Review : รีโนเวทบ้านเก่าอายุ 30 ปี ให้สวยใหม่ในโทนสีเหลืองแสนสดใส

บ้านเก่าๆ ที่มีอายุมายาวนานหลายสิบปี บางทีอาจจจะถึงคราวแล้วก็ได้ที่เราจะทำการปรับปรุงรีโนเวทใหม่ เพราะฟังก์ชั่นการใช้งานข้างบ้านเดิมๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสักเท่าไหร่ จึงต้องเปลี่ยนให้ทันสมัยและครอบคลุมใช้งานได้สำหรับทุกคนในบ้าน

วันนี้ ในบ้าน ก็จะพาชาวเว็บไปชม รีวิว รีโนเวทบ้านเก่าอายุ 30 ปี ให้สวยใหม่ในโทนสีเหลืองแสนสดใส จากคุณ dibdee กันครับ เปลี่ยนจากบ้านสภาพทรุดโทรม ให้สวยใหม่ทันสมัย น่าอยู่ขึ้นมากเลยทีเดียว ลองมาชมกันครับ

(รีวิวโดย dibdee)

ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ แอบซุ่มดูเงียบๆในห้อง…ชายคา มานาน

ได้ทั้งความรู้ ความเห็น ไอเดียดีๆมากมาย เพื่อปรับปรุงบ้านแฝด 22 ตารางวา อายุกว่า 30 ปี ละแวกอุดมสุข ในที่สุดก็ สำเร็จความอยากแล้วครับ

สภาพบ้านก่อนทำครับ

อันนี้หน้าบ้านหลังทำเสร็จหมาดๆ เลยครับ

แต่ตอนนี้กำลังแต่งเพิ่มอยู่

มุมนั่งเล่นหน้าบ้าน

แฟนเรียกแท่น…ชมจันทร์ เพื่อนเรียกแท่น…กินเหล้า

ตัดอารมณ์กลับมาที่ สภาพบ้านดั้งเดิมกันก่อนนะครับ

เรื่องหลักที่บ้านนี้ต้องสังคายานา คือ น้ำซึมจากพื้นทั่วบ้านครับ ยามฝนตก นรกจะมาเยือน ต้องตื่นมาวิดน้ำกลางดึก

ในบ้าน

ซึมครับ ซึมทั้งบ้าน

โดยเฉพาะใต้บันได

อันนี้ครัวไทยสู่ครัวโรค

ปัญหาอย่างอื่นก็มี ปลวกรับประทาน

สีร่อนกระจายรอบบ้าน บันไดตอนขึ้นบ้านนี่ต้องใช้วิชาตัวเบากันทีเดียว ฝนตกหนักๆนี่ น้ำทะลักออกมาจากใต้บันไดเหมือนน้ำตกวังตะไคร้

สวิทซ์นี้ กฟผ มาขอเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว

บนบ้านเป็นพื้นไม้ทั้งหมด

หลังจากเสาะหา ผู้รับเหมาและช่างในฝันมาหลายเจ้า

ทั้งดีมั่งไม่ดีมั่ง จนเกือบจะล้มความตั้งใจสุดท้ายก็ได้มาครับ และแล้วก็ถึงวาระของการรื้อและโละ ครับ

ที่เห็นฝอยๆ ภาพบนคือ รังนกมากมาย

ภาพนี้ มอดรับประทานตงไป 3 แท่ง

และก็ถึงที่มาของน้ำตกวังตะไคร้ ใต้บันได โอ้ววว!!! แม่จ้าว

มันคือบ่อน้ำ ต้นฉบับ the ring แต่ไม่มีซาดาโกะนะครับ

เสาบันไดลอยอยู่แบบนี้มากี่ปีแล้วน๊า

ตอนแรกตั้งใจว่าจะทุบทำใหม่ทั้งหลัง แต่ติดที่บ้านแฝดมันใช้คานเดียวกัน 2 บ้าน เลยทำไม่ได้

