมาตัดกับบ้านสีขาวสะอาดตาแล้ว
มุมสวยๆ หน้าบ้านยามเช้าๆ
มาชมสภาพบ้านเมื่อแล้วเสร็จกันครับ ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 เดือนกว่าๆครับ มุมแรกที่เราจะสัมผัสกับตัวบ้านครับ
รั้วกับประตูทางเข้าบ้านครับ
บันไดทางขึ้นบ้านครับ
ชานพักหน้าบ้านครับ ตอนเข้าๆมานั่งทานกาแฟ นั่งเล่นชมวิวทุ่งนาหรือทานอาหารเช้าก็ไม่เลวเลยครับ แต่ถ้าสายๆหน่อยก็จะร้อน นั่งไม่ได้ครับ นั่งได้อีกทีก็ช่วงบ่ายไปครับจะร่มมากๆ
สภาพภายในบ้านครับ สังเกตหลังช่องกระจกคือห้องนอนครับ มีมู่ลี่สำหรับเผื่อต้องการความเป็นส่วนตัวครับ และห้องนอนจะไม่มีประตูครับ เพราะอยากให้บ้านดูโล่งต่อเนื่องกันไป แต่ใช้ม่านยาวที่พับได้ สำหรับกั้นส่วนครับ
อีกมุมนึงครับ
สภาพ มุมทำงานครับ
โต๊ะทำงานเอามาจากโต๊ะทานอาหารสีขาวครับ ขนาดใหญ่กำลังลงตัวกับพื้นที่ มีลิ้นชักเหล็กสีขาว กับเก้าอี้ทำงานสีขาวเบาะดำสวยๆครับ ชอบมากๆ
ส่วนนอน
เนื่องจากแถวบ้านหาช่างบิ้วอินยากแน่ๆแถมงบยังจำกัด เลยพยายามใช้งานปูนมาเป็ชั้นวางของด้านบน ส่วนด้านล่างก็เป็นที่วางหนังสือครับ เสียแต่ว่าช่างทำชั้นปูนหนามากไปหน่อย เลยเสียพื้นที่ไปพอสมควร
อีกด้านนึงครับ
เตียงนอนผมใช้วิธีเทปูนเป็นฐานเตียงแล้วเอาฟูกวางครับ อนาคตจะเปลี่ยนเป็ฯฟูก 5′ ส่วนปลายเตียงนั้นเว้นเป็นช่องสำหรับซ่อนไฟหรือเป็นที่วางของก็ได้ครับ มุมนี้สามารถมองเห็นวิวทุ่งนาและต้นไม้จากในห้องนอนได้เลยครับ เพราะทำกระจกบานใหญ่ หรือจะออกไปนั่งชมสวนที่ระเบียงก็ได้ครับ ชิลที่สุด มุมดูทีวีครับ
โซฟาจะเป็นสองชิ้นครับ เนื่องจากระยะช่วงนี้จะเหลือเพียง 1.80 ม.ครับหาโซฟาลงยากมากๆผมเลยเอาโซฟาเซตเข้ามุมที่แยกชิ้นของอินดกซ์มาใช้ แต่เลือกตัวที่เป็นเดย์เบดกับที่นั่งพอครับ ลงระยะเสาพอดีไม่งั้นเลยประตูทางเข้าแน่ๆ ส่วนโต๊ะกลางขนาดใหญ่ไปหน่อย แต่ราคา 2900 กับ design นี้ก็จำเป็นละครับ เพราะอีกตัวที่เล็กกว่าสวยๆของ SB ราคาเกือบ 6000-
เกินงบไปหน่อย ส่วนชั้นวางทีวีก็เอาตู้ลอยครัวมาดัดแปลงเพราะราคาแค่ 3000- หน้าบานไฮกลอสด้วย แต่คงไว้ชั่วคราวครับ ทีวีชอบ Sony มากกก เครื่องนี้ได้มา 10000 ถ้วนๆครับ แต่มีริ้วรอยบ้างเพราะเป็นตัวโชว์ T T
ส่วนไฟผนังไปเจอมาแล้วชอบแต่ไม่ได้เดินสายเผื่อไว้เลยต้องเจาะผนังเลย ไม่ได้คิดเผื่อไว้เลยเป็นเช่นนี้แล
มาต่อด้วยระเบียงห้องนอนกับสวนเล็กๆในงบ 7000- เพื่อให้บ้านมีสีเขียวที่ตัดกับสีขาวของตัวบ้านครับ
หน้าบ้านได้ที่จอดจักรยานจากเหตุบังเอิญจริงๆครับ หะหะ แต่ลมพัดล้มไปทีเลยไม่เวิคนะครับวิธีนี้ บรรยากาศแบบนี้ปั่นจักรยานชมวิวทุ่งนา ได้อารมณ์มากครับ โดยเฉพาะหน้าหนาว
เกือบลืมห้องน้ำซะแล้วเรา บรรยากาศแบบมีแสงไฟตอนเย็นๆครับ เสียแต่แคบจนหามุมถ่ายไม่ได้เลยครับ
แถมรูปบรรยากาศสลัวๆ ใกล้ค่ำกันสักหน่อยครับ สรุปงบประมาณคร่าวๆกันอีกทีนะครับ เผื่อเป็นแนวทางให้ใครอีกหลายๆคนที่อยากจะสร้างบ้านหลังเล็กๆสักหลังนึง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ก่อสร้างและลักษณะงาน วัสดุอุปกรณ์ และเรทค่าแรง ตามแต่ละท้องที่ด้วยครับ)
ค่าแรง 80000.-
ค่างานโครงสร้างหลักและโครงหลังคา 50000.-
ค่างานก่อฉาบตัวบ้าน 20000.-
ค่างานฝ้าเพดาน+ฉนวน 22000.-
ค่างานอลูมิเนียมอบขาว 38000.-
งานระบบไฟฟ้าและดวงโคม 15000+7000
งานระบบสุขาภิบาล 9000.-
กระเบื้องปูพื้นและกระเบื้องห้องน้ำ 14000.-
สุขภัณฑ์และ sink ล้างจานพร้อมอุปกรณ์ 25000.-
สีทาภายนอก-ภายใน 7000.-
งานรั้ว 4000.-
จากนั้นก็เป็นปั๊มน้ำ 150 watt และถังสำรอง 700 ลิตร พร้อมค่าบริการติดตั้ง 16000.-
แอร์+ตู้เย็น 22500.- ม่านพับและมู่ลี่ทั้งหลัง 16000-
เฟอร์นิเจอร์ผสมผสานจาก 2-3 แบรนด์เอาให้ราคาอยู่ในงบ หมดไปประมาณ 55000.-
– อาจจะมีตกหล่นไปบางรายการครับ และตัวเลขเป็นการประมาณคร่าวๆครับ และหากใครชอบบ้านแนวนี้แนะนำให้ขยายเป็น 4.00×8.00 ม.ครับ เพราะระยะจะลงตัวขึ้นครับ
ปล. ผมมาทำรีวิวให้แล้วนะครับ สำหรับคนที่บอกรออยุ่ ^^ ลาไปพักผ่อนก่อนนะครับ
ส่งแขกกันด้วยภาพบรรยากาศ บ้านชนบทสุดๆ
ที่มา : อริยะ