คอนโดมิเนียม เป็นที่พักอาศัยทางเลือกในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีราคาที่ดินสูง คนจึงหันไปเลือกซื้อคอนโดมิเนียม เราะราคาถูกกว่า และสะดวกสบาย คอนโดมิเนียมหลายแห่งมักจะขายแบบพร้อมอยู่ พร้อมตกแต่ง แต่บางครั้งก็มักจะเป็นห้องเปล่าๆ ให้เราไปตกแต่งกันเอาเอง
วันนี้ ในบ้าน ก็มีเรื่องราวดีๆ จากคุณ SulfurousAcid มาแบ่งปันเพื่อนๆ ซึ่งได้ทำการ ตกแต่งคอนโดฯ ขนาด 25 ตารางเมตร ด้วยตัวเอง เน้นสไตล์ออกไปโทนสีเข้มขรึม ผสมกับความอบอุ่น พร้อมฟังก์ชันการใช้งาน และดีไซน์ที่ตนเองชื่นชอบ ลองไปตามเองไปเดียไว้ศึกษาข้อมูลไปพร้อมกันเลยครับ
แชร์ประสบการณ์ตกแต่งคอนโดแบบมั่วๆ ห้อง 25 ตร.ม. ด้วยตัวเอง เน้นเข้มๆ แต่อบอุ่น
(โดย SulfurousAcid)
สวัสดีครับ เป็นกระทู้เเรกของผม ที่อยากจะแชร์ประสบการณ์แต่งห้องของตัวเองครับ หลังจากที่นั่งดูกระทู้แต่งห้อง รีโนเวทห้องของสมาชิกท่านอื่นมาหลายปี ตอนนี้ก็ถึงตาผมบ้าง เพราะเคยคิดไว้ว่าถ้ามีห้องเป็นของตัวเองจะนำมาเเชร์ใน pantip บ้างครับ
แต่ต้องออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้แต่งสวย หรือมีเซนส์ด้านศิลปะอะไรมาก เเต่อาศัยหา inspiration หาไอเดียจากที่อื่น เเล้วมาผสมรวมกันแบบมั่วๆครับ 55
จุดเริ่มต้นคือผมหา condo อยู่ เดิมผมเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่ เพราะเป็นคน ตจว ที่เข้ามาทำงานใน กทม ครับ เเต่มีเงื่อนไขในการซื้อคือ ไม่อยากให้เกิน 2M บวกลบได้นิดหน่อย
location อยู่ในบริเวณที่ไม่ห่างจาก BTS หรือ MRT มากนัก เพราะผมไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้เดินทางครับ (แต่ผมให้น้ำหนักไปที่ BTS มากกว่า เพราะตอนนี้ที่ทำงานอยู่แนว BTS สายสีเขียวครับ)
โดยระยะห่างที่ไม่มากสำหรับผมคือ ห่างไม่เกิน 1 km. ครับ บางคนอาจจะรู้สึกว่าไกล แต่ด้วย budget จึงต้องมามองคอนโดที่ระยะห่างจากรถไฟฟ้าประมาณนี้แทนครับ TT และผมไม่ติดอะไรถ้าจะต้องนั่งวินไปขึ้นรถไฟฟ้าครับ เน้นเร็วไว้ก่อน 55
อีกปัจจัยที่ใช้เลือกพื้นที่คอนโดคือ อยู่ใกล้กลับอพาร์ทเมนท์เดิมที่เคยเช่าครับ เหตุเพราะผมใช้ชีวิตในพื้นที่มาเเถวนี้ ค่อนข้างรู้ทางในระดับนึงเเล้ว ไม่อยากปรับตัวอะไรใหม่เเล้วครับ 5555 อีกอย่างมีเพื่อนอยู่เเถวๆนี้ด้วยเลยรู้สึกอุ่นใจขึ้นครับ
หลังจากที่กำหนดเงื่อนไขเเล้ว ก็เลยตระเวนดูคอนโดรอบๆย่านที่ตัวเองสนใจครับ เเละห้องที่ผมได้มาคือ ห้องเกือบจะสตูดิโอ 25.5 ตรม. ครับ (แต่โครงการเรียกว่า 1 Bedroom นะ55) โดยเป็นคอนโด low rise ที่ส่วนกลางค่อนข้างเยอะ เเละระยะพอนั่งวินมอไซไปรถไฟฟ้าได้ครับ
นี่คือแปลนห้องครับ จะเป็นแปลงห้องหน้าแคบ เเต่ก็เเบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานชัดเจนในระดับนึงครับ เเละครบทุกฟังก์ชั่น ข้อดีอีกอย่างคือทางโครงการเเถมเฟอร์มาให้ด้วยครับ ก็ประหยัดไปได้ส่วนนึง
ผมจึงตัดสินใจจอง เเละยื่นเรื่องสินเชื่อบ้านทันทีครับ เเละระหว่างนี้ ก็เข้ามาตรวจห้อง เช็ค defect ตาม step ครับ และช่วงนี้เอง ผมก็วัดพื้นที่เเต่ละจุดมาด้วยเลยครับ เผื่อสำหรับเเพลนการวางเฟอนิเจอร์อื่นๆที่จะซื้อเพิ่ม เเละเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่จำเป็นครับ ก็วัดระยะจุดวางเผื่อไว้เลย
นี่คือห้องเดิมๆ ที่ยังไม่ผ่านการตกเเต่งครับ
.
