บ้านบางหลังที่มีห้องว่างๆ อยู่แต่ไม่ได้ใช้งาน หากเวลาผ่านไปนานๆ ก็อาจจะทำให้ดูเก่าหมอง เมื่อถึงเวลาอันสมควรและมีเงินทุนเพียงพอ ก็ควรที่จะทำการรีโนเวทเพื่อชุบชีวิตให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
เหมือนกับห้องของคุณ สมาชิกหมายเลข 1869945 เป็นห้องที่อยู่ในบ้านไม้โทรมๆ อายุกว่า 30 ปี ได้ถูกทำการรีโนเวทให้กลับมาดูดีมีชีวิตชีวา ใช้งานได้อีกครั้ง ลองมาชมกันดูครับว่ามีขั้นตอนและใช้งบประมาณยังไงบ้าง เผื่อเอาไปเป็นแนวทางการรีโนเวทห้องที่บ้านของเรากันบ้างเนอะ
Review : เปลี่ยนห้องบ้านไม้โทรมๆ อายุ 30 ปี ให้กลับมาดูดี มีชีวิตชีวาอีกครั้ง!!
สวัสดีค่ะ ทุกๆคน เป็นครั้งแรกของการมาแชร์เรื่องราวในพันทิป หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
เริ่มแรกเลยค่ะ
เดิมบ้านหลังนี้อยู่มานานประมาณ 31 ปีแล้วค่ะ แรกเริ่มเลยเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นและก็มีการต่อเติมชั้นล่างด้วยการก่อปูน จึงทำให้ สมาชิกในบ้านส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกันอยู่ชั้นล่าง เลยปล่อยให้ห้องด้านบนซึ่งเป็นไม้ ว่างรกไว้เป็นเวลากว่า 10 กว่าปี จึงนึกเสียดายอยากจะปรับปรุงให้ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
สภาพบนบ้านที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มานาน ก็เป็นแบบนี้ละค่ะ (แอบเก็บของไปทิ้งบางส่วน คือจริงๆรกมาก)
อีกมุมค่ะ
เตียงสมัยแม่ยังสาว อิๆ
จากนั้นก็ปรึกษากับพ่อว่าอยากจะปรับปรุงข้างบนด้วยงบตัวเองอันมีอยู่น้อยนิด ก็คำนวณคร่าวๆ ตั้งงบไว้ที่ 45000-50000
โดยจะติดฝ้า และทำผนังด้วยแผ่นยิปซั่ม ทั้งห้องเลย และจะกั้นห้องไว้เป็นห้องนอนด้วย 1 ห้อง รวมถึงขัดพื้นไม้ให้เงายิ่งขึ้นค่ะ (ลืมบอกพื้นที่บนบ้านยาว 6.5 *6.5 เมตร ค่ะ)
เริ่มต้นก็ติดต่อช่างแถวบ้าน มาเจ้าแรกเสนอราคาโหดมาก คือ เฉพาะ ขัดพื้นไม้ และทาสีพื้นไม้ ให้ราคามา 20000 คือมันครึ่งนึ่งของงบเลยอะ ไม่ไหวค่ะหาช่างใหม่ จนสุดท้ายได้ราคาพอเหมาะพอควร หรือพอรับได้ อิอิ เลยได้เริ่มตกลงจ้างและมาประกอบร่าง ทำฝ้า ดังนี้
ซึ่งช่างก็แสนจะใจดี บอกสามารถเลือกรูปแบบฝ้าได้เลยเอาหลุมแบบไหน คือก็ไปดูแบบมาเยอะนะ แต่สุดท้ายก็ชอบแบบเรียบๆง่าย เลยได้มาเป็นแบบนี้
ยังดูไม่เป็นหลุมเลย
จากนั้นก็เริ่ม ล้อมรอบผนังด้วยยิปซั่ม ค่ะ
.