เลยตัดสินใจเปลี่ยนแปลงฟังก์ชั่นบ้านใหม่ทั้งหมด โดยยังคงโครงสร้างหลักไว้ และทำกันซึมใต้พื้นบ้าน แทนที่จะถมพื้นบ้านเพิ่มเพราะไม่อยากเพิ่มน้ำหนักโครงสร้างอีก และเพดานก็ต่ำอยู่แล้ว

ทักทายด้วยลิงเจ้าของบ้าน 3 ตัว

ตัวจริงทั้ง 3 นี้ ออกไปทางหมูมากกว่านะ

อันนี้ป้ายชื่อบ้านครับ

เมื่อบ้านกลายเป็นกะละมัง

ทำไมถึงเป็นกะละมัง มันคือ การทำกันซึม โดยการปูแผ่น PVC โดยรอบพื้นบ้านและมีขอบสูงขึ้น มาที่ ผนัง 80 ซ.ม. และกั้นผนังอีกชั้นขึ้นมา เลยดูเหมือนกะลังมัง หลังจากรื้อและสกัดพื้นเก่าที่เทเพิ่มออกและเทปรับให้เรียบเสมอกันแล้วก็ปูแผ่น PVC

จากนั้นก็วางเหล็ก

เทพื้น

พื้นเปียกๆ มาแล้ว

เริ่มขึ้นขอบกะละมัง

กั้นผนังเพิ่ม

เพื่อแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานในบ้านใหม่

ขอบด้านขวาของบ้าน

ตอนแรกที่ผู้รับเหมาเสนอไอเดียนี้…

เรา 2 คนทำใจกันอยู่ซักพัก ว่าบ้านจะมีสันออกมาจากผนังรอบบ้าน หน้าตามันคงแปลกๆพิลึก มองในแง่ดีคิดซะว่าบ้านเรามีชั้นวางของรอบบ้าน

ต่อด้วยประตูหน้าบ้าน

เปลี่ยนเป็นบานเฟี้ยม 4 บาน เป็นไม้สัก (สัักแต่ว่าจะขาย) เป็นร้่านเล็กๆร้านนึงแถวบางโพ ซื้อช่วงงานถนนสายไม้ แต่ราคาไม่แพง

บานประตูและหน้าต่าง

เขาว่าไม้สัก แต่อย่าคิดว่าปลวกกินไม่ได้ ต้องไม้สักแก่ๆถึงจะดี

ธรณีประตู

และเริ่มปูกระเบื้องหน้าประตู

แท่นชมจันทร์เริ่มก่อตัว

ผังชั้นล่างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ต่อด้วยช่องแคบมะละกา สุขา…วดี

แล้วมาต่อกันที่ชั้น 2 กันต่อเลยครับ

ภายนอกแต่งหน้าทาปากตามสมัยนิยม ตีเกร็ดเชอร่าที่หน้าจั่ว

ด้านข้างนิดหน่อย

เพดานด้านนอกติดสมาทบอร์ด

ก่ออิฐกั้นใต้หลังคาระหว่าง 2 บ้าน ขึ้นโครงฝ้าทีบาร์

กรุแผ่นกันความร้อน

จากเดิมที่ใช้รังนกฉนวนธรรมชาติกันความร้อนมานานหลายสิบปี เช้ามาคุณจะตื่นมาพร้อมเสียงนกร้องจิ๊บๆ นึกว่านอนอยู่เขาใหญ่

สิ่งที่ปรับปรุงชั้น 2 คือเปลี่ยนหลังคา เปลี่ยนฝ้าทั้งเพดานและผนังใหม่ทั้งหมด

โดยผนังเบาห้องนอนใหญ่เดิมกั้นเป็นห้องเหลี่ยมตรงๆธรรมดา แต่ผู้รับเหมาเสนอให้กั้นเป็น ตู้เสื้อผ้าไปในตัว หรือ walk in closet แต่ตอนนี้ walk in ได้อย่างเดียว closet ยังไม่มีตังค์เอามาปิด