ตื่นเต้นมากครับ 555 ระหว่างนี้ก็ออกแบบ โดยใช้ app ที่หาง่ายๆใน appstore มาลองจัดวางดูครับ วิญญาน Interior(ตัวปลอม)ก็เข้าสิงครับ
ลองจัดวางไปมา ปรับเเต่งนู่นนี่ สุดท้ายได้โทนสีออกมาคือ เป็นโทนน้ำเงินเข้มครับ เพราะเป็นคนชอบสีน้ำเงินอยู่เเล้ว แต่ถ้าน้ำเงินเข้มทั้งห้องก็จะยิ่งเเคบ เลยแอบหยอดสีเทาไปบางจุด เพื่อให้ดูมีจังหวะ (ทฤษฎีมั่วเอาครับ 555) ให้ดูป็นโซนๆ ไป
หลังจากได้แบบที่ปั่นมั่วเอาเองจนถูกใจเเล้ว ก็ต้องหาเฟอนิเจอร์ และของตกเเต่งเพิ่มที่ตรงใจครับ เลยมองไปที่ ikea ก่อนด้วยดีไซน์ที่เป็นแนวที่ผมชอบ จริงๆผมก็ทำการบ้านก่อนไป พอสมควร เพื่อประมาณ budget ไม่ให้เกินงบ และเช็คว่าขนาดของเฟอนิเจอร์ที่สนใจ จะพอดีกับที่มุมห้องที่เราคิดไว้หรือเปล่า
หลังจากเเพลนเเล้วก็ลุยเลยครับบบ ไปอิเกีย
การไปอิเกีย สิ่งที่ยากคือการห้ามใจครับ 555 อยากได้นู่นนี่เต็มไปหมด ของใช้ก็ได้ติดไม้ติดมือมาเยอะครับ เพลินมาก
เหนื่อยกว่าไปเดินซื้อคือประกอบครับ แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยเหนื่อยครับ เพราะเพื่อนประกอบให้ ผมยืนให้กำลังใจ 5555
หลังจากนั้น ก็นัดวันช่าง ให้มาติดม่าน เเละวอลเปเปอร์ครับ ผมจ้างร้านทำร้านเดียวกันเลยโชคดีที่ได้ร้านที่ทำงานไว เรียบร้อย ถ้ามีตำหนิก็เเก้ให้เลย
.
ผมเลือกติดเป็นสีน้ำเงินเข้มเเละเทาอ่อน สลับกันไปครับ อย่างที่บอก เพื่อให้ห้องดูไม่น่าเบื่อ เเละกลัวว่าสีน้ำเงินเยอะไปจะทำให้ห้องมืดครับ
หลังจากติด wallpaper เสร็จก็ได้ตามภาพครับ
.