จากนั้นเขาก็จะมาปิดร่องรอยต่อเพื่อให้สวยงาม
เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
ในจุดนี้งบประมาณที่ใช้ไปคือ ค่าช่างทำฝ้ายิบซั่ม และล้อมผนังทั้งหมด รวมอุปกรณ์ ค่าของด้วย เหมารวม 30000 ค่ะ
มาต่อทำพื้นไม้ให้เงานะคะ
เมื่อเขาปิดร่องรอยอารยธรรม เอ้ย! รอยผนังเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ถึงคิวของพื้นไม้ เรามาดูพื้นเดิมๆกันก่อนค่ะ
โฟกัสที่พื้นนะคะ 555 โดยพื้นยังไม่เรียบเสมอกัน เลยติดต่อช่างให้มาขัดพื้นและทาสีพื้นให้ ในจุดนี้ ค่าเสียหาย 8000 บาทค่ะ
สภาพพื้นไม้หลังขัดแล้ว แอบมีย้อมสีแล้วนิดๆ อิๆ
คราวนี้ย้อมสีทั้งหมดให้สีเข้มขึ้นดูซิจะเป็นไง
ดูสวยขึ้นเลยอะ แต่ขออีกนิด ขอความเงาอีกหน่อย
เงาอีกๆๆ
เห็นแล้วรู้สึกมีแฮงหัวใจค่ะ (มีแฮงภาษาอีสานนะคะ มีหลายความหมาย 555 ในทีนี้หมายถึง รู้สึกชื้นใจ)
แต่ตอนขัดพื้นนี้รู้สึกสงสารช่างมากเลยค่ะ ฝุ่นนี้ฟุ้งกระจายมาก ทาสีก็ทายาก คือก็แอบคิดทำไมเขาคิดถูกจัง แฮ่ะๆๆ
(แต่ราคา 8000 นี้เฉพาะค่าช่างนะคะ ไม่รวมค่าสีย้อม สีเคลือบเงา และอุปกรณ์อื่นๆ อีกประมาณ 6000)
จากนั้นงบก็เหลือน้อยลง น้อยลง จากที่ตั้งเป้าไว้ ที่ 45000-50000 ก็ใช้ไปแล้ว 30000+8000+6000=44000 ยังไม่ได้ทาสี ต่อไฟเลย T_T
ขั้นต่อไปคือทาสีค่ะ เจ้าของกระทู้มีประสบการณ์ทาสีนิดหน่อย เลยอยากจะโชว์ฝีมืออันน้อยๆ นิดๆ ในบ้านตัวเองดูบ้าง (อันที่จริงคือ งบไม่พอ 555 อ้างให้ดูดีจริงๆ) ลองมาดูค่ะจะออกมาเป็นสภาพไหน
ขั้นแรกก็ทารองพื้นก่อน 2 รอบเบาๆ
แบบนี้กว่าจะได้มากล้ามขึ้นใช่เล่นนะคะ เป็นการออกกำลังกายไปในตัว เป็นผู้หญิงคิดบวก สวยๆ 555
ถึงขั้นต้องเลือกสีและจะใช้สีอะไรดี ตอนทำนี้แบบเต็มหัวไปหมด แต่พอดีไปโดนจังหวะชอบสีเทาขาว เลยลองเล่นทาสีสองสีดู จะเริศหรือจะร่วง มาดูกันค่ะ
.
.
.
ทาเองอาจจะไม่สวย และเรียบร้อยมาก แต่ก็ภูมิใจ เหนื่อยดีค่ะ สิ่งที่ได้คือกล้ามค่ะ กล้ามแขน แลดูแมนมากๆ ใส่เสื้อแขนกุดนี้แทบไม่ต้องเบ่งกล้ามเลยค่ะ เป็นมัดๆเชียว งื้อๆ จริงๆเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแบ้วๆนะคะ 555 แต่กล้ามใหญ่ไปหน่อย 555 แต่ไม่เป็นไรค่ะเพื่อสุขภาพ และประหยัดตังในกระเป๋าเรา เราทำได้ คริๆ
เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่ยังไม่มีเฟอนิเจอร์ตกแต่งห้องสวยๆเลย เดี๋ยวถ้าตกแต่งยังไงแล้วจะมาอัพเดทอีกทีนะคะ
หากพูดถึงจบเพียงแค่การติดฝ้า และติดผนังด้วยยิปซั่ม รวมกับขัดพื้นไม้ เคลือบเงา จนถึงขั้นทาสีห้องด้วยตัวเอง
งบที่ใช้ไปทั้งหมดคือ 49000 นะคะ
ซึ่งหลังจากนั้นก็เก็บเงินเพิ่มเปลี่ยนนู้นเปลี่ยนนี้ 555 งบเลยค่อนข้างบานปลายคะ เพราะ
1. เปลี่ยนหน้าต่างเป็นแบบกระจก 4บาน
2. ซื้อประตูห้อง 2 บาน
3. ติดไฟหลายดวง
ในส่วนนี้ก็ประมาณ 10000 บาท ดังนั้นรวมทุกอย่าง ก็อยู่ที่ 59000 บาทคะ อยู่ในเกณฑ์รับได้ ยิ้มบานเท่ากระด้ง อิๆ อย่าลืมไปทำบ้านให้น่าอยู่กันบ้างนะคะ
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 1869945