ไปครับ ลงข้างล่างกัน

มาต่อกันเลยครับ ชีวิตนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้

ต่อจากนี้เป็นภาพรวมที่ใกล้เสร็จแล้วเหลือเก็บรายละเอียดนิดหน่อยกับตกแต่ง ภาพนี้เป็นผนังฝั่งขวามือติดกับประตูบ้าน

ภาพนี้คือเข้าบ้านมาซ้ายมือคือหัวใจของบ้านนี้

ครัวไทยสู่ครัวโลกภายนอก ทั้งหน้าบ้านและในบ้าน

หน้าต่างซ้ายมือของครัว

ส่งอาหารสู่แท่นชมจันทร์

ช่องเซอร์วิสอาหารสู่โซนนั่งเล่น

กินไปดูทีวีไป เน้นนะครับว่าบ้านนี้กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน

ผนังครัวกรุโมเสกกลมสีน้ำเงินยาแนวสีดำ ที่ ผบทบ. (แฟนผม) ภูมิใจนำเสนอ

บ่อเดอะริงถูกปิดตายเรียบร้อยแล้ว

และทำเป็นที่เก็บของใต้บันไดแทนครับ

ช่องแคบมะละกาหน้าห้องน้ำ

โซนนี้ถูกกั้นแบ่งพท.แยกออกจากห้องน้ำ

จุดประสงค์เดิมคือทำห้องดนตรี ตอนนี้กลายเป็นห้องอ่านหนังสือ นั่งเคาะถ้วยถังไปพลางๆก่อน

โซนนั่งเล่น

หลังจาก กฟผ.ติดต่อมาขอเข้าพิพิธภัณฑ์ แต่มันยังทำงานได้สมชื่ออยู่ เลยยังได้ทำหน้าที่เป็นปู่โสมเฝ้าไฟต่อไป

ตู้ไฟใช้ไม้เก่าต่อกล่องทาสี ผู้รับเหมาอาสาทำให้มีหรือจะไม่เอา

ขึ้นข้างบนกันครับ

พื้นไม้เก่าทาอีพอกซ์ซี่สีขาวทั้งชั้น ซึ่งเดิมเป็นสีพื้นไม้ทำให้ดูมืด ร้อน และอึมครึม

อีกด้านครับ

หมุนซ้าย

ซ้ายอีกครับ เป็นทางออกสู่ระเบียง

ห้องนอนใหญ่ (ไม่มาก)

ทำสีเย็นและขรึมเพื่อให้นอนได้สบาย

Walk-in closet

ส่วนที่เปลี่ยนการกั้นผนังเบาใหม่

ไฟดูหนังสือครับ

สีของตัวบ้านภายนอก ครั้งแรกที่ไปเห็นต้องขอยอมรับเลยว่าเหลืองกว่าที่คิดไว้มาก (สีเหลืองมัสตาร์ด)

หน้าเสียทั้ง 2 คนมองตากันปริบๆ จนผู้รับเหมาถามว่าจะเปลี่ยนสีไหม แต่ก็นะเลือกกันมาเอง คิดซะว่าเดี๋ยวแดดเลียก็ซีดแล้ว ทาไปโลด

ข้างบ้าน

ทางเข้าบ้าน

ปูกระเบื้องลายโบราณเป็นพรมเดิน

แท่นชมจันทร์อันนี้ทรหดมาก

กว่าจะได้วิธีทำ ต้องขอขอบคุณ คุณรัฐสภาเจ้าของ Nagaya Resort สวนผึ้ง ที่เสียสละเวลาแนะนำวิธีทำอย่างละเอียด เนื่องด้วยไปพักมา แล้วชอบแท่นกลมกลางสนามหญ้าของทางรีสอร์ท ซึ่งเป็นปูนขาวขัดมัน มันจนเนียนมากๆ นอนเย็นสบาย เลยขอมาทำที่บ้านบ้าง