หลังจากนั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่เเบบเต็มตัวครับ หลังจากอยู่มาได้ซักพัก ก็ซื้อของนู่นนี่มาเเต่งเพิ่ม เช่น ตู้หนังสือ ต้นไม้ปลอม เเละต้นไม้จริง ให้ห้องดูสดชื่นขึ้นครับ
ระหว่างที่มาอยู่นี้ ผมก็จัดลองย้ายเฟอไปนู่นนี่บ่อยๆอยู่ครับ เพราะพอได้เข้ามาอยู่จริง บางอย่างที่เเพลนไว้ ก็ไม่เป็นเเบบที่เราคิดครับ เลยต้องoptimizeตามการใช้งานครับ 555 นี่ก็ถือเป็นข้อดีของเฟอที่ไม่บิ้วอินนะครับ สามารถขยับ เคลื่อนได้ตามใจชอบ จนได้รูปแบบที่ลงตัว หลังจากอยู่ไปได้เดือนกว่าๆครับ
เริ่มจากโซนครัวครับ ไม่ได้ตกแต่งอะไรเยอะครับ เฟอร์นิเจอร์ของโครงการให้มา แต่ก็เลือกใช้ภาชนะสีคล้ายๆกัน ให้ดูสบายตาครับ 55
วางต้นไม้จริงไว้ตรงชั้นวางรองเท้าชั้นบน เพื่อให้สดชื่นดูสบายตาขึ้นครับ เเละบังสายตาจากรองเท้าที่ไม่ค่อยสะอาดของผมด้วย 55
ตู้เย็นโชคดีที่สีตู้เย็นที่ผมมีอยู่ ซื้อมาเมื่อ 2 ปีที่เล้วเข้ากับเฟอที่โครงการเเถมมาให้พอดีเหมือนนัดกันมา แต่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดูเด่นไปหน่อย เลยตัดรูปภาพที่เคยปรินท์ไว้ +ภาพฟิล์มขาวดำที่เคยถ่ายไว้มาแปะทับไปครับ
ถัดมาเป็นโซนนั่งเล่น จะค่อนข้างเเคบครับ เเละอยู่ถัดจากโซนครัวเลย โซนนั่งเล่นจะมีเเค่โซฟา เเละตรงข้ามที่เป็นชั้นวางทีวี ตู้เก็บร้องเท้าครับ ส่วนนี้ เฟอร์นิเจอร์ ทั้งโซฟา ชั้นวางทีวีต่างๆโครงการมีมาให้ ผมเพียงเเค่เอาพรอพต่างๆมาวางครับ
บริเวณโซฟา ผมซื้อปลอกหมอนอิงมาจากอิเกียครับ เดิมหมอนอิงเป็นสีเดียวกับโซฟา เเต่ผมอยากให้มันดูมีอะไร เลยเปลี่ยนสีหมอนอิงซะเลยครับ
ชั้นวางทีวีก็เอารูปภาพต่างๆ มาวางไม่ให้ดูโล่งไปครับ
ทีวี 55 นิ้ว เอาไว้ดูเน็ตฟลิกชิลๆ ครับ
ถัดไปก็เป็นโซนห้องนอนครับ บางคนอาจจะมองว่ามืด เเต่ผมว่าใส่โคมไฟ ให้ไฟสีส้มๆหน่อย ปรับบรรยากาศห้องให้ดูอบอุ่นขึ้นได้เยอะเลยครับ
หมอนอิง เอามาใส่บนเตียงเพิ่ม ให้ที่นอนดูไม่เเห้งไป ฟูๆ น่านอนครับ (เกี่ยวมั้ย -0-) ปลายเตียงผมวางเก้าอี้นั่งพิง ไว้เวลานอนเล่นเกมชิวๆครับ กับกระจกไว้ส่องเวลาเป่าผม 555
ห้องผมจะไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะไม่ค่อยได้ใช้ครับ
ข้างๆเป็นตู้เสื้อผ้าครับ
ข้างๆเตียง จะมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ ผมจัดเป็นโซนโต๊ะทำงาน เเทนครับ โดยเฟอนิเจอร์โซนนี้ ซื้อมาเติมเองหมดครับ
โต๊ะทำงานผมใช้เป็นโต๊ะกระจก ให้ดูโปร่งๆ โล่งๆ ไม่ทึบไปครับ อีกอย่างจะได้ไม่บังเเสงจากหน้าต่างเวลากลางวันด้วยครับ
เเละใส่พรมขนนุ่มไว้ จะได้รู้สึกสบายเท่า เเต่คิดว่าไม่นานคงต้องเอาออกครับ เพราะรู้สึกว่าเป็นตัวสะสมฝุ่นอย่างดี TT
สายไฟรกหน่อยนะครับ 55
ทำงานไป ดูวิวจากข้างนอกไป ถ้าได้เบียร์เย็นๆซักกระป๋องคงจะดีครับ
มุมมองจากโต๊ะทำงาน เมื่อมองไปหน้าห้องครับ
จบละครับ รีวิวการเเต่งห้องของผม หากผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ปิดท้ายด้วยรูปห้องตอนกลางวันครับ
ที่มา : SulfurousAcid .